BGRIM เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ผ่าน 6 สถาบันการเงินชั้นนำ  คาดเปิดจองซื้อ 28-30 มี.ค.นี้

BGRIM เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ผ่าน 6 สถาบันการเงินชั้นนำ คาดเปิดจองซื้อ 28-30 มี.ค.นี้

1 มี.ค. 2023
ลงทุนแมน X BGRIM
BGRIM เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ผ่าน 6 สถาบันการเงินชั้นนำ
คาดเปิดจองซื้อ 28-30 มี.ค.นี้
ในช่วง 5 ปีแรก กำหนดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.75% - 5.95% ต่อปี
การลงทุนในหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ (Perpetual Bond หรือ Perp Bond) ควรจะต้องรู้อะไรบ้าง เราค่อยๆ ไล่เรียงกันไปทีละประเด็น
ประเด็นแรก ดูว่าบริษัทที่ออก Perp Bond มีความมั่นคงมากแค่ไหน
บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) เป็นธุรกิจในกลุ่ม บี.กริม ซึ่งดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมายาวนานถึง 145 ปี มีชื่อย่อในตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า BGRIM ซึ่งถือเป็นหนึ่งในบริษัทพลังงานเอกชนชั้นนำของประเทศไทย ที่โดดเด่นในด้านการผลิตไฟฟ้าอุตสาหกรรมและไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ปัจจุบันดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม 20 โครงการ และโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนทั้งในประเทศและต่างประเทศอีก 35 โครงการ มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 3,338 เมกะวัตต์
บริษัทฯ มีเป้าหมายในการเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจาก 3,338 เมกะวัตต์ เป็น 4,700 เมกะวัตต์ ในปี 2567 และจะเพิ่มขึ้นเป็น 10,000 เมกะวัตต์ ในปี 2573 จากการลงทุนโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ โดยเน้นการลงทุนพลังงานหมุนเวียนเป็นหลัก ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้เติบโตขึ้นถึง 1 แสนล้านบาท โดยงบการเงินรวม งวด 9 เดือนแรก ปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้รวม 48,557.53 ล้านบาท สูงกว่าทั้งปี 2564 ที่มีรายได้รวม 46,816.24 ล้านบาท
BGRIM ได้ประกาศยุทธศาสตร์ GreenLeap โดยมีเป้าหมายสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวสู่การเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลก และมุ่งสู่การเป็นผู้นำด้านการพัฒนาด้านพลังงานที่ยั่งยืนและปลอดภัย โดยมีเป้าหมาย EBITDA ประจำปีที่มากกว่า 3.5 หมื่นล้านบาท และมีอัตรากำไร EBITDA ที่ 35% ภายในปี 2573 โดยยังคงรักษาโครงสร้างทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยเป้าหมายของ บี.กริม เพาเวอร์ คือการบรรลุอัตราการเติบโตของ EBITDA ต่อปีแบบทบต้นในระดับ 10% ควบคู่ไปกับการปฏิบัติตามแนวทางควบคุมอุณหภูมิโลกไม่ให้เพิ่มขึ้นเกิน 2 องศา ของประเทศในกลุ่ม Non-OECD (2C Non-OECD) ที่กำหนดโดย International Energy Agency (IEA) ด้วยสัดส่วนโรงไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่สูงกว่า 50% ภายในปี 2573
ดังนั้น นอกจากความมั่นคงแล้ว BGRIM ยังมีวิสัยทัศน์ที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนอีกด้วย
นอกจากนี้ จากการประเมินโดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2566 ก็ได้สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นคง ศักยภาพ และโครงสร้างทางการเงินที่แข็งแกร่งของ BGRIM ด้วยอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทฯ ที่ระดับ “A” แนวโน้ม “คงที่” และอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ที่เสนอขายในครั้งนี้อยู่ที่ระดับ “BBB+”
คราวนี้มาดูด้านอัตราผลตอบแทนกันบ้าง
จุดเด่นของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ก็คือ ให้ผลตอบแทนสูงกว่าหุ้นกู้ทั่วไปในกลุ่มอันดับความน่าเชื่อถือเท่าๆ กัน
สำหรับหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ของ BGRIM ครั้งที่ 1/2566 นี้ กำหนดอัตราดอกเบี้ยในช่วง 5 ปีแรกแบบคงที่ 5.75% - 5.95% ต่อปี (โดยจะประกาศอัตราดอกเบี้ยที่แน่นอนให้ทราบอีกครั้ง) หลังจากนั้นจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยทุก ๆ 5 ปี โดยใช้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี เป็นอัตราอ้างอิง รวมกับ Initial Credit Spread และส่วนเพิ่มอัตราดอกเบี้ยร้อยละตั้งแต่ 0.25-2.00 ต่อปี ตามระยะเวลา
โดยกำหนดจ่ายดอกเบี้ยทุกๆ 6 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้
อย่างไรก็ตาม ผลตอบแทนที่สูง ก็ย่อมควบคู่มากับความเสี่ยงและลักษณะพิเศษของหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ ที่ผู้ลงทุนจะต้องยอมรับได้ด้วย
1. หากผู้ออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ เลิกบริษัท ผู้ถือหุ้นกู้จะได้รับดอกเบี้ยและเงินต้นภายหลังจากที่บริษัทฯ ได้ชำระหนี้ให้เจ้าหนี้มีประกัน และเจ้าหนี้สามัญอื่นแล้ว (แต่จะได้รับก่อนผู้ถือหุ้นสามัญ) ดังนั้น ผู้ถือหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ อาจได้รับดอกเบี้ยและเงินต้นคืนทั้งหมดหรือได้รับเพียงบางส่วน หรืออาจไม่ได้รับเลย
2. ผู้ออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ สามารถเลื่อนจ่ายดอกเบี้ยได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง และไม่จำกัดเวลา ซึ่งหากเลื่อนจ่าย ก็จะสะสมของงวดก่อนหน้าไปจ่ายในงวดถัดไป แต่จะไม่มีดอกเบี้ยหรือผลตอบแทนบนดอกเบี้ยค้างชำระ อย่างไรก็ตาม มีเงื่อนไขกำกับอยู่ว่า หากบริษัทฯ เลื่อนจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ บริษัทก็ต้องไม่จ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นสามัญด้วย
3. หากผู้ออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ ผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้หรือเจ้าหนี้อื่น จะไม่ถือว่าผิดนัดชำระหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ นี้ (cross default) ดังนั้น ผู้ถือหุ้นกู้ไม่มีสิทธิเรียกร้องให้ผู้ออกหุ้นกู้เร่งชำระเงินใดๆ
4. เนื่องจากบริษัทที่ออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ สามารถใช้สิทธิไถ่ถอนได้เมื่อครบกำหนด 5 ปีเป็นต้นไป ซึ่งหากผู้ออกหุ้นกู้ใช้สิทธิในการไถ่ถอน ผู้ถือหุ้นกู้ก็จะได้รับเงินต้นคืนเต็มจำนวน แต่หากนำเงินที่ได้คืนมานี้ไปลงทุนต่อ อาจมีโอกาสได้ดอกเบี้ยน้อยกว่าดอกเบี้ยของหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ เดิม ที่เรียกว่าเป็น reinvestment risk
5. หากต้องการขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิฯ ในระหว่างทาง ผู้ถือหุ้นกู้สามารถติดต่อกับธนาคารพาณิชย์หรือบริษัทหลักทรัพย์ได้ แต่การขายก็มีโอกาสขาดทุนหรืออาจจะขายไม่ได้ในทันที ขึ้นอยู่กับสภาพความต้องการของตลาด
ดังนั้น หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ นี้ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลตอบแทนสูง และรับความเสี่ยงได้สูงกว่าหุ้นกู้ทั่วไป รวมถึงสามารถลงทุนระยะยาวได้มากกว่า 5 ปี
สำหรับวัตถุประสงค์ของการเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ในครั้งนี้ BGRIM จะนำเงินไปใช้เป็นเงินลงทุนโครงการต่างๆ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้น จะใช้ชำระคืนหนี้ที่ถึงกำหนดชำระ และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
ผู้ลงทุนที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนฯ ของ บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ ซึ่งคาดว่าจะเสนอขายระหว่างวันที่ 28-30 มีนาคม 2566 ด้วยมูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท สามารถติดต่อผ่าน 6 สถาบันการเงินชั้นนำได้ตั้งแต่วันนี้
- ธนาคารกรุงเทพ (โทร.1333 หรือจองซื้อผ่านแอปพลิเคชั่น Bualuang mBanking)
- ธนาคารกรุงไทย (โทร. 02-111-1111)
- ธนาคารกสิกรไทย (โทร 02-888-8888 กด 819)
- ธนาคารไทยพาณิชย์ (โทร. 02-777-6784) ซึ่งรวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (โทร.02-626-7777)
- บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร ซึ่งรวมถึงธนาคารเกียรตินาคินภัทร ในฐานะหน่วยงานขายของบริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร (โทร. 02-165-5555)
ทั้งนี้ ปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งยังไม่มีผลบังคับใช้ สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้จากร่างหนังสือชี้ชวน https://market.sec.or.th/public/ipos/IPOSDE01.aspx?TransID=490612
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ BGRIM ได้ที่
https://www.facebook.com/B.GrimmPowerPCL
#BGrimmPower #BGRIM
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.