Nike เจอมรสุมรอบด้าน มูลค่าบริษัทหายไปเกือบ 50% ใน 3 ปี

Nike เจอมรสุมรอบด้าน มูลค่าบริษัทหายไปเกือบ 50% ใน 3 ปี

Nike เจอมรสุมรอบด้าน มูลค่าบริษัทหายไปเกือบ 50% ใน 3 ปี /โดย ลงทุนแมน
ย้อนกลับไป 3 ปีที่แล้ว มูลค่าบริษัท Nike ทำจุดสูงสุด 10.1 ล้านล้านบาท แต่มาวันนี้เหลือเพียง 5.2 ล้านล้านบาท
แปลว่าถ้ามีคนไปซื้อหุ้นของ Nike ในช่วงเวลานั้น ที่ดูเหมือนเป็นยุครุ่งเรืองที่สุดของแบรนด์ แล้วถือมาถึงวันนี้ จะขาดทุนไปแล้วเกือบ 50%..
มันเกิดอะไรขึ้นกับ Nike ?
Nike เผชิญความท้าทายอะไรอยู่ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
Nike มีจุดเริ่มต้นขึ้นในปี 1964 จากชายสองคนที่มีชื่อว่า คุณฟิล ไนต์ และ คุณบิลล์ บาวเวอร์แมน โดย Nike มีชื่อเดิมว่า Blue Ribbon Sports
ตอนแรกเริ่มจากการเป็นตัวแทนจำหน่ายรองเท้าให้กับแบรนด์ Onitsuka Tiger ในสหรัฐฯ และ​​ต่อมาได้จับมือกันพัฒนารองเท้าร่วมกัน เพื่อออกวางขาย
ต่อมาในปี 1971 Onitsuka Tiger กับ Blue Ribbon Sports ได้มีปัญหาขัดแย้งกัน จนถึงขั้นฟ้องร้องขึ้นศาล
คุณฟิล ไนต์ และ คุณบิลล์ บาวเวอร์แมน จึงได้ตั้งบริษัทผลิตรองเท้ากีฬาขึ้นอีกแห่ง โดยใช้ชื่อว่า Nike
หลังจากนั้น ทั้งสองคนก็ได้ควบรวม Blue Ribbon Sports กับ Nike เข้าด้วยกัน
จนกลายเป็นแบรนด์ Nike บริษัทเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายและอุปกรณ์กีฬา ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มาจนถึงวันนี้
แต่สัจธรรมในโลกธุรกิจ เมื่อมีช่วงรุ่งโรจน์ ในบางครั้งก็อาจต้องพบกับช่วงร่วงโรยตามมา เป็นวงจรเรื่อยไป
ซึ่งก็เช่นเดียวกับ Nike ที่ช่วงปีที่ผ่านมา เผชิญกับความท้าทายหลายอย่าง จนมูลค่าบริษัท Nike หายไปกว่า 4.9 ล้านล้านบาท หรือลดลงเกือบ 50% แล้ว ในเวลาเพียงแค่ 3 ปี..
โดยผลประกอบการที่ผ่านมาของ Nike (งบการเงินสิ้นสุดเดือนพฤษภาคมของปี)
ปี 2021
รายได้ 1,625,637 ล้านบาท กำไร 209,036 ล้านบาท
ปี 2022
รายได้ 1,704,915 ล้านบาท กำไร 220,679 ล้านบาท
ปี 2023
รายได้ 1,869,421 ล้านบาท กำไร 185,055 ล้านบาท
9 เดือนแรก ปี 2024 (สิ้นสุดเดือนกุมภาพันธ์ 2024)
รายได้ 1,414,594 ล้านบาท กำไร 153,300 ล้านบาท
โครงสร้างรายได้
- รองเท้า 66%
- เครื่องแต่งกาย 26%
- อื่น ๆ 8%
หากแบ่งตามภูมิภาค จะมาจาก
- ทวีปอเมริกาเหนือ 41%
- ทวีปยุโรป ตะวันออกกลาง และแอฟริกา 25%
- จีน 17%
- อื่น ๆ 17%
แต่ถ้าจะให้เห็นภาพมากขึ้นว่า Nike กำลังเจอกับความท้าทายจริงไหม ต้องมาดูผลประกอบการในไตรมาสล่าสุด
รายได้ 453,659 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.3%
กำไร 42,778 ล้านบาท ลดลงไปราว 5.5%
ดูเหมือนว่า Nike กำลังเจอความเสี่ยงที่จะหยุดโต..
ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า แม้ว่าภาพรวมของอุตสาหกรรมจะเติบโตขึ้น โดยเฉพาะรองเท้าและเสื้อผ้ากีฬา ที่เติบโตตามเทรนด์รักสุขภาพ แต่ Nike ต้องเผชิญการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้นตาม
ทั้งคู่ปรับตลอดกาลเบอร์ 2 อย่าง adidas
แบรนด์มวยรอง อย่าง New Balance และ ASICS
และอีกหลาย ๆ แบรนด์ที่เกิดมาได้ไม่นาน แต่กำลังมาแรง เช่น Hoka หรือ On
รวมถึงแบรนด์จากจีนเอง ที่เข้ามาแย่งส่วนแบ่งการตลาดอย่างเมามัน
อีกทั้งรองเท้าและเสื้อผ้ากีฬาเอง ก็ไม่ได้เป็นแค่สิ่งที่ใช้ในการออกกำลังกายเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องของแฟชั่นเข้ามาเกี่ยวข้อง
ซึ่งการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของแฟชั่น สำหรับ Nike กลับปรับตัวตามไม่ค่อยทัน ส่งผลต่อความนิยมของแบรนด์ที่ลดลงได้เช่นกัน
ในขณะที่สินค้าเรือธง ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดมาก อย่างเช่น Nike X Travis Scott แม้จะมีให้กดสั่งซื้อเป็นรอบ ๆ อยู่เรื่อย ๆ
ส่วนใหญ่คนที่กดได้ ก็ไม่ใช่ลูกค้าจริง ๆ แต่เป็นพ่อค้าแม่ค้า ที่เอาไปรีเซลขายต่อ และอัปราคาขึ้นหลายเท่า
เรื่องนี้ก็ทำให้ลูกค้าและแฟน ๆ Nike ต่างเริ่มเบื่อหน่ายกับแบรนด์ และเริ่มหันไปมองแบรนด์อื่นกันมากขึ้น
ประกอบกับ ยังมีเรื่องกระแสบอยคอต Nike ในประเทศจีน เมื่อปี 2021 ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตลาดที่สำคัญของ Nike
ตอนนั้น Nike แสดงความกังวลเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในซินเจียง โดยเฉพาะประเด็นการบังคับใช้แรงงานชาวอุยกูร์
เรื่องนี้ทำให้ชาวจีนจำนวนมากไม่พอใจ และเริ่มบอยคอตสินค้าของ Nike โดยมีการเรียกร้องให้ยกเลิกสัญญากับพรีเซนเตอร์ชาวจีนที่มีชื่อเสียง รวมถึงการสนับสนุนแบรนด์กีฬาของจีนแทน เช่น Li-Ning และ Anta
กระแสบอยคอตนี้สร้างความเสียหายให้กับ Nike ในตลาดจีน โดยมีรายงานว่า ยอดขายลดลงอย่างมาก และ Nike ต้องปิดร้านค้าบางแห่งในจีน
นอกจากนี้ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา Nike ยังได้ตัดความสัมพันธ์ทางธุรกิจอย่างยาวนานถึง 27 ปี กับทางนักกอล์ฟในตำนานอย่างคุณ Tiger Woods ที่เปรียบเหมือนไอคอนิกของแบรนด์ไปอีกด้วย
จะเห็นว่าช่วงที่ผ่านมา Nike เจอมรสุมรอบด้าน ทั้งการแข่งขันที่มากขึ้น, ผู้บริโภคมีตัวเลือกเยอะขึ้น, ความนิยมของแบรนด์ที่ลดลง, การสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดในจีน และอีกมากมาย
ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า Nike จะแก้เกมอย่างไรต่อไปในอนาคต
แต่ดูเหมือนว่า นักลงทุนจะรอไม่ไหว เพราะราคาหุ้น Nike ไหลลงเรื่อย ๆ ตั้งแต่จุดสูงสุดในปี 2021
และวันนี้มูลค่าบริษัทของ Nike ก็ได้หายไปเกือบ 50% แล้ว..
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
Tag: NIKE
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon