สวิตเซอร์แลนด์ ประเทศแทบไม่มีพื้นที่ทำเกษตร แต่เป็นผู้นำอาหารโลก

สวิตเซอร์แลนด์ ประเทศแทบไม่มีพื้นที่ทำเกษตร แต่เป็นผู้นำอาหารโลก

12 เม.ย. 2024
สวิตเซอร์แลนด์ ประเทศแทบไม่มีพื้นที่ทำเกษตร แต่เป็นผู้นำอาหารโลก /โดย ลงทุนแมน
ประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล ถูกโอบล้อมไปด้วยภูเขา ยากต่อการขนส่งสินค้าต่าง ๆ โดยพื้นที่กว่า 64% เป็นภูเขา และเหลือพื้นที่ที่สามารถทำการเกษตรได้น้อยมาก
นี่เรากำลังพูดถึง ประเทศสวิตเซอร์แลนด์..
แต่กลับกัน สวิตเซอร์แลนด์มีบริษัทอาหารชั้นนำของโลกอย่าง Nestlé ซึ่งเป็นบริษัทมูลค่ามากสุดของประเทศ และยังเป็นบริษัทอาหารที่มีมูลค่ามากสุดในโลกอีกด้วย
โดยปัจจุบัน Nestlé มีมูลค่าบริษัทราว 10 ล้านล้านบาท
แล้วทำไม ดินแดนภูเขาแห่งนี้ กลายมาเป็น ผู้นำด้านอาหารได้ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
เหตุผลแรกเลยคือ “เชี่ยวชาญอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปมานาน”
ด้วยความที่มีพื้นที่เพาะปลูกและการปศุสัตว์ค่อนข้างจำกัด
จึงบีบบังคับให้สวิตเซอร์แลนด์ ต้องเชี่ยวชาญการแปรรูปสินค้าเกษตร โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์จากนมและชีส มาตั้งแต่อดีต
โดยสวิตเซอร์แลนด์ โฟกัสและเรียนรู้วิธีแปรรูป เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร มากกว่าการทำเกษตรให้ได้ปริมาณมาก ๆ แทน
และผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูป เช่น นมและชีส ก็ได้กลายเป็นสินค้าส่งออกสำคัญ ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่าการส่งออกกว่า 84,500 ล้านบาทต่อปี
และความเชี่ยวชาญด้านการแปรรูปสินค้าเกษตรเหล่านี้ ก็กลายเป็นที่มาของบริษัท Nestlé ผู้นำด้านอาหารและเครื่องดื่ม ที่ใหญ่สุดในโลกตอนนี้อีกด้วย
เพราะในตอนนั้น ผู้ก่อตั้งอย่างคุณ Henri Nestlé เริ่มธุรกิจด้วยการผลิตอาหารสำหรับทารก ที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ด้วยการผสมนมและธัญพืช
ในขณะที่คู่แข่งอย่าง Anglo-Swiss Condensed Milk ที่ก่อตั้งโดยคุณ Charles และคุณ George Page ซึ่งเริ่มต้นธุรกิจนมข้นหวานในสหรัฐฯ แต่มาตั้งโรงงานในสวิตเซอร์แลนด์ ก็เริ่มทำสินค้าแข่งกับ Nestlé
หลังจากที่ทั้งคู่แข่งกันไปมา จนกระทั่งเสียชีวิต กรรมการของทั้งสองบริษัท ก็ตัดสินใจควบรวมกิจการกัน
จนกลายมาเป็นบริษัท Nestlé อย่างทุกวันนี้
อย่างไรก็ตาม ความเชี่ยวชาญในการแปรรูปสินค้าเกษตรมานาน ไม่ได้หมายความว่า ประเทศนั้น ๆ จะเป็นผู้นำด้านอาหารและเครื่องดื่มตลอดไป
แต่สวิตเซอร์แลนด์ สามารถทำได้อย่างต่อเนื่อง
ก็เพราะว่า “สามารถเอาชนะข้อจำกัด ด้วยนวัตกรรม”
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเลย นั่นคือ โกโก้
ซึ่งในตอนนั้น โกโก้เป็นพืชต้นกำเนิดจากทวีปอเมริกาใต้
และนำเข้ามาในยุโรป โดยกองทัพเรือสเปน
ซึ่งแม้สเปนจะดัดแปลงโกโก้ ด้วยการใส่นมเข้าไป จนกลายเป็นช็อกโกแลต แต่สวิตเซอร์แลนด์ กลับเป็นผู้นำในการพัฒนาช็อกโกแลตอย่างต่อเนื่องแทน

ส่วนหนึ่งก็เพราะว่า สวิตเซอร์แลนด์เชี่ยวชาญเรื่องผลิตภัณฑ์นมอยู่แล้ว ดังนั้นการต่อยอดและพัฒนาช็อกโกแลต จึงทำได้อย่างไม่ยาก
และในตอนนั้น อ้อยที่มีการปลูกในทวีปอเมริกาใต้
แล้วนำมาแปรรูปได้เป็นน้ำตาล ก็ถูกนำเข้ามาในยุโรป
โดยการผสมกับอาหารต่าง ๆ มากขึ้น
ซึ่งทำให้สวิตเซอร์แลนด์ แม้ไม่สามารถปลูกอ้อยหรือโกโก้ได้ แต่ด้วยนวัตกรรมที่มีอยู่ในมือ ก็สามารถนำวัตถุดิบขั้นต้นที่ว่า มาเพิ่มมูลค่า ผลิตเป็นอาหารและเครื่องดื่ม ส่งขายไปทั่วโลกได้
ส่วนเหตุผลสุดท้าย ที่ทำให้สวิตเซอร์แลนด์ ก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านอาหารและเครื่องดื่ม และยังคงเป็นผู้นำได้อย่างต่อเนื่อง
นั่นคือ “ความเป็นกลาง”
รู้ไหมว่า สวิตเซอร์แลนด์ถูกกำหนดให้เป็นประเทศที่เป็นกลาง ภายหลังสงครามนโปเลียนสิ้นสุดลงในปี 1814 จนทำให้ประเทศนี้ รอดจากสงครามโลกทั้งสองครั้ง
เรื่องนี้กลายเป็นผลดีต่อสวิตเซอร์แลนด์ เพราะมีคนอพยพเข้ามาเป็นแรงงานจำนวนมาก จากการหนีสงครามและความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในยุโรป
ทำให้สวิตเซอร์แลนด์ ประกอบไปด้วยคนหลายเชื้อชาติ ทั้งเยอรมัน ฝรั่งเศส อิตาลี ซึ่งคนกลุ่มนี้กลายมาเป็นแรงงานสำคัญ ในอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปของประเทศ
นอกจากนี้ ความเป็นกลางยังทำให้ระบบการเงินสวิส มีความแข็งแกร่งขึ้น เพราะบรรดาเศรษฐีทั่วโลก มักใช้บริการดูแลทรัพย์สินของประเทศนี้
เมื่อระบบธนาคารแข็งแกร่ง ก็ส่งผลดีต่อธุรกิจในสวิตเซอร์แลนด์ ที่สามารถกู้ยืมเงินเพื่อขยายกิจการ หรือระดมทุนเพิ่มเติมได้เช่นเดียวกัน
และความเป็นกลาง ยังทำให้ธุรกิจอาหารของสวิตเซอร์แลนด์ขยายตัวได้อย่างไม่สะดุด โดยที่โรงงานแทบจะไม่ได้รับผลกระทบจากสงครามเลยแม้แต้น้อย
แถมในช่วงสงคราม ยังสามารถขายสินค้าได้อย่างต่อเนื่อง เช่น Nestlé สามารถขายนมข้นหวานได้มหาศาล เพราะเป็นที่ต้องการในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1
และเพื่อป้องกันความเสี่ยงในอนาคต Nestlé เอาโรงงานของตัวเองไปตั้งที่สหรัฐฯ เพิ่มเติม ซึ่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็แทบจะไม่ได้รับผลกระทบเช่นกัน
ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ จึงทำให้สวิตเซอร์แลนด์ แม้จะเป็นประเทศที่ส่วนใหญ่มีแต่ภูเขา แต่ก็กลายมาเป็นผู้นำด้านอาหารและเครื่องดื่มระดับโลกได้
ซึ่งเหตุผลที่สำคัญจริง ๆ นั่นคือ การมีนวัตกรรม ที่ช่วยเพิ่มมูลค่าให้สินค้าเกษตรของตัวเอง แม้ตัวเองแทบจะไม่มีพื้นที่ปลูกวัตถุดิบที่จำเป็นในการผลิตเลย
หันกลับมามองประเทศไทย เรามีสินค้าเกษตรต่าง ๆ มากมาย แต่กลับขายสินค้าส่วนใหญ่ เป็นเพียงวัตถุดิบขั้นต้นเท่านั้น
คำตอบของเรื่องนี้ ก็คงหนีไม่พ้นนวัตกรรม
แบบสวิตเซอร์แลนด์ ที่จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตรของตัวเองได้
ก็ไม่แน่ว่า หากเราหันมาโฟกัสเรื่องนวัตกรรมอย่างจริงจัง
คนที่ได้ประโยชน์จริง ๆ นั่นคือ เกษตรกร ที่จะหลุดพ้นกับดักความยากจนได้สักที..
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.eda.admin.ch/aboutswitzerland/en/home/gesellschaft/schweizer-kueche/schokolade.html
-https://medium.com/a-dose-of-curiosity/how-did-switzerland-become-known-for-chocolate-d41f912f280a
-https://en.wikipedia.org/wiki/Swiss_cheeses_and_dairy_products
-https://en.wikipedia.org/wiki/Agriculture_in_Switzerland
-https://blog.nationalmuseum.ch/en/2019/04/modernisation-of-swiss-agriculture/
-https://www.britannica.com/place/Switzerland/Recent-developments
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.