ไทเกอร์ วูดส์ อาจเข้าลงทุนใน On หลังแยกทางกับ Nike ดันราคาหุ้นขึ้น 8%

ไทเกอร์ วูดส์ อาจเข้าลงทุนใน On หลังแยกทางกับ Nike ดันราคาหุ้นขึ้น 8%

ไทเกอร์ วูดส์ อาจเข้าลงทุนใน On หลังแยกทางกับ Nike ดันราคาหุ้นขึ้น 8% /โดย ลงทุนแมน
ณ เวลานี้ หนึ่งในแบรนด์รองเท้าที่มาแรงคงไม่พ้น “On” แบรนด์รองเท้าจากสวิตเซอร์แลนด์
ซึ่งแบรนด์นี้ไม่ได้เนื้อหอมกับผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังดึงดูดเหล่านักกีฬาชื่อดัง ให้เข้ามาลงทุนอีกด้วย
ล่าสุดมีข่าวว่า นักกอล์ฟในตำนานอย่างคุณ Tiger Woods ผู้ที่มีอิทธิพลในแวดวงกีฬา
อาจลงทุนและเข้าถือหุ้นใน On หลังจากเขาหมดสัญญากับทาง Nike เมื่อเดือนที่แล้ว
ซึ่งข่าวนี้ก็ทำให้ราคาหุ้นของ On ดีดตัวขึ้นทันที 8%
จนมูลค่าบริษัททะลุ 320,000 ล้านบาท
แต่รู้ไหมว่า จริง ๆ แล้ว นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีนักกีฬาชื่อดัง สนใจ On
เพราะก่อนหน้านี้ นักเทนนิสระดับโลก คุณ “Roger Federer” ก็ได้ร่วมลงทุนกับ On มาแล้ว..
แล้วแบรนด์ On มีดีอะไร ทำไมนักกีฬาระดับโลกถึงสนใจลงทุน ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ย้อนกลับไปปี 2010 เรื่องราวเริ่มต้นที่เมืองซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จากคุณ Olivier Bernhard
อดีตนักกีฬาไตรกีฬาอาชีพ เจ้าของตำแหน่งแชมป์ไตรกีฬารายการ Ironman 3 สมัย
จุดเริ่มต้นคือ คุณ Olivier Bernhard พยายามมองหารองเท้าวิ่งสวมใส่แข่งขันที่มีความสบายและสามารถสร้างแรงส่งของทุก ๆ การก้าวได้ดี ซึ่งในช่วงชีวิตนักกีฬาของเขา ก็ยังไม่พบรองเท้าแบบที่เขาต้องการเลย
หลังจากเลิกเป็นนักกีฬาอาชีพ คุณ Olivier Bernhard มีความคิดที่จะเปลี่ยนโลกของการวิ่งให้ดีขึ้น จึงได้ทุ่มเทเวลาในการสร้างรองเท้าวิ่งที่เขาตามหาเกือบทั้งชีวิตขึ้นมา
จากการที่เคยเป็นนักกีฬาอาชีพมาก่อน เขาจึงพอจะรู้ว่าคนเล่นกีฬาอยากได้รองเท้าแบบไหน
ประกอบกับการที่เขามีความเป็นนักประดิษฐ์อยู่ในสายเลือด จึงนำประสบการณ์เรื่องการวิ่งของเขามาลองดีไซน์ออกแบบ ศึกษา และผสมผสานกับเทคโนโลยีด้านวิศวกรรม
จนท้ายสุด คุณ Olivier Bernhard สามารถพัฒนารองเท้าตัวต้นแบบได้สำเร็จ ภายใต้เทคโนโลยีที่เรียกว่า “CloudTec” ที่สามารถรองรับแรงกระแทกได้ดี และยังสร้างแรงส่งในทุกก้าวของการวิ่งอีกด้วย
หลังจากนั้นไม่นาน รองเท้าตัวต้นแบบที่ว่า ก็ได้รางวัล ISPO Brandnew Award
ซึ่งเป็นรางวัลด้านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ด้านกีฬา
โดยนักวิ่งที่ทดสอบผลิตภัณฑ์ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า รองเท้าที่มีเทคโนโลยี CloudTec ของคุณ Olivier Bernhard ให้ความรู้สึกเหมือนกับวิ่งอยู่บนก้อนเมฆเลยทีเดียว
ต่อมาคุณ Olivier Bernhard ได้ชวนเพื่อนอีก 2 คนคือ คุณ David Allemann และคุณ Caspar Coppetti
เพื่อจัดตั้งบริษัทโดยใช้ชื่อว่า “On Holding” เพื่อประกอบธุรกิจผลิตรองเท้าอย่างเต็มตัว
และในปี 2019 ก็มีจุดเปลี่ยนสำคัญอีกครั้งหนึ่ง
เมื่อยอดนักเทนนิสระดับโลก คุณ “Roger Federer” โทรศัพท์สายตรงเข้ามาขอนัดทานมื้อเย็นกับพวกเขา
โดยบทสนทนาบนโต๊ะอาหาร คุณ Roger Federer ได้กล่าวชื่นชมผลิตภัณฑ์ของบริษัท พร้อมทั้งเล่าว่า ตนเองก็เห็นคนรอบ ๆ ตัวต่างก็สวมใส่รองเท้าแบรนด์ On
และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นให้ผู้ร่วมก่อตั้งทั้ง 3 คน ชักชวนคุณ Roger Federer ร่วมลงทุนตอนนั้นเสียเลย และคุณ Roger Federer ก็ตอบตกลงทันที..
โดยนอกจากคุณ Roger Federer เข้ามาร่วมลงทุนในบริษัท On แล้ว
เขาก็ยังร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เช่น รองเท้าเทนนิส อีกด้วย
ซึ่งการเข้ามาร่วมลงทุนในบริษัท On Holding ของคุณ Roger Federer ก็ทำให้ผู้คนจากทั่วโลกเริ่มให้ความสนใจ On มากขึ้นไปอีก
จนปี 2021 On Holding ก็เติบโตจนสามารถจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก
ปัจจุบัน On ยังคงมุ่งเน้นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง ชูจุดเด่นแบรนด์ด้วยการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ รวมถึงมีการเพิ่มผลิตภัณฑ์ เช่น รองเท้าเทนนิส เสื้อผ้าออกกำลังกาย และวางขายไปกว่า 60 ประเทศทั่วโลก
เราลองมาดูผลประกอบการของ On Holding ช่วงที่ผ่านมากันบ้าง
ปี 2020 รายได้ 17,538 ล้านบาท ขาดทุน 1,135 ล้านบาท
ปี 2021 รายได้ 29,881 ล้านบาท ขาดทุน 7,020 ล้านบาท
ปี 2022 รายได้ 50,397 ล้านบาท กำไร 2,379 ล้านบาท
9 เดือนแรกปี 2023 มีรายได้ 55,466 ล้านบาท กำไร 4,384 ล้านบาท
จะเห็นได้ว่า ธุรกิจของ On นั้นอยู่ในช่วงที่ทั้งรายได้และกำไร กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
โดยสัดส่วนรายได้ของบริษัท แยกตามช่องทางจัดจำหน่าย มาจาก
- ขายส่งผ่านตัวแทนจำหน่าย 65.4%
- ขายปลีกผ่านช่องทางบริษัท 34.6%
และถ้าแบ่งสัดส่วนรายได้ตามภูมิภาค รายได้ก็มาจาก
- อเมริกาเหนือ 64.1%
- ยุโรปและอื่น ๆ 28.0%
- เอเชียแปซิฟิก 8.0%
ก็ไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่า จากจุดเริ่มต้นของคุณ Olivier Bernhard อดีตนักกีฬาอาชีพ ที่ไม่สามารถหารองเท้าดี ๆ สวมใส่สำหรับแข่งขันได้ เลยพยายามสร้างมันขึ้นมาเอง
จะกลายมาเป็นบริษัทรองเท้ามูลค่า 320,000 ล้านบาท โดยใช้เวลาเพียง 13 ปีเท่านั้นเอง..
Tag: On
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon