“สมใจ” ชื่อบ้านๆ แต่ร้านนี้มีของเยอะ

“สมใจ” ชื่อบ้านๆ แต่ร้านนี้มีของเยอะ

18 เม.ย. 2018
“สมใจ” ชื่อบ้านๆ แต่ร้านนี้มีของเยอะ / โดย ลงทุนแมน
ร้านสมใจ เป็นร้านเครื่องเขียนเก่าแก่
รู้ไหมว่าร้านนี้มีอายุยาวนานกว่า 63 ปีแล้ว
และที่สำคัญมีรายได้เป็นหลักร้อยล้านบาท
ที่มาของเรื่องนี้เป็นอย่างไร ลงทุนแมนจะมาเล่าให้ฟัง
ร้านสมใจเปิดให้บริการครั้งแรกในกรุงเทพฯ เมื่อปี 2498
แต่ในช่วงนั้น ก่อนที่จะมาขายอุปกรณ์เครื่องเขียนอย่างที่เห็นในทุกวันนี้ ทางร้านได้ขายหนังสือวรรณกรรมอย่าง อิเหนา และสามก๊ก
เจ้าของร้านชื่อ คุณตานิยม และคุณยายสมใจ เคยทำงานอยู่ร้านหนังสือใหญ่แห่งหนึ่ง มาก่อน จึงมาเปิดร้านขายหนังสือของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก ร้านสมใจ อยู่ในย่านที่มีร้านหนังสือจำนวนมาก ทำให้ทั้งสองคนขายหนังสือได้ไม่ดีนัก
แต่จากการที่ร้านตั้งอยู่ใกล้กับโรงเรียนสวนกุหลาบ ทั้งคู่จึงตัดสินใจเปลี่ยนจากการขายหนังสือ มาขายเครื่องเขียนในราคาย่อมเยาแทน ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดี
โดยกลุ่มลูกค้าประจำสมัยนั้นคือ นักเรียนและนักศึกษา ทำให้ต่อมาทางร้านจึงตัดสินใจขยายสาขาเพิ่มเป็น 4 สาขา
ต่อมาในรุ่นที่ 2 ซึ่งเป็นรุ่นคุณพ่อ คุณแม่ของผู้บริหารในปัจจุบัน ได้เริ่มนำระบบไอทีเข้ามาช่วยในการบริหาร พร้อมทั้งขยายสาขาไปทั้งกรุงเทพ และต่างจังหวัด
รุ่นปัจจุบัน ซึ่งเป็นรุ่นที่ 3 แล้ว บริหารโดย
คุณภวานี วิทยานนท์
คุณนพนารี พัวรัตนอรุณกร
คุณวิธวินทร์ วิทยานนท์
ทั้งสามคนเป็นผู้บริหารรุ่นใหม่ ทำให้เริ่มมีการปรับเปลี่ยนแผนธุรกิจให้เหมาะสมกับโลกปัจจุบันมากขึ้น
ตลาดเครื่องเขียนของไทยปัจจุบัน มีมูลค่าประมาณ 14,000 ล้านบาท มีผู้เล่นรายใหญ่หลายราย
แต่ สมใจ ก็ยังยืนหยัดอยู่ได้ในปัจจุบัน โดยตอนนี้ ร้านสมใจ มีสินค้ามากกว่า 60,000 รายการ มีทั้งอุปกรณ์เครื่องเขียน, กระดาษ, เครื่องมือในการทำงานศิลปะและสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ
รายได้และกำไรของ บริษัท สมใจค้าหนังสือเครื่องเขียน จำกัด
ปี 2557 รายได้ 195 ล้านบาท กำไร 7.9 ล้านบาท
ปี 2558 รายได้ 193 ล้านบาท กำไร 6.7 ล้านบาท
ปี 2559 รายได้ 222 ล้านบาท กำไร 8.7 ล้านบาท
ลงทุนแมนเคยสงสัยเหมือนกันว่า โลโก้ร้านสมใจ ดูไม่เหมือนคนอื่น และร้านกล้าทำให้แตกต่าง โลโก้นี้มีที่มาที่ไปอย่างไร
ซึ่งหลังจากไปค้นมาก็พบว่า โลโก้ร้านสมใจมาจากลายมือของยายสมใจ ผู้ก่อตั้งนั่นเอง
เรื่องนี้ทำให้เราคิดได้ว่า แต่ละรุ่นจะมีพัฒนาการในการทำธุรกิจที่ต่างกัน
ตั้งแต่รุ่นบุกเบิก ที่ต้องเริ่มจากการลองผิดลองถูก
ก่อนที่จะเข้าสู่รุ่นที่สอง ที่เป็นช่วงของการขยายสาขา พร้อมทั้งเริ่มมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย
ในขณะที่รุ่นที่สาม เป็นยุคแห่งเปลี่ยนแปลง ที่ต้องนำพาธุรกิจให้ปรับตัวเข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
ซึ่งไม่ว่าจะอยู่ในรุ่นไหน สิ่งหนึ่งที่เชื่อว่าทุกรุ่นต้องเจอก็คือ การปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมในช่วงนั้นๆ
ซึ่งถ้าใครทำได้ก็จะประสบความสำเร็จจนสมใจได้ไม่ยาก เหมือนร้านสมใจนั่นเอง..
----------------------
สมใจกับร้านสมใจแล้ว สมควรติดตามลงทุนแมนต่อที่ blockdit.com, instagram, twitter, youtube, line โดยค้นหา ไอดีชื่อ longtunman ในแพลตฟอร์มนั้นๆ
----------------------
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.