สรุปเทคนิค ฝึกสมองอย่างไร ให้จำเก่ง และลืมยาก
12 ม.ค. 2022
สรุปเทคนิค ฝึกสมองอย่างไร ให้จำเก่ง และลืมยาก | THE BRIEFCASE
เคยเป็นกันไหม ?
ที่พยายามนึกถึงอะไรบางอย่าง แต่นึกเท่าไรก็นึกไม่ออก
จนบางครั้งก็ทำให้เรารู้สึกหงุดหงิด หรือโมโหตัวเอง
แล้วเคยสงสัยไหมว่า ทำไมในตอนที่เราต้องการมัน แต่เรากลับไม่สามารถได้มันมา
สิ่งที่มีผลต่อความจำของเราคืออะไร ?
THE BRIEFCASE จะสรุปให้ฟัง
จากรายงานของ Dr. Amishi Jha ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยไมแอมีและผู้แต่งหนังสือเรื่อง “Peak Mind: Find Your Focus, Own Your Attention, Invest 12 Minutes a Day”
ได้กล่าวไว้ว่า การที่คนเราจะจดจำอะไรบางอย่างได้ดีนั้น
ขึ้นอยู่กับปัจจัย 3 อย่าง นั่นก็คือ
1. การฝึกฝน
หลายคนอาจจะคิดว่า การจดจำอะไรบางอย่างได้ดีนั้น ขึ้นอยู่กับความสามารถในการจดจำของแต่ละคน แต่ความจริงแล้ว การที่เราจะจดจำอะไรได้ดีนั้น เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ “ความสนใจ” ที่เรามีต่อสิ่งสิ่งหนึ่ง เสียมากกว่า
ดังนั้นการฝึกฝนที่ว่านี้ จึงหมายถึงการที่เราพยายามนึกถึงความสนใจที่เรามีต่อสิ่งสิ่งหนึ่ง แล้วพยายามดึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เราสนใจนั้นออกมา
คล้าย ๆ กับเวลาตอนเด็ก ๆ ที่เปิดรูปภาพ แล้วให้เราทายว่าสิ่งที่อยู่ในรูปภาพคืออะไรนั่นเอง
2. การขยายความ
หากเราอยากจดจำอะไรใหม่ ๆ ได้มากขึ้น ให้เราลองนำประสบการณ์ หรือความรู้เดิมที่เรามีอยู่ไปเชื่อมต่อกับความสนใจที่เรามีต่อสิ่งใหม่ ๆ ซึ่งการทำเช่นนี้นอกจากจะช่วยให้เราได้จดจำสิ่งใหม่ ๆ แล้วยังช่วยให้เราจดจำได้ดียิ่งขึ้นด้วย
ตัวอย่างเช่น
สมมติว่า เพื่อนบอกให้เรานึกถึงภาพปลาหมึก
ทีนี้เพื่อนก็บอกเราอีกว่า รู้ไหมว่าปลาหมึกมีหัวใจทั้งหมด 3 ดวง
(ถึงตอนแรกเราจะไม่รู้มาก่อน แต่ว่าตอนนี้เรารู้แล้ว)
กระบวนการที่เกิดขึ้นตอนนี้คือ การที่เรากำลังนำความรู้ที่เรามีอยู่ มาเชื่อมต่อกับความสนใจต่อสิ่งใหม่
ซึ่งอาจทำให้เราจดจำสิ่งใหม่ ๆ ได้โดยไม่รู้ตัว อย่างตอนที่เพื่อนมาเสริมว่าปลาหมึกมีหัวใจ 3 ดวง
ทีนี้ต่อไป เวลาเราดูสารคดี หรือบังเอิญเห็นปลาหมึกที่ไหนสักแห่ง เราก็อาจจะนึกขึ้นมาได้ แล้วพูดกับคนข้าง ๆ ว่า “นี่รู้ไหมว่าจริง ๆ แล้วปลาหมึกนั้นมีหัวใจถึง 3 ดวงเลยนะ”
3. การรวบรวม
หากเราอยากปรับเปลี่ยนความทรงจำระยะสั้นให้กลายเป็นความทรงจำระยะยาว
สิ่งที่เราต้องทำคือการพยายาม นึกซ้ำ ทำซ้ำ หลาย ๆ ครั้ง โดยโฟกัสที่กิจกรรมเหล่านั้น เพื่อให้สามารถจดจำได้แม่นมากขึ้น
ทีนี้เมื่อพูดถึงเรื่อง “ความสนใจ” ที่มีส่วนช่วยให้เราสามารถจดจำได้ดีขึ้น
หลายคนอาจจะคิดว่า เราต้องโฟกัสกับสิ่งสิ่งหนึ่งมาก ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจดจำ
แต่รู้ไหมว่าความจริงแล้ว
การปล่อยวาง หรือปล่อยให้สมองว่าง ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เราสามารถจดจำ เชื่อมต่อ อีกทั้งยังช่วยให้เราร้อยเรียงข้อมูลต่าง ๆ ได้ดีขึ้นเช่นกัน
อย่างเช่น ในเวลาที่เราอาบน้ำ เรามักได้ไอเดียเด็ด ๆ ขึ้นมา ซึ่งแม้แต่ซีอีโอของ Tesla อย่าง อีลอน มัสก์ เอง ก็ยอมรับว่าเขามักได้ไอเดียดี ๆ ในช่วงที่เขาอาบน้ำ
ซึ่งสาเหตุก็เป็นเพราะว่า ในช่วงเวลาที่เราอาบน้ำ เรากำลังถูกบังคับให้ปล่อยวางจากเรื่องราวต่าง ๆ เพราะเราไม่สามารถเอางานเข้ามาทำ ไม่สามารถกดโทรศัพท์มือถือ ไม่สามารถใช้คอมพิวเตอร์ในเวลานั้นได้ ทำให้สมองของเราไม่ต้องมาสนใจอะไร นั่นเอง
สรุปแล้ว การที่เราจะจดจำอะไรได้นั้น ขึ้นอยู่กับ ความสนใจ ที่เรามีต่อสิ่งสิ่งนั้น
แต่ถ้าเราอยากจำอะไรได้ดี เชื่อมต่ออะไรได้มากขึ้น ก็ลองปล่อยวางให้มากขึ้น นั่นเอง..
References
-https://www.cnbc.com/2022/01/01/a-neuroscientist-shares-the-3-step-brain-exercise-she-does-for-a-stronger-and-healthier-memory.html
-https://www.businessinsider.com/elon-musk-most-important-daily-habit-2015-1
เคยเป็นกันไหม ?
ที่พยายามนึกถึงอะไรบางอย่าง แต่นึกเท่าไรก็นึกไม่ออก
จนบางครั้งก็ทำให้เรารู้สึกหงุดหงิด หรือโมโหตัวเอง
แล้วเคยสงสัยไหมว่า ทำไมในตอนที่เราต้องการมัน แต่เรากลับไม่สามารถได้มันมา
สิ่งที่มีผลต่อความจำของเราคืออะไร ?
THE BRIEFCASE จะสรุปให้ฟัง
จากรายงานของ Dr. Amishi Jha ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยไมแอมีและผู้แต่งหนังสือเรื่อง “Peak Mind: Find Your Focus, Own Your Attention, Invest 12 Minutes a Day”
ได้กล่าวไว้ว่า การที่คนเราจะจดจำอะไรบางอย่างได้ดีนั้น
ขึ้นอยู่กับปัจจัย 3 อย่าง นั่นก็คือ
1. การฝึกฝน
หลายคนอาจจะคิดว่า การจดจำอะไรบางอย่างได้ดีนั้น ขึ้นอยู่กับความสามารถในการจดจำของแต่ละคน แต่ความจริงแล้ว การที่เราจะจดจำอะไรได้ดีนั้น เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ “ความสนใจ” ที่เรามีต่อสิ่งสิ่งหนึ่ง เสียมากกว่า
ดังนั้นการฝึกฝนที่ว่านี้ จึงหมายถึงการที่เราพยายามนึกถึงความสนใจที่เรามีต่อสิ่งสิ่งหนึ่ง แล้วพยายามดึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เราสนใจนั้นออกมา
คล้าย ๆ กับเวลาตอนเด็ก ๆ ที่เปิดรูปภาพ แล้วให้เราทายว่าสิ่งที่อยู่ในรูปภาพคืออะไรนั่นเอง
2. การขยายความ
หากเราอยากจดจำอะไรใหม่ ๆ ได้มากขึ้น ให้เราลองนำประสบการณ์ หรือความรู้เดิมที่เรามีอยู่ไปเชื่อมต่อกับความสนใจที่เรามีต่อสิ่งใหม่ ๆ ซึ่งการทำเช่นนี้นอกจากจะช่วยให้เราได้จดจำสิ่งใหม่ ๆ แล้วยังช่วยให้เราจดจำได้ดียิ่งขึ้นด้วย
ตัวอย่างเช่น
สมมติว่า เพื่อนบอกให้เรานึกถึงภาพปลาหมึก
ทีนี้เพื่อนก็บอกเราอีกว่า รู้ไหมว่าปลาหมึกมีหัวใจทั้งหมด 3 ดวง
(ถึงตอนแรกเราจะไม่รู้มาก่อน แต่ว่าตอนนี้เรารู้แล้ว)
กระบวนการที่เกิดขึ้นตอนนี้คือ การที่เรากำลังนำความรู้ที่เรามีอยู่ มาเชื่อมต่อกับความสนใจต่อสิ่งใหม่
ซึ่งอาจทำให้เราจดจำสิ่งใหม่ ๆ ได้โดยไม่รู้ตัว อย่างตอนที่เพื่อนมาเสริมว่าปลาหมึกมีหัวใจ 3 ดวง
ทีนี้ต่อไป เวลาเราดูสารคดี หรือบังเอิญเห็นปลาหมึกที่ไหนสักแห่ง เราก็อาจจะนึกขึ้นมาได้ แล้วพูดกับคนข้าง ๆ ว่า “นี่รู้ไหมว่าจริง ๆ แล้วปลาหมึกนั้นมีหัวใจถึง 3 ดวงเลยนะ”
3. การรวบรวม
หากเราอยากปรับเปลี่ยนความทรงจำระยะสั้นให้กลายเป็นความทรงจำระยะยาว
สิ่งที่เราต้องทำคือการพยายาม นึกซ้ำ ทำซ้ำ หลาย ๆ ครั้ง โดยโฟกัสที่กิจกรรมเหล่านั้น เพื่อให้สามารถจดจำได้แม่นมากขึ้น
ทีนี้เมื่อพูดถึงเรื่อง “ความสนใจ” ที่มีส่วนช่วยให้เราสามารถจดจำได้ดีขึ้น
หลายคนอาจจะคิดว่า เราต้องโฟกัสกับสิ่งสิ่งหนึ่งมาก ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจดจำ
แต่รู้ไหมว่าความจริงแล้ว
การปล่อยวาง หรือปล่อยให้สมองว่าง ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เราสามารถจดจำ เชื่อมต่อ อีกทั้งยังช่วยให้เราร้อยเรียงข้อมูลต่าง ๆ ได้ดีขึ้นเช่นกัน
อย่างเช่น ในเวลาที่เราอาบน้ำ เรามักได้ไอเดียเด็ด ๆ ขึ้นมา ซึ่งแม้แต่ซีอีโอของ Tesla อย่าง อีลอน มัสก์ เอง ก็ยอมรับว่าเขามักได้ไอเดียดี ๆ ในช่วงที่เขาอาบน้ำ
ซึ่งสาเหตุก็เป็นเพราะว่า ในช่วงเวลาที่เราอาบน้ำ เรากำลังถูกบังคับให้ปล่อยวางจากเรื่องราวต่าง ๆ เพราะเราไม่สามารถเอางานเข้ามาทำ ไม่สามารถกดโทรศัพท์มือถือ ไม่สามารถใช้คอมพิวเตอร์ในเวลานั้นได้ ทำให้สมองของเราไม่ต้องมาสนใจอะไร นั่นเอง
สรุปแล้ว การที่เราจะจดจำอะไรได้นั้น ขึ้นอยู่กับ ความสนใจ ที่เรามีต่อสิ่งสิ่งนั้น
แต่ถ้าเราอยากจำอะไรได้ดี เชื่อมต่ออะไรได้มากขึ้น ก็ลองปล่อยวางให้มากขึ้น นั่นเอง..
References
-https://www.cnbc.com/2022/01/01/a-neuroscientist-shares-the-3-step-brain-exercise-she-does-for-a-stronger-and-healthier-memory.html
-https://www.businessinsider.com/elon-musk-most-important-daily-habit-2015-1