ใคร ๆ ก็ใช้ K-My Invest ช่องทางจองซื้อหลักทรัพย์ออนไลน์ ของคนยุคนี้
KBank x ลงทุนแมน

สังเกตไหมว่า ช่วงเวลานี้คนเราหันมาพึ่งพาเทคโนโลยีกันมากขึ้น
ส่วนหนึ่งก็เพราะความจำเป็นในการดำเนินชีวิตในช่วงของการระบาดของโควิด-19

ไม่น่าเชื่อเลยว่า เทคโนโลยี จะทำให้เราทำงานที่บ้านนานนับเดือน โดยไม่ต้องไปออฟฟิศ
และสามารถช้อปปิ้งออนไลน์ได้ โดยไม่ต้องไปศูนย์การค้า
หรือแม้แต่การลงทุน ก็สามารถจองซื้อหลักทรัพย์ออนไลน์ โดยไม่ต้องไปสาขาของธนาคาร

คนรุ่นใหม่ในยุคนี้ก็ให้ความสนใจกับการลงทุนมากขึ้น
เพราะเทคโนโลยีทำให้ทุกคนเข้าถึงการลงทุนได้ง่ายและสะดวกขึ้นกว่าในอดีต
ดังนั้น เมื่อพูดถึงช่องทางการลงทุนออนไลน์ ใคร ๆ ก็คุ้นเคยและเลือกใช้ช่องทาง K-My Invest กัน มาดูกันสิว่าเพราะอะไร

อย่างในช่วงเปิดจองซื้อหุ้น IPO ชื่อดังอย่าง OR และ TIDLOR รวมถึงการจองซื้อหุ้นกู้ที่ผ่านมาในปี 2564
รู้หรือไม่ว่า นักลงทุนรายย่อยหันมาจองซื้อทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ K-My Invest มากถึง 80% ของจำนวนผู้จองทั้งหมดผ่านธนาคารกสิกรไทย เลยทีเดียว

ว่าแต่ K-My Invest คืออะไร ทำไมจึงกลายเป็นที่นิยมของคนยุคนี้ ?
แล้วในตอนนี้ มีหลักทรัพย์ใดที่น่าจองซื้อกันบ้าง ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

จุดเริ่มต้นของ K-My Invest เกิดขึ้นครั้งแรกในปี 2019
ขณะนั้น ธนาคารกสิกรไทย ต้องการพัฒนา K-My Invest ให้เป็นช่องทางจองซื้อหลักทรัพย์ออนไลน์ได้ทุกที่ ทุกเวลา ตลอด 24 ชม. บนเว็บไซต์ www.kasikornbank.com/kmyinvest
ซึ่งหลังจากจองซื้อเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถชำระเงินผ่านแอป K PLUS ได้ทันที

จุดนี้เองที่ทำให้ K-My Invest มีความน่าสนใจไม่น้อย
เพราะเราสามารถจองซื้อหลักทรัพย์ออนไลน์ได้เอง เกิดความสะดวกสบาย และมั่นใจได้ในความปลอดภัย ภายใต้มาตรฐานระบบสากล
ที่สำคัญก็คือ ยังช่วยประหยัดเวลา ไม่ต้องเดินทางมายังสาขาธนาคารแต่อย่างใด

ในปัจจุบัน K-My Invest กลายเป็นช่องทางจองซื้อหลักทรัพย์ออนไลน์อย่างเต็มตัว
ทั้งประเภทหุ้น IPO, หุ้นกู้ พันธบัตรออมทรัพย์ และ REIT ไปเรียบร้อยแล้ว

มาถึงตรงนี้ ต้องยอมรับว่า ธนาคารกสิกรไทยมีความคิดการณ์ไกล
และพัฒนา K-My Invest ได้ถูกจังหวะ ยิ่งในช่วงเวลาของการระบาดของโควิด-19 ด้วยแล้ว
ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมหุ้น IPO ร้อนแรงอย่าง OR และ TIDLOR และหุ้นกู้อื่น ๆ
จึงมีสัดส่วนการจองซื้อออนไลน์ผ่าน K-My Invest มากกว่าลูกค้าที่มาจองซื้อที่สาขาธนาคาร เสียอีก

ทั้งหมดนี้ จึงช่วยตอกย้ำได้ว่า ธนาคารกสิกรไทย เป็นหนึ่งผู้นำที่ให้บริการซื้อหลักทรัพย์ออนไลน์ และการเงินยุคดิจิทัล นั่นเอง

แล้วตอนนี้ K-My Invest เปิดจองอะไรที่น่าสนใจบ้าง ?

ถ้าพูดถึงหนึ่งในผู้นำธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารในประเทศไทย
หลายคนก็น่าจะนึกถึงกลุ่ม CP หรือ เครือเจริญโภคภัณฑ์

ล่าสุด CPFTH หรือบริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทย่อยของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ซึ่งทุกคนคงรู้จักกันดี โดย CPFTH มีความมุ่งมั่นในการนำเสนอผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์และอาหารที่มีคุณภาพและความปลอดภัยให้กับผู้บริโภค ด้วยกระบวนการผลิตที่ทันสมัยได้มาตรฐานระดับสากล นั้น กำลังจะมีการเสนอขายหุ้นกู้ ในวันที่ 20-22 กันยายน นี้
.
โดยหุ้นกู้ CPFTH เป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนที่ถือหุ้นกู้ ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ที่ระดับ A+ ก็เป็นหุ้นกู้ที่น่าสนใจทีเดียว นักลงทุนที่สนใจสามารถจองซื้อหุ้นกู้ออนไลน์ผ่าน K-My Invest ได้ โดยเสนอขายผู้ลงทุนรายใหญ่ จำนวนจองซื้อขั้นต่ำอยู่ที่ 100,000 บาท จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน โดยมีหุ้นกู้ให้เลือกจองซื้อ 3 รุ่น มีมูลค่ารวมไม่เกิน 15,000 ล้านบาท ได้แก่

รุ่น 6 ปี : อัตราดอกเบี้ย 2.50% ต่อปี
รุ่น 8 ปี : อัตราดอกเบี้ย 3.18% ต่อปี
รุ่น 12 ปี : อัตราดอกเบี้ย 3.70% ต่อปี

ซึ่งวิธีการจองซื้อหุ้นกู้ CPFTH ผ่าน K-My Invest และชำระเงินผ่าน K PLUS มีดังนี้
1. เข้า สู่เว็บไซด์ K-My Investที่ www.kasikornbank.com/kmyinvest และเลือกหลักทรัพย์
2. เลือกช่องทางชำระเงิน K PLUS และใส่ข้อมูลบัตรประชาชนและเบอร์โทรศัพท์ เพื่อยืนยันตัวตนผ่าน K PLUS
3. กลับมาที่ K-My Invest เพื่อทำการจองซื้อ
4. กดยืนยันคำสั่งซื้อ และชำระเงินผ่าน K PLUS
เมื่อสั่งซื้อสำเร็จระบบจะส่งอีเมลและ SMS เพื่อยืนยันการจองซื้อ

ทั้งนี้ ลูกค้าที่มี K PLUS สามารถเข้าใช้งาน K-My Invest ได้ทันที โดยไม่ต้องลงทะเบียนหรือสมัครบริการใด ๆ เพิ่มเติม

นักลงทุนที่สนใจหุ้นกู้ CPFTH เตรียมตัวเข้าไปจองซื้อได้ในวันที่ 20-22 กันยายน นี้ ที่เว็บไซต์ K-My Invest หรือคลิกที่นี่ได้เลย kbank.co/3y11yPp ดูรายละเอียดหุ้นกู้เพิ่มเติมได้ที่ kbank.co/3nKU6VY หรือสอบถามโทร K Contact Center 02 – 8888888 กด 819

คำเตือน : การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน