วิธีแก้ผูกขาด ของบริษัทใหญ่ ซื้อคนและเทคโนโลยี แทนซื้อบริษัท

วิธีแก้ผูกขาด ของบริษัทใหญ่ ซื้อคนและเทคโนโลยี แทนซื้อบริษัท

วิธีแก้ผูกขาด ของบริษัทใหญ่ ซื้อคนและเทคโนโลยี แทนซื้อบริษัท /โดย ลงทุนแมน
หลายปีที่ผ่านมา เราได้เห็นบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของโลก ใช้เงินซื้อกิจการสตาร์ตอัปมากมาย เพื่อขยายธุรกิจและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
แต่พอเป็นแบบนั้นอยู่เรื่อย ๆ ส่งผลให้หน่วยงานกำกับภาครัฐเพ่งเล็งว่า บริษัทเจ้าตลาดจะมีขนาดใหญ่และมีการผูกขาดมากจนเกินไป
จึงทำให้บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ พยายามหาวิธีหลีกเลี่ยงโดยไม่เข้าซื้อกิจการโดยตรง แต่หันไปดึงเอา “ทรัพยากรสำคัญ” มาครอบครองแทน
ปัจจุบันมีใครดำเนินกลยุทธ์แนวนี้อยู่บ้าง ?
แล้วการดูดทรัพยากรที่ว่า มีวิธีอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ลงทุนนอก 5 ต.ค. งานรวมความรู้ ลงทุนต่างประเทศ ดูรายละเอียด และจองบัตรได้ที่ https://www.zipeventapp.com/e/longtunnork2024
╚═══════════╝
ตามข้อมูลสถิติ บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่มักซื้อกิจการเฉลี่ยอย่างน้อย 4-5 ดีลต่อปี อย่าง Alphabet เจ้าของ Google มีการซื้อกิจการมากกว่าค่าเฉลี่ยถึง 12 ดีลต่อปี
ซึ่งท่าแบบนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งท่าประจำที่เหล่าบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ใช้กัน ในการเพิ่มศักยภาพของตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ
แต่ในมุมกลับกัน หน่วยงานกำกับภาครัฐมองว่า
เป็นการเพิ่มอำนาจผูกขาดเหนือตลาด ย่อมไม่เกิดการแข่งขันอย่างเป็นธรรม ส่งผลลบต่อผู้บริโภค
โดยก่อนหน้านี้ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐอเมริกา ยื่นฟ้อง Apple ว่าผูกขาดตลาดสมาร์ตโฟน, ยื่นฟ้อง Alphabet ว่าผูกขาดตลาดเซิร์ชเอนจิน หรือล่าสุด NVIDIA ก็มีข่าวว่าจะถูกตรวจสอบเช่นกัน
และในยุโรปเอง ก็มีความเข้มงวดยิ่งกว่า โดยมีการยื่นสอบสวน Apple, Alphabet, Meta ว่าละเมิดกฎหมายป้องกันการผูกขาดในธุรกิจดิจิทัล ซึ่งอาจมีบทลงโทษเป็นค่าปรับหรือคำสั่งให้แยกกิจการ
อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมเทคโนโลยีกำลังอยู่ในช่วงดุเดือดก็ว่าได้ เพราะทุกคนต่างกำลังเร่งหาโอกาสลงทุนในธุรกิจที่เป็นเมกะเทรนด์อย่าง เทคโนโลยี AI เพื่อชิงความได้เปรียบก่อนใคร
ตัวเลขงบลงทุนเทคโนโลยี AI ในช่วงครึ่งแรกของปี 2024
- Meta อยู่ที่ 1.36 ล้านล้านบาท
- Microsoft อยู่ที่ 1.12 ล้านล้านบาท
- Amazon อยู่ที่ 1.10 ล้านล้านบาท
- Alphabet อยู่ที่ 0.85 ล้านล้านบาท
จากแนวโน้มดังกล่าว ก็ทำให้หน่วยงานกำกับภาครัฐ ต้องการเข้ามาตรวจสอบการเทกโอเวอร์กิจการสตาร์ตอัปให้เข้มงวดยิ่งกว่าเดิม
เพราะการครอบครองเทคโนโลยี AI ไม่ได้ทำให้มีอำนาจเหนือตลาดเท่านั้น แต่ยังมีอิทธิพลต่อเรื่องความมั่นคงของรัฐอีกด้วย
ด้วยเหตุนี้ บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ จึงดำเนินกลยุทธ์แบบใหม่ ที่ไม่ซื้อกิจการทั้งบริษัทตรง ๆ
แต่หันไปซื้อทรัพยากรของบริษัทแทน ไม่ว่าจะเป็น ลิขสิทธิ์การเข้าถึงเทคโนโลยี หรือบุคลากร
เรามาลองดูตัวอย่างความเคลื่อนไหว เมื่อไม่นานมานี้
รายแรก คือ “Microsoft” ที่เจรจาดีลกับบริษัท Inflection AI เมื่อเดือนมีนาคม 2024
Inflection AI ก่อตั้งขึ้นในปี 2022 เป็นสตาร์ตอัปเทคโนโลยีด้าน Machine Learning, Generative AI รวมถึงมีบริการแช็ตบอตชื่อว่า Pi ซึ่งมีผู้ใช้งานประจำ 1 ล้านรายต่อวัน
โดยในดีลครั้งนี้ Microsoft จ่ายเงิน 22,000 ล้านบาท เพื่อให้ได้ลิขสิทธิ์เทคโนโลยีและฐานข้อมูลต่าง ๆ ของ Inflection AI นำไปใช้เชื่อมต่อกับผลิตภัณฑ์ในเครือของตัวเอง
นอกจากนั้น ยังดึงตัวพนักงานอีก 70 คน พ่วงด้วยผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท มาร่วมงานกับทีม AI ของ Microsoft ด้วย
รายต่อมา คือ “Amazon” ที่เจรจาดีลกับบริษัท Adept AI เมื่อเดือนมิถุนายน 2024
Adept AI ก่อตั้งขึ้นในปี 2022 เป็นสตาร์ตอัปเทคโนโลยีเกี่ยวกับ AI และ Machine Learning โดยเฉพาะ
ในดีลครั้งนี้ Amazon จ่ายเงิน 14,400 ล้านบาท เพื่อให้ได้เทคโนโลยีและฐานข้อมูลต่าง ๆ ของ Adept AI มาต่อยอดกับผลิตภัณฑ์ภายในเครือ หวังเร่งสปีดตัวเองในการแข่งขันกับผู้เล่นรายอื่น
อีกทั้งยังดึงตัวพนักงาน และกลุ่มผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ซึ่งเคยทำงานอยู่กับ OpenAI และ Google มาร่วมทีมด้าน AI ของ Amazon ด้วย
รายล่าสุด คือ “Alphabet” เจ้าของ Google ที่เจรจาดีลกับบริษัท character.ai เมื่อต้นเดือนสิงหาคม 2024
character.ai ก่อตั้งขึ้นในปี 2021 เป็นสตาร์ตอัปแช็ตบอตดาวรุ่งพุ่งแรง ที่เราจะสามารถสนทนากับ AI ที่สร้างขึ้นมาให้มีคาแรกเตอร์ตามต้องการได้
โดย Google ได้จ่ายเงินโดยไม่เปิดเผยจำนวน เพื่อให้ได้เทคโนโลยีและฐานข้อมูลของ character.ai มาประยุกต์ใช้กับผลิตภัณฑ์ในเครือเช่นเดียวกัน
และอย่างที่พอเดาออก ก็มีการดึงตัวพนักงาน และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ซึ่งส่วนใหญ่ก็เคยทำงานอยู่กับ Google มาก่อน ให้กลับมาร่วมงานกันอีกครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้ ในมุมของบรรดาสตาร์ตอัป ก็ถือเป็นทางเลือกการ Exit ที่น่าสนใจ เนื่องจากตลาดระดมเงินทุนอยู่ในภาวะซบเซามานาน
ประกอบกับในการสเกลธุรกิจ AI จำเป็นต้องอาศัยเงินทุนมหาศาลเพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะมีแค่บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ที่สายป่านยาว สามารถทำได้
ดังนั้นการจับมือทำดีลกับบรรดาพี่ใหญ่ของวงการเทค ที่มีเงินสดล้นมือ และฐานลูกค้ามหาศาล ก็เป็นข้อเสนอที่ปฏิเสธได้ยาก
ซึ่งก็คงต้องดูกันต่อไปว่า หน่วยงานกำกับภาครัฐ จะมีการตรวจสอบเจาะลึกดีลประเภทนี้เพิ่มขึ้นหรือไม่ นอกเหนือจากที่โฟกัสเฉพาะเรื่องการซื้อกิจการ
แต่ถ้าการเดินเกมแบบนี้มีมากขึ้นเรื่อย ๆ เราอาจได้เห็นกิจการสตาร์ตอัปจำนวนหนึ่งเหลือแค่ชื่อบริษัท แต่ข้างในว่างเปล่า เพราะถูกดึงทรัพยากรสำคัญออกไปหมด
และมันคงยิ่งทำให้บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ ยืนระยะในสงคราม AI หรือสมรภูมิรบเทคโนโลยีอื่น ๆ ได้ยาวนานต่อไป
รวมทั้งได้ประโยชน์จากการซื้อตัวบุคลากรเก่ง ๆ มาไว้ในมือ เพื่อคิดค้นนวัตกรรมใหม่ขึ้นมาอีก
สุดท้ายไม่ว่าจะหันหน้าไปทางไหน เราก็คงหนีไม่พ้นการใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทผู้ชนะเหล่านี้ในชีวิตประจำวันอยู่ดี
และตอกย้ำการเป็น Winner Take Most ในโลกธุรกิจ มากขึ้นทุกวัน..
╔═══════════╗
ลงทุนนอก 5 ต.ค. งานรวมความรู้ ลงทุนต่างประเทศ ดูรายละเอียด และจองบัตรได้ที่ https://www.zipeventapp.com/e/longtunnork2024
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://m.economictimes.com/tech/technology/ai-startups-swap-independence-for-big-techs-deep-pockets/articleshow/112082129.cms
-https://www.ft.com/content/b7037ce1-4319-4a4a-8767-0b1373cec9ce
-https://www.economicliberties.us/big-tech-merger-tracker/
-https://www.reuters.com/technology/microsoft-agreed-pay-inflection-650-mln-while-hiring-its-staff-information-2024-03-21/
-https://www.reuters.com/technology/artificial-intelligence/google-hires-characterai-cofounders-licenses-its-models-information-reports-2024-08-02/
-https://www.cnbc.com/2024/06/28/amazon-hires-execs-from-ai-startup-adept-and-licenses-its-technology.html
-https://www.semafor.com/article/08/02/2024/investors-in-adept-ai-will-be-paid-back-after-amazon-hires-startups-top-talent
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon