รู้จักตระกูล “เกลเซอร์” ซื้อสโมสรแมนยู โดยใช้เงินจากการกู้

รู้จักตระกูล “เกลเซอร์” ซื้อสโมสรแมนยู โดยใช้เงินจากการกู้

16 มี.ค. 2022
รู้จักตระกูล “เกลเซอร์” ซื้อสโมสรแมนยู โดยใช้เงินจากการกู้ /โดย ลงทุนแมน
เมื่อพูดถึง “ตระกูลเกลเซอร์” แฟนฟุตบอลน่าจะเคยได้ยินชื่อกันอยู่บ้าง
เพราะพวกเขาคือ เจ้าของสโมสร “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” หนึ่งในทีมฟุตบอลที่โด่งดังมากที่สุดในโลก
แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่า กว่าที่ตระกูลเกลเซอร์จะเดินมาถึงจุดนี้ได้
พวกเขาเริ่มต้นจากการทำธุรกิจร้านซ่อมนาฬิกา
ก่อนที่จะเปลี่ยนไปลงทุนในหลากหลายธุรกิจ ซึ่งรวมถึงการซื้อทีมกีฬา
แล้วเส้นทางของตระกูลเกลเซอร์ มีความเป็นมาอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 2 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
บรรพบุรุษของตระกูลเกลเซอร์ เป็นชาวลิทัวเนียเชื้อสายยิว ที่อพยพมาอยู่ในรัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา
จุดเปลี่ยนสำคัญของตระกูลนี้คือ การกำเนิดของ “คุณมัลคอล์ม เกลเซอร์” ในปี 1928 ซึ่งเขาเป็นลูกคนที่ 5 จากทั้งหมด 7 คน ของพ่อและแม่ของเขา
คุณมัลคอล์ม เกลเซอร์ คอยช่วยเหลือคุณพ่อทำธุรกิจร้านซ่อมนาฬิกามาตั้งแต่เด็ก
จนกระทั่งอายุ 15 ปี คุณพ่อได้เสียชีวิตลง ทำให้เขาก้าวขึ้นมารับผิดชอบกิจการอย่างเต็มตัว เพื่อหาเลี้ยงครอบครัว
ในตอนแรก เขาต้องหาลูกค้าด้วยการเดินติดต่อขายและซ่อมนาฬิกาตามบ้าน
จนต่อมา สามารถประมูลงานซ่อมนาฬิกาให้กับกองทัพอากาศแห่งหนึ่งได้สำเร็จ จึงทำให้มีรายได้มั่นคงมากขึ้น
แต่หลังจากนั้น ฐานทัพดังกล่าวได้ปิดตัวลง ทำให้คุณมัลคอล์ม เกลเซอร์ มองหาโอกาสทำธุรกิจใหม่ ๆ ดูบ้าง ซึ่งเขาตัดสินใจเข้าสู่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยมุ่งเน้นลงทุนในโครงการบ้านเดี่ยว, อาคารพาณิชย์ และห้างสรรพสินค้า ในหลายเมืองใหญ่
ต่อมา พอเริ่มมีเม็ดเงินในมือมากขึ้น เขาก็ได้กระจายการลงทุนไปในอีกหลายธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น ธนาคาร, โรงพยาบาล, สถานีโทรทัศน์ และร้านอาหาร
ทำให้ในปี 1984 คุณมัลคอล์ม เกลเซอร์ ก่อตั้งบริษัทโฮลดิง ชื่อว่า First Allied Corporation ขึ้นมาเพื่อคอยบริหารธุรกิจต่าง ๆ ที่ถือครองอยู่
ซึ่งบริษัทก็ยังคงเข้าลงทุนในกิจการใหม่อย่างต่อเนื่อง เช่น
- Harley-Davidson ผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์รายใหญ่
- Zapata Corporation บริษัทพลังงาน ที่ก่อตั้งโดยอดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จอร์จ เอช. ดับเบิลยู. บุช
- Omega Protein บริษัทผลิตภัณฑ์อาหารเสริม
ทั้งนี้ คุณมัลคอล์ม เกลเซอร์ มีลูกทั้งหมด 6 คน ได้แก่ อาฟราม, เควิน, ไบรอัน, โจเอล, เอ็ดเวิร์ด และดาร์ซี ซึ่งเขาได้เปิดโอกาสให้ทุกคนเข้ามาช่วยบริหารธุรกิจของตระกูล เหมือนที่ตัวเขาก็เริ่มต้นตั้งแต่เด็กเช่นกัน
และหลังจากประสบความสำเร็จจากการลงทุนที่ผ่านมา
ธุรกิจต่อไปที่ตระกูลเกลเซอร์ ให้ความสนใจ คือ “ธุรกิจทีมกีฬา”
ในปี 1995 พวกเขาได้เข้าซื้อกิจการทีมอเมริกันฟุตบอล “แทมปาเบย์ บัคคาเนียร์ส” ด้วยเงินประมาณ 6,400 ล้านบาท
ซึ่งนับเป็นมูลค่าการซื้อทีมสูงสุดของ NFL ลีกสูงสุดของอเมริกันฟุตบอล ในขณะนั้น
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ผลงานของ แทมปาเบย์ บัคคาเนียร์ส ไม่ค่อยดีมากนัก ทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามว่า ตระกูลเกลเซอร์ อาจจ่ายเงินแพงเกินไป สำหรับธุรกิจที่ไม่เคยทำมาก่อน
แต่พวกเขาก็พิสูจน์ตัวเองด้วยการบริหารทีม จนสามารถคว้าแชมป์ซูเปอร์โบวล์ ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เมื่อปี 2003
พอธุรกิจทีมกีฬาในสหรัฐอเมริกากำลังไปได้สวย
ตระกูลเกลเซอร์ ก็เล็งหาโอกาสลงทุนทีมกีฬาในต่างประเทศทันที โดยพุ่งเป้าไปที่กีฬายอดนิยมของโลกอย่าง ฟุตบอล
ซึ่งสโมสรที่เข้าตาเป็นอย่างมาก คือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือ “แมนยู” ในประเทศอังกฤษ
เนื่องจากในขณะนั้น มีผลงานดี ฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง และมีแฟนบอลติดตามอยู่ทั่วโลก
ในปี 2003 ตระกูลเกลเซอร์ เริ่มเดินเกมทยอยซื้อหุ้นของแมนยู
จากผู้ถือหุ้นรายย่อย อีกไม่กี่เดือนถัดมา ก็สามารถสะสมหุ้นได้เกือบ 30% กลายเป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของสโมสร
ก่อนที่ต่อมาในปี 2005 จะเจรจาขอซื้อหุ้นต่อจาก 2 มหาเศรษฐีชาวไอริช ที่กำลังมีปัญหากับผู้จัดการทีมแมนยูอย่าง เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จนเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นเป็น 57%
พอถือหุ้นเกินครึ่งหนึ่ง พวกเขาก็ดำเนินการ ทำข้อเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมด (Tender Offer) ซึ่งทำให้ตระกูลเกลเซอร์ สามารถเก็บหุ้นแมนยูส่วนที่เหลือได้สำเร็จ
คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 34,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การเทกโอเวอร์แมนยูในครั้งนี้ มักได้รับการต่อต้านจากแฟนบอลอยู่เสมอ
เพราะตระกูลเกลเซอร์ ใช้วิธีซื้อกิจการด้วยเงินกู้ (Leveraged Buyout) ซึ่งภายหลังได้มีการโอนหนี้สินกว่า 23,000 ล้านบาท ให้เป็นของสโมสรแทน
เรื่องนี้ส่งผลให้แมนยู ต้องรับภาระหนี้สินและดอกเบี้ยจำนวนมหาศาลในแต่ละปี
ซึ่งแฟนบอลหลายรายมองว่า มันทำให้ความสามารถในการลงทุนพัฒนาสโมสรของแมนยู ลดลงไปจากเดิมมาก และหลายคนมองว่า ตระกูลเกลเซอร์ มองสโมสรเป็นแค่เรื่องธุรกิจ
ถึงแม้ช่วงแรกที่ตระกูลเกลเซอร์เป็นเจ้าของ แมนยูยังคงทำผลงานได้ดี คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ 5 สมัย และยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกอีก 1 สมัย
แต่หลังจากที่ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือ ผลงานของสโมสรก็ตกต่ำลงเรื่อยมา
ซึ่งแฟนบอลก็มองว่า สาเหตุส่วนหนึ่งมาจาก ภาระหนี้สินและผู้บริหารกลุ่มใหม่ไม่มีประสบการณ์ด้านฟุตบอลมาก่อน ทำให้ตัดสินใจผิดพลาดในหลาย ๆ ด้าน
แต่ถ้าพิจารณาในแง่ของการลงทุน อาจถือว่าตระกูลเกลเซอร์ ค่อนข้างประสบความสำเร็จ
โดยปัจจุบัน ทั้งสองทีมกีฬาภายใต้การบริหารของตระกูลเกลเซอร์ มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นมาก เมื่อเทียบกับต้นทุนที่พวกเขาจ่าย
ล่าสุด แทมปาเบย์ บัคคาเนียร์ส ถูกประเมินมูลค่าทีมไว้อยู่ที่ 98,000 ล้านบาท
เพิ่มขึ้นเป็น 15 เท่า ของมูลค่าที่พวกเขาลงทุนในตอนแรก
ส่วนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถูกประเมินมูลค่าทีมไว้อยู่ที่ 140,000 ล้านบาท
เพิ่มขึ้นเป็น 4 เท่า ของมูลค่าที่พวกเขาลงทุนในตอนแรก
ซึ่งส่งผลให้พวกเขามีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล โดยนิตยสาร Forbes ได้ประเมินว่า ตระกูลเกลเซอร์ มีทรัพย์สินมูลค่าประมาณ 194,000 ล้านบาท เลยทีเดียว
ทั้งนี้ ผู้ที่สร้างอาณาจักรความยิ่งใหญ่ขึ้นมาอย่าง คุณมัลคอล์ม เกลเซอร์ ได้เสียชีวิตลงแล้วเมื่อปี 2014 ในวัย 85 ปี และได้มีการแบ่งทรัพย์สินของตระกูลให้ลูก ๆ อย่างเท่าเทียมกัน
จากเรื่องราวของตระกูลเกลเซอร์ จะเห็นได้ว่า
ถึงแม้พวกเขาไม่ได้มีฐานะร่ำรวยมาตั้งแต่แรก แต่ก็มีความกล้าหาญ ที่จะก้าวเข้าไปลงทุนในธุรกิจใหม่ ๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อนอยู่เสมอ ทำให้สามารถไขว่คว้าโอกาสที่น่าสนใจ และประสบความสำเร็จได้
อย่างไรก็ตาม การกระจายไปสู่ธุรกิจที่ไม่ถนัดมากเกินไป อาจเป็นดาบสองคม ที่ทำให้ประสิทธิภาพในการบริหารงานลดน้อยลงก็เป็นได้ เหมือนที่หลายฝ่ายมองว่ากำลังเกิดขึ้นกับแมนยูในตอนนี้
ซึ่งคงต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ตระกูลเกลเซอร์ จะเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาได้หรือไม่
แต่สำหรับแฟนแมนยูหลายคน อาจมีคำตอบในใจแล้วว่า ช่วงเวลาที่ใช้ตัดสินผลงานดังกล่าว ได้เลยผ่านไปนานแล้ว..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 2 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://en.m.wikipedia.org/wiki/Malcolm_Glazer
-https://www.goal.com/en/news/who-owns-manchester-united-who-are-the-glazer-family/18j8f1yu1tliv1hrp93zeffh7n
-https://www.sportskeeda.com/nfl/meet-glazer-family-owners-tampa-bay-buccaneers-manchester-united
-https://www.theguardian.com/football/2021/may/02/timeline-glazers-and-their-turbulent-reign-at-manchester-united
-https://www.forbes.com/pictures/61e9b4c7a1ac9a47d8f40200/8-glazer-family/?sh=6766916223c3
-https://www.statista.com/statistics/194508/franchise-value-of-the-tampa-bay-buccaneers-since-2006/
-https://www.statista.com/statistics/300578/team-value-of-soccer-teams/
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.