Sanook กับ Kapook ใครใหญ่กว่ากัน

Sanook กับ Kapook ใครใหญ่กว่ากัน

20 ธ.ค. 2017
Sanook กับ Kapook ใครใหญ่กว่ากัน / โดย ลงทุนแมน
ถ้าพูดถึงเว็บไซต์ไทยที่อยู่กับเรามานานเป็นสิบปี
นอกจาก Pantip ก็คงเป็น Sanook และ Kapook
แต่รู้หรือไม่ว่า Sanook และ Kapook ที่แข่งกันอยู่
เคยมีเจ้าของเป็นคนเดียวกัน..
เว็บไซต์อันดับ 1 ของไทย คงจะหนีไม่พ้น Pantip ที่ลงทุนแมนเคยเขียนบทความไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ถ้านับเฉพาะ content platform ที่นำเสนอข่าวสารสารพัดเรื่อง และมีคนอ่านและแชร์ต่อกันมากที่สุด ก็คงจะหนีไม่พ้นเว็บไซต์ Sanook และ Kapook ที่แข่งกันอยู่ 2 เจ้า
Sanook หรือ Kapook ใครเกิดก่อนกัน?
Sanook เกิดก่อน โดยก่อตั้งขึ้นในปี 2541 หรือเมื่อ 19 ปีที่แล้ว (เปิดหลัง pantip 1 ปี)
ในขณะที่ Kapook ก่อตั้งขึ้นในปี 2543 หรือหลังจาก Sanook 2 ปี
แต่ที่น่าสนใจกว่าใครมาก่อน คงจะเป็นที่ทั้ง 2 เว็บไซต์ถูกสร้างขึ้นมาจากคนคนเดียวกันคือ คุณปรเมศวร์ มินศิริ ที่ปัจจุบันมีอายุ 48 ปี โดยเริ่มจากทำเว็บไซต์ Sanook ขึ้นมาเป็นงานอดิเรก พอได้รับความนิยมมากขึ้นก็พัฒนาจนกลายเป็นเว็บท่า (portal) ที่รวบรวม content หลากหลายประเภท
พอทำเว็บไซต์มาได้ 1 ปี ก็ขายกิจการให้กับบริษัท เอ็มเว็บ (ประเทศไทย) บริษัทลูกของบริษัท MIH จากแอฟริกาใต้ที่เคยถือหุ้นใหญ่ใน UBC โดยไม่ได้มีการเปิดเผยตัวเลขราคา
แต่หลังจากนั้นไม่นาน คุณปรเมศวร์ ก็ซื้อ Kapook มาพัฒนาต่อ โดยในช่วงแรก content จะเน้นไปที่กลุ่มวัยรุ่นเป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม Sanook มีการเปลี่ยนมืออีกครั้ง ซึ่งเกิดขึ้นในปี 2553 คราวนี้ไปอยู่กับบริษัทยักษ์ใหญ่จากจีนอย่าง Tencent ที่ควักเงินซื้อไปในราคา 10.5 ล้านดอลลาร์ หรือราว 350 ล้านบาท ซึ่งในตอนนั้นถึงแม้ Sanook จะมีรายได้ในปีนั้นที่ 177 ล้านบาท แต่กลับมีตัวเลขขาดทุนสะสมมากถึง 1,325 ล้านบาท
Sanook หรือ Kapook ใครมีคนใช้มากกว่ากัน?
ข้อมูลจาก truehits.net
Sanook มีผู้เข้าชมเว็บไซต์ โดยนับตั้งแต่ต้นปีมีผู้เข้าชมเว็บไซต์ 1,032,998 คน (นับตาม Unique IP) และใช้งานเฉลี่ยนาน 12.41 นาที
ส่วน Kapook มีผู้เข้าชมเว็บไซต์ 914,873 คน (UIP) และใช้งานเฉลี่ยนาน 5.15 นาที
ข้อมูลจาก alexa
Sanook มีผู้เข้าชมเว็บไซต์เป็นอันดับ 10 ของประเทศไทย และ อันดับ 1,584 ของโลก
Kapook มีผู้เข้าชมเว็บไซต์เป็นอันดับ 14 ของประเทศไทย และ อันดับ 1,862 ของโลก
จึงน่าจะสรุปได้ว่า Sanook มีผู้เข้าชมมากกว่า Kapook อยู่เล็กน้อย
Sanook และ Kapook รายได้เท่าไร?
บริษัท เทนเซ็นต์ (ประเทศไทย) จำกัด เจ้าของ Sanook
ปี 2557 รายได้ 252 ล้านบาท ขาดทุน 51 ล้านบาท
ปี 2558 รายได้ 281 ล้านบาท ขาดทุน 192 ล้านบาท
ปี 2559 รายได้ 412 ล้านบาท ขาดทุน 156 ล้านบาท
แต่รายได้ของ เทนเซ็นต์ คงไม่ได้มาจากตัวเว็บไซต์ Sanook เพียงอย่างเดียว เพราะยังมีธุรกิจอื่นอย่าง JOOX, NoozUP, และ Topspace ด้วย
บริษัท บัณฑิต เซ็นเตอร์ จำกัด เจ้าของ Kapook
ปี 2557 รายได้ 131 ล้านบาท กำไร 16 ล้านบาท
ปี 2558 รายได้ 125 ล้านบาท ขาดทุน 10 ล้านบาท
ปี 2559 รายได้ 87 ล้านบาท ขาดทุน 31 ล้านบาท
ถ้าดูจากรายได้ก็เป็นไปในทิศทางเดียวกับ ผู้เข้าชม คือ Sanook มีรายได้มากกว่า Kapook
แต่ที่น่าสนใจคือ 2 บริษัทนี้เริ่มขาดทุนมาตั้งแต่ปี 2558
ทุกวันนี้มี content platform เกิดขึ้นมากมายจากแต่ก่อน แม้แต่สื่ออย่างหนังสือพิมพ์ต่างๆ ก็หันมาให้ความสำคัญในการพัฒนาเว็บไซต์ของตัวเองกันหมดแล้ว โดยเฉพาะคู่แข่งที่มาแรงตอนนี้คือ LINETODAY ที่ตอนนี้มีผู้เข้าชมเว็บไซต์เป็นอันดับ 11 ของประเทศไทยแล้ว
และเมื่อมีผู้เล่นในตลาดเพิ่มมากขึ้น การแข่งขันก็ย่อมสูงมากขึ้นไปด้วย
ทาง Sanook ที่ดูเหมือน Tencent จะใช้เป็นฐานทัพในการทำตลาดในไทย คงจะไม่มีปัญหาอะไรเรื่องเงินทุนที่จะรองรับการขาดทุนในตอนนี้หรือการลงทุนอะไรเพิ่มในอนาคต
แต่ที่น่าเป็นห่วงอยู่ก็คงจะเป็น Kapook เพราะหลังจากมีกำไรมาหลายปี ตอนนี้รายได้ก็เริ่มลดลงและมีตัวเลขขาดทุนหลักสิบล้านบาทแล้ว แต่คุณปรเมศวร์กล่าวว่า ผลประกอบการในปี 2560 จะกลับมาเป็นบวกได้ ซึ่งเกิดจากโฆษณารูปแบบสร้างสรรค์ และ การรับพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันจากเอกชนและราชการ
มีอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องยอมรับคือ คนเข้าชมเว็บไซต์เหล่านี้โดยตรงน้อยลง แต่หันไปเสพสื่อจากโซเชียลมีเดีย ที่เป็นเฟซบุ๊ก หรือ อินสตาแกรม แทน
จึงเกิดเป็นคำถามที่น่าสนใจว่า Sanook และ Kapook ตอนนี้อาจจะกำลังไม่สนุกแล้วหรือไม่..
----------------------
<ad> เก็บเงินได้โดยหยอดกระปุก แต่ถ้าอยากเก็บของแล้วบ้านมีที่ไม่พอ i-Store Self Storage มีห้องขนาดตั้งแต่ 0.5 ตารางเมตรขึ้นไปให้เช่า ทีนี้เราจะเก็บ จักรยาน ถุงกอล์ฟ ของสะสม เอกสาร กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ รองเท้าที่ไม่ได้ใช้ ก็มาเช่าได้ เก็บได้ตั้งแต่ 1 สัปดาห์จนถึงเป็นปี ที่สำคัญปลอดภัย ประกันของหาย สะอาด และอยู่ใจกลาง สีลม และ สุขุมวิท สนใจติดต่อ 062-595-3393 หรือ www.i-store.co.th
----------------------
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.