ธุรกิจถ่ายทอดสดกีฬา ศึกครั้งใหม่ ของแพลตฟอร์มสตรีมมิง /โดย ลงทุนแมน
ทุกวันนี้ มีบริการแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิง ให้เราเลือกสมัครรับชมกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Netflix, Disney+, Prime Video, Apple TV+

ที่ผ่านมา ผู้ให้บริการเหล่านี้ มักทำสงครามต่อสู้ด้านเนื้อหา โดยเฉพาะออริจินัลคอนเทนต์ เพื่อดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภคอยู่ตลอดเวลา

การแข่งขันที่ว่านี้ ก็ดูเหมือนจะยังไม่จบ และยืดเยื้อกว่าที่คิด เพราะสงครามใหม่กำลังเพิ่งเริ่มขึ้น..

ซึ่งประเภทคอนเทนต์ที่กำลังเป็นสนามรบถัดไปของสงครามสตรีมมิง ก็คือ “การถ่ายทอดสดกีฬา”

ทำไมบริษัทสตรีมมิงรายใหญ่ ถึงสนใจคอนเทนต์ประเภทนี้
แล้วพวกเขากำลังทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้กันอยู่บ้าง ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
เมื่อพูดถึงสิ่งที่ธุรกิจวิดีโอสตรีมมิงให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก คงหนีไม่พ้น “Engagement” การใช้งานแพลตฟอร์มของผู้บริโภค

ซึ่งคอนเทนต์ที่แทบทุกเจ้ามองว่า ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี คือ การถ่ายทอดสดกีฬา นั่นเอง

เพราะเกมการแข่งขัน มีความสนุกและตื่นเต้นที่คาดเดาผลลัพธ์ยาก จึงสร้างความน่าติดตามได้เป็นอย่างดี

อีกทั้งการรับชมแบบสด ๆ ได้อรรถรสในการชมมากกว่า
ไม่เหมือนภาพยนตร์หรือซีรีส์ที่สามารถกดข้าม กดหยุดแล้วมาดูภายหลังได้

จึงไม่น่าแปลกใจ ที่เราจะเห็นธุรกิจวิดีโอสตรีมมิงนั้น ต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงลิขสิทธิ์ในการถ่ายทอดสดรายการกีฬายอดนิยมต่าง ๆ

ลองมาดูรายแรกอย่าง Amazon Prime Video

บริการของ Amazon Prime Video มีสมาชิกอยู่ราว 205 ล้านบัญชี โดยสัดส่วนหลักประมาณครึ่งหนึ่งอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา

ทำให้ Amazon สนใจดึงเอากีฬาที่คนอเมริกันชื่นชอบอย่างอเมริกันฟุตบอล NFL มาเป็นจุดเด่นด้านคอนเทนต์กีฬา

ความจริง Amazon Prime Video เริ่มถ่ายทอดสด NFL บางส่วนมาตั้งแต่ปี 2017 แล้ว

แต่ต่อมาได้ตกลงลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดแบบ Exclusive สำหรับการแข่งขันในคืนวันพฤหัสบดี หรือที่เรียกว่า Thursday Night Football ตั้งแต่ปี 2023-2033 ด้วยเงินมูลค่า 350,000 ล้านบาท ตลอดอายุสัญญา

ต้องบอกว่า ดีลนี้น่าจะคุ้มค่าไม่น้อย เพราะมีการประเมินว่า Amazon Prime Video ใช้แทรฟฟิกอินเทอร์เน็ตสหรัฐฯ ในคืนวันพฤหัสบดี ถึงกว่า 25% เลยทีเดียว

สะท้อนว่า การถ่ายทอดสดนี้ สามารถดึงดูดความสนใจ และสร้าง Engagement ให้กับแพลตฟอร์มได้จริง

รายถัดมา คือ Apple TV+

เมื่อปี 2022 ทาง Apple ก้าวเข้าสู่สงครามด้วยการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดเมเจอร์ลีกเบสบอล MLB อีกหนึ่งกีฬาที่ชาวอเมริกันนิยม โดยจ่ายเงินมูลค่า 21,000 ล้านบาท ตลอดระยะเวลาสัญญา 7 ปี

แต่ต่อมาในปี 2023 บริษัทได้ตัดสินใจครั้งใหญ่ ด้วยการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลเมเจอร์ลีก MLS โดยจ่ายเงินมูลค่า 90,000 ล้านบาท ตลอดระยะเวลาสัญญายาว 10 ปี

นับเป็นมูลค่าเฉลี่ยต่อปี สูงกว่าที่ MLS เคยขายลิขสิทธิ์ให้กับพาร์ตเนอร์รายก่อน อย่างช่อง Fox และ ESPN เกือบ 3 เท่า

ที่ Apple กล้าทุ่มขนาดนี้ น่าจะคาดหวังให้ MLS ช่วยดึงดูดฐานแฟนฟุตบอลที่กำลังเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะหลังจากนักเตะชื่อดังอย่าง “ลิโอเนล เมสซี” ย้ายมาค้าแข้งกับสโมสรอินเตอร์ไมอามี เมื่อปีที่แล้ว

รายถัดมาที่น่าจับตามอง คือ Netflix

ก่อนหน้านี้ Netflix มีการผลิตคอนเทนต์สารคดีเกี่ยวกับวงการกีฬาหลายชิ้น เช่น The Last Dance, Beckham, Captains of the World, Break Point

แต่บริษัทยังไม่มีการถ่ายทอดสดกีฬาใด ๆ บนแพลตฟอร์ม ซึ่งจากการที่ Netflix ใช้กลยุทธ์ผลิตออริจินัลคอนเทนต์ เลยลองจัดแข่งขันกีฬาขึ้นมาเองเสียเลย

โดยจัดรายการกอล์ฟ The Netflix Cup รวมถึงจัดเทนนิสนัดพิเศษ ระหว่าง ราฟาเอล นาดัล กับ คาร์ลอส อัลคาราซ ถ่ายทอดสดให้รับชมบนแพลตฟอร์ม ซึ่งปรากฏว่าผลตอบรับออกมาดี

จึงเป็นที่มาของความเคลื่อนไหวล่าสุด คือ การเข้าซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดรายการมวยปล้ำ WWE Raw ด้วยสัญญาระยะยาว 10 ปี มูลค่ารวมกว่า 180,000 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มฉายตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป

ส่วนอีกรายที่ดูเหมือนมีความได้เปรียบสูง คือ Disney

Disney นั้นมีแพลตฟอร์มช่องกีฬาอย่าง ESPN+ ซึ่งมีจำนวนสมาชิกอยู่ 26 ล้านราย และมีลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดกีฬาอยู่หลากหลายประเภท

แต่บริษัทก็ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น โดยเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2024 ที่ผ่านมา Disney ประกาศจับมือกับ Warner Bros. และ Fox เพื่อตั้งบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่ สำหรับให้บริการสตรีมมิงถ่ายทอดสดกีฬาโดยเฉพาะ

ซึ่งจะเป็นการรวมศูนย์คอนเทนต์ถ่ายทอดสดกีฬาต่าง ๆ ที่แต่ละบริษัทถือครองลิขสิทธิ์อยู่ เช่น บาสเกตบอล NBA, เมเจอร์ลีกเบสบอล MLB, รถแข่ง Formula 1, กอล์ฟ PGA Tour

นับว่าเป็นอีกผู้เล่นที่อาวุธครบมือ และน่าจับตามองไม่น้อย

นอกจากนั้น ในสงครามก็ยังมีผู้เล่นรายอื่นอีก ไม่ว่าจะเป็น แพลตฟอร์ม Paramount+ ที่เพิ่งทุ่มเงินซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันอเมริกันฟุตบอลรอบชิงชนะเลิศอย่าง Super Bowl ครั้งล่าสุด

หรือ Peacock แพลตฟอร์มสตรีมมิงของบริษัทสื่อชั้นนำอย่าง NBCUniversal ที่มีคอนเทนต์ถ่ายทอดสดกีฬาแทบทุกประเภทที่กล่าวมาเช่นกัน

แล้วถ้าถามว่า ผู้บริโภคได้รับผลกระทบอะไรจากศึกสงครามครั้งนี้

แน่นอนว่าประโยชน์ที่ชัดเจน คงหนีไม่พ้น การมีทางเลือกในการรับชมคอนเทนต์ออนไลน์ที่มากขึ้น นอกจากภาพยนตร์ ละคร และซีรีส์ ยังมีการถ่ายทอดสดกีฬาเพิ่มเข้ามาอีกด้วย

แต่ก็ต้องอย่าลืมว่า ในระยะสั้นที่มีการแข่งขันแย่งชิงคอนเทนต์กันอย่างดุเดือด การถ่ายทอดสดกีฬาชนิดต่าง ๆ อาจถูกกระจายไปอยู่คนละแพลตฟอร์ม

ซึ่งจะกลายเป็นภาระและข้อจำกัดของผู้บริโภค ที่ต้องตามไปสมัครสมาชิกทุกแพลตฟอร์ม หรืออาจไม่ได้ดูบางรายการ เพราะจ่ายเงินหลายทางไม่ไหว..

สุดท้ายแล้ว ผลลัพธ์ของสงครามสตรีมมิงจะออกมาหน้าตาเป็นอย่างไร ใครเป็นผู้ชนะ ใครเป็นผู้แพ้

และใครจะได้ประโยชน์ที่สุด จากการแย่งชิงรายการถ่ายทอดสดกีฬา บนสมรภูมินี้

เราคงต้องเกาะติดหน้าจอตามเรื่องนี้ไปพร้อมกัน ราวกับดูการถ่ายทอดสด ที่ต้องลุ้นจนกว่าการแข่งขันจะจบลง..
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.hollywoodreporter.com/business/business-news/nfl-mlb-nba-streaming-tv-sports-1235756577/
-https://www.thestreet.com/media/espn-fox-wbd-sports-streaming-services-will-do-media-and-television
-https://gritdaily.com/live-sports-streaming-and-the-battle-for-attention/
-https://www.livemint.com/companies/news/netflix-to-live-stream-wwe-raw-from-january-2025-signs-rights-deal-of-over-5-billion-11706062357991.html#
-https://www.visualcapitalist.com/u-s-streaming-subscribers-projections-for-2027/
-https://en.m.wikipedia.org/wiki/NFL_on_Prime_Video#:~:text=In%20March%202021%2C%20Amazon%20acquired,a%20package%20of%20NFL%20games.
-https://www.marketwatch.com/story/apple-to-pay-2-5-billion-to-stream-major-league-soccer-for-the-next-10-years-01675280167