รู้จักแนวคิด 40-70 ที่จะช่วยให้เรา ตัดสินใจได้เร็วขึ้น

รู้จักแนวคิด 40-70 ที่จะช่วยให้เรา ตัดสินใจได้เร็วขึ้น

21 ส.ค. 2021
รู้จักแนวคิด 40-70 ที่จะช่วยให้เรา ตัดสินใจได้เร็วขึ้น | THE BRIEFCASE
การตัดสินใจทำอะไรให้ถูกต้อง นับว่าเป็นหนึ่งในสกิลที่ใครหลายคนอยากมี เพราะไม่ว่าเราจะทำอาชีพอะไร ก็มักจะมีช่วงเวลาที่เราต้องตัดสินใจในเรื่องสำคัญอยู่เสมอ
แต่หลายครั้งเราก็ไม่สามารถตัดสินใจได้สักที เพราะไม่รู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้วหรือยัง และกว่าจะตัดสินใจได้ถูกต้อง บางทีมันก็สายเกินไปแล้ว
เพราะฉะนั้นการตัดสินใจที่ดี นอกจากจะต้องถูกต้องแล้ว ยังต้องตัดสินใจได้ “รวดเร็ว” อีกด้วย
วันนี้ THE BRIEFCASE จะขอเสนอ แนวคิดการตัดสินใจแบบ 40-70 ที่จะเข้ามาช่วยให้การตัดสินใจนั้นเป็นสิ่งที่ทำได้เร็วขึ้น
แนวคิดนี้ถูกคิดค้นขึ้นมาโดย Colin Powell ซึ่งเป็นทั้งนักการเมือง นักการทูต และอดีตนายพลสัญชาติอเมริกัน
โดยเขาได้บอกว่า เมื่อถึงช่วงเวลาที่เจอการตัดสินใจที่ยากลำบาก เราควรมีข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจอยู่ที่ 40-70% ก่อนที่จะตัดสินใจ
เนื่องจากหากมีข้อมูลน้อยกว่า 40% จะเป็นการตัดสินใจที่เร็วเกินไป และข้อมูลน้อยเกินไป ในขณะเดียวกันหากเรามีข้อมูลเกิน 70% ก็อาจจะเป็นการตัดสินใจที่ช้าเกินไป จนอาจทำให้พลาดโอกาสดี ๆ ไปแล้วก็ได้
หลายคนน่าจะสงสัย แล้วเราจะนับเปอร์เซ็นต์อย่างไร ว่าเรามีข้อมูลอยู่เท่าไรแล้ว ?
Colin Powell ให้เทคนิคตรงนี้เอาไว้ว่า
ให้อาศัยการอ้างอิงจากความรู้ที่เรามี ประสบการณ์ และความมั่นใจ เข้ามาช่วยประมาณการว่า สิ่งที่ต้องตัดสินใจนี้ เรามีข้อมูลอยู่เกิน 40% แล้วหรือยัง
ทั้งนี้อีกสิ่งหนึ่งที่จะเข้ามาเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจก็คือ “สัญชาตญาณ”
ถ้าหากคุณมีความรู้สึกว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว การตัดสินใจในจังหวะที่เหมาะสม ก็จะช่วยให้สามารถพาตนเอง หรือองค์กรให้ประสบความสำเร็จได้ โดยไม่ต้องรอข้อมูลให้ครบ 100% หรือมากถึง 80-90% ซึ่งอาจต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นมาอีกมาก
อย่างเช่นกรณีของ Henry Ford ผู้ก่อตั้งรถยนต์ Ford เองก็เคยมีการตัดสินใจที่บ้าบิ่น
เขาเคยตัดสินใจขึ้นค่าแรงให้กับพนักงานในโรงงานเป็นเท่าตัว เพื่อลดอัตราการลาออกของพนักงาน
เนื่องจากสาเหตุที่พนักงานเหล่านี้เบื่อการทำงานซ้ำ ๆ และขาดแรงจูงใจในการทำงาน
จนทำให้กลุ่มคนเหล่านี้มักจะลางานอยู่บ่อย ๆ และเปลี่ยนงาน
โดยเขามองว่า การขึ้นค่าแรงนี้ไม่เพียงแค่ช่วยดึงคนให้เข้ามาทำงาน หรือลาออกน้อยลง
แต่ยังช่วยให้พนักงานมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ใช้จ่ายได้เยอะขึ้น และสุดท้ายก็จะมีเงินมากพอที่จะเป็นเจ้าของรถ และกลายมาเป็นลูกค้าของ Ford ได้เช่นกัน
สำหรับคนในยุคนั้นหลายคนอาจมองว่า นโยบายนี้เป็นการลงทุนที่ต้องใช้เงินมหาศาล และยังไม่เคยมีผู้ประกอบการรายไหนทำอะไรแบบนี้มาก่อน
แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาก็เรียกว่าเกินคาด เพราะจากเดิมที่มีอัตราการลาออกของพนักงานอยู่ที่ 360%
ก็เหลือเพียงแค่ 16% เท่านั้นยังไม่พอ ประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานก็ดีขึ้นด้วย
และทำให้หลังจากที่ประกาศการขึ้นเงินเดือนพนักงานได้สองปี ผลกำไรของ Ford ก็เพิ่มขึ้นจาก 30 ล้านเหรียญ เป็น 60 ล้านเหรียญ
จากตัวอย่างนี้เราก็จะพบว่าข้อมูลที่คุณ Henry Ford มีคืออัตราการลาออก และปัญหาของพนักงาน
ที่ต้องการแรงจูงใจในการทำงานที่มากขึ้น และเรื่องตัวเงิน ก็คือหนึ่งในสิ่งที่พวกเขาต้องการ
เมื่อเขาได้ลองนำข้อมูลที่เขามีมาประกอบกับความรู้ ประสบการณ์ และสัญชาตญาณในการตัดสินใจที่เด็ดขาด ก็ส่งผลให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจในที่สุด แม้เขาจะไม่ได้มีงานวิจัยมายืนยัน 100% ว่าสิ่งที่เขาตัดสินใจมันจะเวิร์กก็ตาม
ฉะนั้นสำหรับการตัดสินใจ ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม การมีข้อมูลใช้ประกอบการตัดสินใจเป็นสิ่งที่ดี
แต่อีกสิ่งที่จะขาดไม่ได้เลยคือสัญชาตญาณและความเด็ดเดี่ยวที่จะตัดสินใจ
ซึ่งเมื่อนำทุกอย่างมารวมกันก็จะทำให้เราสามารถตัดสินใจได้เด็ดขาดขึ้นนั่นเอง..
References:
-https://www.financialexpress.com/opinion/the-40-70-rule-of-decision-making/1940295/
-http://integratedleader.com/articles/40-70rule.pdf
-http://sinkiid.blogspot.com/2015/06/henry-ford.html
© 2024 BrandCase. All rights reserved. Privacy Policy.