เบื้องหลังนิกาโอะแบรนด์เปลี่ยนสีผมที่ครองใจลูกค้าและมาแรงในปัจจุบัน

เบื้องหลังนิกาโอะแบรนด์เปลี่ยนสีผมที่ครองใจลูกค้าและมาแรงในปัจจุบัน

นิกาโอะ x ลงทุนแมน
ภาพจำที่เลวร้ายของการฟอกและทำสีผม คือ การระคายเคืองผิว ที่หลาย ๆ คนต้องทนแสบผิวหนังทั้งระหว่างทำและหลังทำสี
ที่หนักกว่าคือ สีที่ได้ไม่ตรงปก หรือไม่เด่นชัดมากพอ ทำให้ต้องมีการฟอกหรือลงสีซ้ำ ซึ่งนอกจากอาจจะต้องเสียทั้งเงินและเวลาเพิ่มแล้ว เส้นผมที่โดนกัดสีซ้ำ ๆ ก็อาจกลายเป็นผมแห้งเสียได้
แต่รู้หรือไม่ว่า มีแบรนด์ผลิตภัณฑ์เส้นผมที่ชื่อว่า นิกาโอะ ที่ใช้แนวคิดเรียบง่ายในการพัฒนาผลิตภัณฑ์
ด้วยการแก้ Pain Point ของลูกค้า จนสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในตลาดผลิตภัณฑ์ทำสีผมของไทยได้
เสียงสะท้อนจากผู้ที่เคยลองใช้ ต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ได้สีตรงปกและไม่แสบผิว ซึ่งยืนยันถึงความสำเร็จ ในการพัฒนาสินค้าของนิกาโอะได้เป็นอย่างดี
เบื้องหลังกลยุทธ์ในการสร้างแบรนด์ของนิกาโอะ เป็นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ปัจจุบันนี้ ตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมทั่วโลก มีมูลค่ารวมกว่า 3,160,000 ล้านบาท ซึ่งสำหรับประเทศไทยเอง ก็มีมูลค่ามากถึง 40,000-50,000 ล้านบาท
แม้จะเป็นอุตสาหกรรมเก่า แต่ตลาดดูแลเส้นผมในไทย ก็ยังไม่มีรายใหญ่ครองตลาด ส่งผลให้วงการนี้มีโอกาสเติบโต และมีแบรนด์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นอยู่เสมอ
ซึ่งนอกจากแชมพูและครีมบำรุงผมแล้ว ผลิตภัณฑ์หลักที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรม ก็คือ ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผม
ปัจจุบัน การเปลี่ยนสีผม กลายเป็นแฟชั่นที่ได้รับความนิยมอย่างมาก รวมถึงเฉดสีใหม่ ๆ ก็มีให้เห็นมากขึ้น เช่น ชมพู น้ำเงิน หรือบลอนด์เงิน
สังเกตง่าย ๆ หากลองไปเดินในย่านแฟชั่นของไทยอย่างสยาม หรือห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ก็จะพบว่ามีสัดส่วนของผู้ที่ทำสีผม มากถึงครึ่งหนึ่ง เลยทีเดียว
แล้วถ้าหากพูดถึง ผู้นำผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมในประเทศไทยแล้ว แบรนด์ที่กำลังถูกพูดถึง และเติบโตอย่างมาก ก็คือ นิกาโอะ (NIGAO)
นิกาโอะ คือแบรนด์ผลิตภัณฑ์ เกี่ยวกับเส้นผม ที่มีตั้งแต่ แชมพู และผลิตภัณฑ์บำรุงผม รวมถึงสินค้าที่สร้างชื่อให้กับแบรนด์ก็คือ ผลิตภัณฑ์ฟอกและเปลี่ยนสีผม
ซึ่งตลาดผลิตภัณฑ์ทำสีผม อาจจะมีแบรนด์ใหญ่ที่เรารู้จักกัน แต่ตลาดนี้ยังไม่มีรายใดเป็นเจ้าใหญ่ครองตลาด
และนิกาโอะ ก็ไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดมือ เพราะการทำสีผมแบบเดิม ๆ จะมี 2 ปัญหาหลักคือ คุณภาพสีที่ได้ และการระคายเคืองต่อผิวหนัง และสุขภาพเส้นผม
ซึ่งนิกาโอะ คือแบรนด์ผลิตภัณฑ์ทำสี ที่ได้รับการยอมรับว่าให้สีสันที่เด่นชัด และไม่ระคายเคืองต่อผิว
โดยกลยุทธ์ของนิกาโอะ คือการพัฒนาสินค้าให้มีความปลอดภัยสูงสุด ด้วยส่วนผสมและกระบวนการผลิตขั้นสูง ตามแบบฉบับวัฒนธรรมญี่ปุ่น ที่ผลิตสินค้าด้วยความละเอียด และใส่ใจในทุกขั้นตอน
อย่างเช่น ครีมเปลี่ยนสีผมที่ใช้เทคโนโลยี Crodafos HCE ลิขสิทธิ์จากสหรัฐอเมริกา ที่ช่วยเพิ่มความเด่นชัด และความคงทนของเม็ดสี ทำให้สีผมเด่นชัดและติดทนนาน
หรือ Squalane ที่มีจุดเด่นคือรักษาความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม ทำให้เส้นผมนุ่น เรียบ และมีประกายเงางาม
นอกจากจะใช้เทคโนโลยีขั้นสูงแล้ว ความสามารถในการค้นคว้าและวิจัยของนิกาโอะ ก็ได้สร้างนวัตกรรมขึ้นมา ด้วยการเป็นแบรนด์แรกที่ทำผลิตภัณฑ์ฟอกสีผมแบบครีม
ซึ่งแต่เดิมนั้น สีที่ใช้ฟอกจะเป็นลักษณะของผงสี ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อทางเดินหายใจ แต่นิกาโอะ คือแบรนด์แรกที่พัฒนาครีมฟอกสีผมขึ้นมา ทำให้การฟอกสีในปัจจุบันมีความปลอดภัยมากขึ้น
อีกทั้งครีมฟอกของนิกาโอะ ยังติดอันดับต้น ๆ ของผลิตภัณฑ์ฟอกสีผมที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มระดับความสว่างสูง และอ่อนโยนต่อเส้นผม
รวมถึงลดปัญหาเส้นผมด่าง กระด้าง ซึ่งเป็นผลข้างเคียงจากการใช้สารฟอกสีผมทั่วไป
นอกจากนี้ นิกาโอะยังมีผลิตภัณฑ์ที่ชื่อว่า นิกาโอะ ดิวว์ ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนสีผมที่มีส่วนผสมของเม็ดสีเข้มข้น ใช้งานง่ายและใช้ได้บ่อย โดยไม่ทำร้ายเส้นผม และยังมีโปรตีนจากรังไหม ที่ช่วยบำรุงผมให้เงางามอีกด้วย
ด้วยกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ที่มุ่งเน้นตัวผลิตภัณฑ์ ทำให้เกิดกระแสบอกต่อแบบปากต่อปาก ซึ่งไม่ได้มีแค่เฉพาะในกลุ่มลูกค้าที่ทำสีผมเท่านั้น
แต่ในกลุ่มของร้านทำผมที่ได้ใช้นิกาโอะ ก็เลือกใช้นิกาโอะ และกลายเป็นแบรนด์ชั้นนำในกลุ่มทำสีผมของไทย
ในส่วนของกลยุทธ์ทางการสื่อสารนั้น นิกาโอะ ก็มีช่องทางสื่อออนไลน์อยู่ในมือของตัวเองอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram หรือ TikTok
รวมถึงการเลือกนำเสนอความเป็น Hair Fashion Brand ระดับพรีเมียม ทั้งแวดวงแฟชั่นสีผม และ Hair Care ผ่าน YouTuber ชื่อดังหลายคน เช่น
- BIE THE SKA
- หัวกรวย
- Little Monster
ซึ่งแต่ละคอนเทนต์ที่ปล่อยออกไป ก็ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม และทำให้นิกาโอะ ยังคงถูกพูดถึงและอยู่ในกระแสอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม เมื่อแบรนด์เติบโตมาถึงจุดหนึ่ง ก็ต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับการเติบโต
และล่าสุด นิกาโอะ ก็ได้ปรับเปลี่ยน Packaging ครั้งใหญ่ กับทุกผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ที่มีสอดรับกันมากขึ้น
โดย Packaging ใหม่ มีการใช้ลายเส้นของเส้นผม เพื่อให้เกิดมิติของผลิตภัณฑ์ ซึ่งมีองค์ประกอบ 3 ส่วน คือ
- Art Element จากลายเส้นผม ทำให้บ่งบอกถึงความเป็นหยินและหยาง ในงานออกแบบ ที่สอดประสานและเกื้อกูลกันได้อย่างลงตัว
- Typography ที่ทำให้เกิดความโดดเด่นและแตกต่าง
- Color Harmony ที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ของนิกาโอะ มีความกลมกลืนไปในทิศทางเดียวกัน
ที่น่าสนใจคือ ลายเส้นบนผลิตภัณฑ์ ช่วยแบ่งผลิตภัณฑ์ออกเป็น 2 กลุ่มหลักคือ กลุ่มผลิตภัณฑ์ทำสีผม และกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผม ซึ่งนอกจากจะเพิ่มความพรีเมียมให้กับแบรนด์แล้ว
ในด้านฟังก์ชันการใช้งาน ก็ยังง่ายต่อผู้บริโภคในการเลือกซื้อ และทำความเข้าใจ กับตัวผลิตภัณฑ์ของนิกาโอะ ที่มีอยู่จำนวนมาก
ซึ่งก็น่าติดตามว่า นิกาโอะ จะมีผลิตภัณฑ์หรือกลยุทธ์ใหม่ ๆ ออกมาหรือไม่ เพราะหากนับช่องทางการเติบโตแล้ว นิกาโอะ ยังมีพื้นที่ให้ลงสนามอีกมาก ทั้งตลาดส่งออก หรือ โมเดิร์นเทรดในประเทศ
แต่ที่แน่ ๆ ถ้าเราเข้าไปร้านทำผมตอนนี้ ผลิตภัณฑ์ของนิกาโอะ ก็น่าจะเป็นแบรนด์แรก ๆ ที่ช่างทำผมแนะนำ
เพราะนอกจากจะให้สีสด ตรงปก และไม่ระคายเคืองผิวหนังแล้ว การได้ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมระดับพรีเมียม ก็ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า ไม่ต่างกับการได้ถือกระเป๋าแบรนด์เนมสุดหรู นั่นเอง..

Reference
-ข้อมูลประชาสัมพันธ์ นิกาโอะ
© 2025 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon