Moshi Moshi จากร้านค้าในตลาดสำเพ็ง สู่ร้านสินค้าไลฟ์สไตล์รายได้หลักพันล้านบาท

Moshi Moshi จากร้านค้าในตลาดสำเพ็ง สู่ร้านสินค้าไลฟ์สไตล์รายได้หลักพันล้านบาท

7 พ.ย. 2022
Moshi Moshi จากร้านค้าในตลาดสำเพ็ง สู่ร้านสินค้าไลฟ์สไตล์รายได้หลักพันล้านบาท
MOSHI x ลงทุนแมน
คนที่กำลังก่อร่างสร้างตัว หรือเริ่มต้นทำธุรกิจของตนเอง
น่าจะเข้าใจเป็นอย่างดีว่า การจะทำกิจการให้เติบโตนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดที่มีผู้เล่นหลายราย (Fragmented Market)
เพราะตลาดมีความกระจายตัว การแข่งขันสูง
แถมการเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ ยังต้องมีต้นทุนต่าง ๆ
จึงยากที่จะไปถึงจุดคุ้มทุน (Break Even) และทำกำไรได้มากกว่าผู้เล่นรายใหญ่
แต่หนึ่งในบริษัทที่ประสบความสำเร็จ จนกระทั่งคว้าส่วนแบ่งทางการตลาดอันดับหนึ่ง
ในสมรภูมิ Fragmented Market อันดุเดือด
บริษัทนั้นคือบริษัทอะไร ทำอย่างไรจึงสามารถเอาชนะคู่แข่งได้ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
หลายคนอาจรู้จัก ร้าน Moshi Moshi หรือ บมจ.โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น
ร้านสินค้าไลฟ์สไตล์ ที่กำลังจะเข้าตลาดในชื่อ “MOSHI”
ซึ่งจุดเริ่มต้นของ MOSHI เกิดขึ้นในปี 2516
โดยครอบครัวได้เริ่มทำธุรกิจร้านค้าปลีกเครื่องเขียนและสินค้ากิ๊ฟช็อป
และได้มีการพัฒนารูปแบบจนเป็นธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์ ในปี 2559
ภายใต้ชื่อร้าน Moshi Moshi สาขาแรกที่สำเพ็ง
ซึ่งผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ได้รับความนิยมอย่างมาก
ด้วยความโดดเด่นของการนำเสนอสินค้าที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย
การออกแบบสินค้าที่เน้นทั้งประโยชน์ใช้สอยและดีไซน์ทันสมัย
ขณะที่ยังมีราคาย่อมเยา ทำให้เข้าถึงลูกค้าได้ในระดับแมส
โดยประสบการณ์ของทีมบริหารที่ดำเนินธุรกิจมาเกือบ 50 ปี
ประกอบกับการเป็นบริษัทสัญชาติไทย ทำให้ MOSHI เข้าใจในตลาดและความต้องการของคนไทย
และมีความเข้าใจโครงสร้างของต้นทุนสินค้าแต่ละประเภทเป็นอย่างดี
MOSHI จึงเล็งเห็นช่องว่างทางการตลาด และความต้องการของลูกค้าที่ต้องการสินค้าเพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน
ที่มีความทันสมัย หลากหลาย เน้นคุณภาพและราคาย่อมเยา
เพื่อตอบโจทย์นี้ MOSHI มีฝ่ายจัดหาและพัฒนาผลิตภัณฑ์ นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ
เพื่อตอบสนองเทรนด์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ส่งผลให้ปัจจุบัน MOSHI มีสินค้ามากถึง 12 กลุ่ม
และมีจำนวนสินค้า (SKUs) รวมกว่า 20,000 SKUs
โดย MOSHI มีกลยุทธ์หลักที่ใช้ในการพัฒนาสินค้า ดังนี้
• Design: การสร้างสรรค์สินค้าให้ตรงกับความชอบและการใช้งานของผู้บริโภค
• Quality: พัฒนาสินค้าที่มีคุณภาพ ใช้งานได้ดี
• Price: ราคาสินค้าย่อมเยา
• Variety: นำเสนอสินค้าที่หลากหลาย
นอกจากนี้ สิ่งสำคัญที่ทำให้ MOSHI แตกต่างจากคู่แข่ง ตั้งแต่ช่วงแรกของการทำธุรกิจ คือ
แนวคิดการตกแต่งร้านที่ทันสมัย
โดยมีการนำ Visual Merchandise หรือการจัดแสดงสินค้าภายในร้าน
รวมถึงจัดแผนผังร้านให้เหมาะสม มาใช้เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ทางการขาย
ซึ่งช่วยเสริมภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์ และเพิ่มประสบการณ์ในการเลือกซื้อสินค้า
อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสในการขายสินค้ามากขึ้นด้วย ทำให้ขยายสาขาได้อย่างรวดเร็ว
โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565 MOSHI มีจำนวนร้าน 100 สาขา ใน 41 จังหวัด
เมื่อมองไปที่ภาพรวมธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์
MOSHI ถือเป็น Player ที่สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว และเป็นผู้นำในตลาด
จากช่วงเริ่มต้นที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดเพียง 3% ด้วยร้านค้าเพียง 4 สาขา ที่เปิดดำเนินการในปี 2559
ล่าสุด ในปี 2564 ถึงแม้ว่าจะมีสถานการณ์โควิด-19 ระบาด
บริษัทฯ ยังสามารถทำรายได้ไปถึง 1,263.84 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรสุทธิกว่า 10%
และสามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับหนึ่ง อยู่ที่ 37.6% (รายงานจาก Frost & Sullivan)
จะเห็นว่า แม้เป็นระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี แต่เส้นทางธุรกิจของ MOSHI
มีการปรับเปลี่ยนพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง
และวันนี้ บริษัทฯ ได้ยื่นแบบไฟลิ่ง เพื่อเตรียมเสนอขายหุ้น IPO
และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
โดยนักลงทุนที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://market.sec.or.th/public/ipos/IPOSEQ01.aspx?TransID=448805
Reference:
- ร่างแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และหนังสือชี้ชวนฉบับเต็มของ MOSHI ซึ่งได้ยื่นต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.