
ข้าวไทยแพงสุดในรอบ 15 ปี แต่ชาวนาอาจไม่รวยขึ้น
ข้าวไทยแพงสุดในรอบ 15 ปี แต่ชาวนาอาจไม่รวยขึ้น /โดย ลงทุนแมน
ข้าว เป็นสินค้าส่งออกสำคัญของไทย ทำเงินเข้าประเทศ “หลักแสนล้านบาท” เกือบทุกปี
ข้าว เป็นสินค้าส่งออกสำคัญของไทย ทำเงินเข้าประเทศ “หลักแสนล้านบาท” เกือบทุกปี
แถมปีนี้ ยังเป็นปีที่ราคาข้าวสูงสุดในรอบ 15 ปี ทำให้ มูลค่าการส่งออกข้าวไทย เติบโตขึ้น
แม้ว่าราคาข้าวจะสูงขึ้นก็ตาม ชาวนาไทยอาจยังไม่ได้ประโยชน์เพิ่มขึ้นอยู่ดี แล้วเป็นเพราะอะไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
เราอาจเข้าใจมาตลอดว่า ข้าวไทยน่าจะปลูกมากสุดในโลก เพราะที่ผ่านมา เราส่งออกข้าวเป็นที่หนึ่งมานาน
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
เราอาจเข้าใจมาตลอดว่า ข้าวไทยน่าจะปลูกมากสุดในโลก เพราะที่ผ่านมา เราส่งออกข้าวเป็นที่หนึ่งมานาน
จริง ๆ แล้ว ก็ต้องบอกว่า ไทยมีผลผลิตข้าวเป็นอันดับ 6 ของโลกเท่านั้น ในขณะที่ 3 ประเทศที่ปลูกข้าวเยอะสุด ได้แก่ จีน อินเดีย และบังกลาเทศ
แต่ข้าวจะถูกส่งออกได้ ก็ต่อเมื่อเหลือจากการบริโภคภายในประเทศ ทำให้มีเพียงไม่กี่ประเทศที่สามารถเหลือจนส่งออกได้
โดย 3 ประเทศผู้ส่งออกข้าวหลักตอนนี้ ได้แก่
- อินเดีย มีส่วนแบ่งการตลาด 39%
- ไทย มีส่วนแบ่งการตลาด 14%
- เวียดนาม มีส่วนแบ่งการตลาด 12%
- อินเดีย มีส่วนแบ่งการตลาด 39%
- ไทย มีส่วนแบ่งการตลาด 14%
- เวียดนาม มีส่วนแบ่งการตลาด 12%
จะเห็นได้ว่า อินเดียเป็นผู้ส่งออกข้าวที่ครองตลาดเป็นอันดับ 1 ในขณะที่เวียดนามก็ไล่ตามไทยมาติด ๆ
เมื่อไม่นานมานี้ อินเดียต้องเจอกับปัญหาสภาพอากาศแปรปรวน ทำให้ผลผลิตตกต่ำ จึงมีการระงับการส่งออกข้าวหลายชนิด เพื่อเก็บไว้บริโภคภายในประเทศเป็นหลัก
นี่จึงเป็นโอกาสทองของข้าวไทยที่สามารถส่งออกได้มากขึ้น
โดยหากไปดูการส่งออกข้าวในช่วงที่ผ่านมา
จะพบว่า
จะพบว่า
- ปี 2564 มูลค่าการส่งออก 109,771 ล้านบาท
ปริมาณการส่งออก 6.3 ล้านตัน
ปริมาณการส่งออก 6.3 ล้านตัน
- ปี 2565 มูลค่าการส่งออก 138,697 ล้านบาท
ปริมาณการส่งออก 7.7 ล้านตัน
ปริมาณการส่งออก 7.7 ล้านตัน
- 8 เดือนแรกของปี 2566
มูลค่าการส่งออก 100,369 ล้านบาท
ปริมาณการส่งออก 5.2 ล้านตัน
มูลค่าการส่งออก 100,369 ล้านบาท
ปริมาณการส่งออก 5.2 ล้านตัน
เห็นได้ว่า ข้าวไทยมีการส่งออกที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ภัยแล้งที่เกิดขึ้นในหลายประเทศในเอเชีย ทำให้ผลผลิตข้าวก็น้อยลงไปอีก เพราะข้าวต้องใช้น้ำจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม แม้ดูเหมือนว่าจะเป็นโอกาสการส่งออกของข้าวไทย ที่จะกลับมาทวงแชมป์ส่งออกข้าวอีกครั้ง แต่ชาวนาไทย อาจไม่ได้ประโยชน์อย่างที่คิด
เรื่องแรกเลย
ก็เพราะว่า “ต้นทุนการผลิตที่สูง”
ก็เพราะว่า “ต้นทุนการผลิตที่สูง”
จากข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา พบว่า ชาวนาไทยขายผลผลิตได้ต่ำกว่าต้นทุนการผลิต หรือพูดง่าย ๆ คือ ขาดทุนอย่างต่อเนื่อง
โดยต้นทุนที่ว่านี้ เช่น ค่าเช่าที่ดิน ค่าแรงงาน ค่าเครื่องจักร และที่สำคัญคือค่าปุ๋ย ที่คิดเป็น 1 ใน 4 ของต้นทุนการผลิตข้าวทั้งหมด
ช่วงที่ผ่านมา ราคาปุ๋ยเคมีได้เพิ่มสูงขึ้น จากความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่เป็นผู้ผลิตปุ๋ยหลักของโลก และไทยจำเป็นต้องนำเข้าปุ๋ยมากกว่า 90% ของปุ๋ยที่ต้องใช้ภายในประเทศ
ดังนั้นแม้จะขายข้าวได้ในราคาที่สูงขึ้น แต่ต้นทุนการผลิตก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว และทำให้การขายข้าวของชาวนาไทยแต่ละครั้ง อาจไม่ได้กำไรเลย
ดังนั้นแม้จะขายข้าวได้ในราคาที่สูงขึ้น แต่ต้นทุนการผลิตก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว และทำให้การขายข้าวของชาวนาไทยแต่ละครั้ง อาจไม่ได้กำไรเลย
เรื่องต่อมา คือ
“ผลผลิตต่อไร่ต่ำกว่าคู่แข่ง”
“ผลผลิตต่อไร่ต่ำกว่าคู่แข่ง”
หากเราไปดูผลผลิตต่อไร่ของ 3 ผู้ส่งออกข้าวหลัก
จะพบว่า
จะพบว่า
- อินเดีย มีผลผลิต 643 กิโลกรัมต่อไร่
- เวียดนาม มีผลผลิต 934 กิโลกรัมต่อไร่
- ไทย มีผลผลิต 465 กิโลกรัมต่อไร่
- เวียดนาม มีผลผลิต 934 กิโลกรัมต่อไร่
- ไทย มีผลผลิต 465 กิโลกรัมต่อไร่
เห็นได้ชัดเลยว่า ไทยสามารถปลูกข้าวต่อไร่ได้ต่ำกว่าผลผลิตจากคู่แข่งอย่างมาก
สาเหตุก็เพราะว่า คู่แข่งมีการพัฒนาพันธุ์ข้าวอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ผลผลิตต่อไร่สูงขึ้น รวมถึงตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ดีกว่า
ในขณะที่ข้าวส่งออกของไทย ต้องใช้เวลาโตนานกว่า และมีต้นทุนดูแลสูง จึงสามารถปลูกได้เพียงไม่กี่ครั้งต่อปี ทำให้ผลผลิตต่อไร่ทำได้ไม่สูงมาก นั่นเอง
บวกกับข้าวไทยส่วนใหญ่เป็นข้าวนาปีถึง 78% ซึ่งต้องพึ่งพาน้ำฝนตามฤดูกาล และปลูกปีละครั้งเท่านั้น
พอเกิดภัยแล้ง โดยเฉพาะในช่วงปัจจุบันที่เราต้องเผชิญ ก็ยิ่งส่งผลกระทบต่อการผลิตข้าวไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อีกด้วย
และเรื่องสุดท้าย “โครงสร้างการผลิตข้าวไทย”
ในตลาดข้าวไทยจะมี 3 ผู้เล่นหลัก ได้แก่ ชาวนา โรงสีข้าว และผู้ส่งออกข้าว โดยชาวนาเป็นกลุ่มที่ใหญ่สุด เพราะมีมากกว่า 4.1 ล้านคนทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตาม หากเราไปดูกำไรสุทธิเฉลี่ยต่อรายของ 3 ผู้เล่นหลักนี้ จากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย
จะพบว่า
จะพบว่า
- ผู้ส่งออก มีกำไรสุทธิเฉลี่ย 18,400,000 บาทต่อรายต่อปี
- โรงสี มีกำไรสุทธิเฉลี่ย 6,200,000 บาทต่อรายต่อปี
- ชาวนา มีกำไรสุทธิเฉลี่ย 10,000 บาทต่อคนต่อปี
- โรงสี มีกำไรสุทธิเฉลี่ย 6,200,000 บาทต่อรายต่อปี
- ชาวนา มีกำไรสุทธิเฉลี่ย 10,000 บาทต่อคนต่อปี
เห็นได้ว่า ชาวนาไทยที่เป็นรายย่อย มีกำไรเฉลี่ยต่อปีที่ต่ำมาก เมื่อเทียบกับผู้เล่นรายใหญ่อย่างผู้ส่งออกและโรงสี
ซึ่งกำไรที่ต่ำก็สื่อถึงอำนาจต่อรองที่ต่ำด้วย และหากการส่งออกหดตัว ชาวนาก็เป็นกลุ่มแรกที่จะโดนกดราคาขาย
และยิ่งมีการแข่งขันด้านราคากับอินเดียและเวียดนาม ยิ่งทำให้ราคาข้าวไทยถูกลงไปอีก ทั้ง ๆ ที่ต้นทุนการผลิตของเราสูงกว่าคู่แข่งด้วยซ้ำ
ซึ่งจริง ๆ แล้ว ผู้เล่นแต่ละรายก็มีตลาดเป็นของตัวเอง
- ข้าวไทย สามารถเจาะกลุ่มลูกค้าพรีเมียมได้ด้วยข้าวหอมมะลิ ที่มีราคาและคุณภาพสูง
- ข้าวไทย สามารถเจาะกลุ่มลูกค้าพรีเมียมได้ด้วยข้าวหอมมะลิ ที่มีราคาและคุณภาพสูง
- เวียดนาม เน้นเจาะกลุ่มลูกค้ารายได้ปานกลาง ด้วยข้าวพันธุ์หนานุ่ม ซึ่งมีราคาถูกกว่า
- อินเดีย เน้นเจาะตลาดกลางถึงล่าง โดยการขายข้าวนึ่ง ซึ่งมีราคาไม่แพง
แต่ด้วยต้นทุนการผลิตของเราที่สูง บวกกับเรามีผลผลิตต่ำกว่าประเทศอื่น ๆ และมีโครงสร้างที่ชาวนาแทบไม่มีอัตราต่อรองอะไรเลย
เรื่องทั้งหมดนี้ จึงทำให้สถานการณ์ในตอนนี้ กลายเป็นว่า แม้ข้าวไทยจะแพงสุดในรอบ 15 ปี แต่ชาวนาไทย ก็อาจยังมีชีวิตความเป็นอยู่ ไม่ต่างจากเดิม..
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.ers.usda.gov/webdocs/outlooks
-https://www.bot.or.th/th/research-and-publications/articles-and-publications/articles/Article_19Feb2021.html
-https://tdri.or.th/2022/12/powerpoint-future-thai-rice/
-https://www.oae.go.th
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.ers.usda.gov/webdocs/outlooks
-https://www.bot.or.th/th/research-and-publications/articles-and-publications/articles/Article_19Feb2021.html
-https://tdri.or.th/2022/12/powerpoint-future-thai-rice/
-https://www.oae.go.th