บริษัทเจ้าของกระดาษทิชชู Scott รายได้ส่วนใหญ่ ไม่ได้มาจากทิชชู

บริษัทเจ้าของกระดาษทิชชู Scott รายได้ส่วนใหญ่ ไม่ได้มาจากทิชชู

บริษัทเจ้าของกระดาษทิชชู Scott รายได้ส่วนใหญ่ ไม่ได้มาจากทิชชู /โดย ลงทุนแมน
Scott และ Kleenex สองแบรนด์กระดาษทิชชูยอดนิยมที่หลายบ้านต้องมี ไปจนถึงผ้าอนามัย Kotex และผ้าอ้อม Huggies
สินค้าที่ต้องเจอในชีวิตประจำวันเหล่านี้ มาจากผู้ผลิตบริษัทเดียวกัน นั่นก็คือ Kimberly-Clark
บริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค สัญชาติอเมริกัน อายุมากกว่า 150 ปี ที่มีจุดเริ่มต้น มาจากโรงงานผลิตกระดาษหนังสือพิมพ์
แต่ในวันนี้สินค้าของ Kimberly-Clark ถูกวางขายอยู่ใน 175 ประเทศ และมีผู้ใช้ในแต่ละวันถึง 1 ใน 4 ของประชากรโลก
จากโรงงานกระดาษ กลายมาเป็นผู้ผลิตสินค้า ที่ผู้คนขาดไม่ได้ ได้อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
เส้นทางของ Kimberly-Clark ต้องย้อนกลับไปในปี 1872 หรือ 152 ปีก่อน ที่เมืองนีนาห์ รัฐวิสคอนซิน
นักธุรกิจ 4 คน ได้แก่ คุณ John A. Kimberly, คุณ Havilah Babcock, คุณ Charles B. Clark และคุณ Franklyn C. Shattuck ได้ร่วมทุนกันก่อตั้ง Kimberly, Clark & Company ขึ้น
ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อมาเป็น Kimberly-Clark Company ในปี 1906
โดยในช่วงแรก ประกอบธุรกิจโรงงานกระดาษ มีสินค้าหลักเป็นกระดาษหนังสือพิมพ์ ที่ใช้วัตถุดิบเป็นเศษผ้าฝ้ายและผ้าลินิน
ก่อนที่ในเวลาต่อมา Kimberly-Clark เข้าซื้อกิจการโรงงานกระดาษในละแวกใกล้เคียง และได้มีการขยายกิจการมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งสร้างโรงงานใหม่ ๆ และออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เช่น กระดาษเคลือบ กระดาษสำหรับพิมพ์หนังสือ ไปจนถึงกระดาษ Manila Wrapping ที่มีความทนทานสูง
โดยมีลูกค้าหลักคือ The Kansas City Star ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของเมืองแคนซัสซิตี รัฐมิสซูรี และ The New York Times หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นชื่อดัง ของมหานครนิวยอร์ก
อย่างไรก็ตาม Kimberly-Clark ได้ยุติการผลิตกระดาษหนังสือพิมพ์ เนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรง และราคากระดาษหนังสือพิมพ์ที่ตกต่ำลง
จุดเปลี่ยนสำคัญของ Kimberly-Clark มาถึง เมื่อโลกได้เข้าสู่สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ทำให้เกิดความต้องการใช้ผ้าพันแผลและสำลีในปริมาณมาก
ในช่วงนั้น Kimberly-Clark อยู่ในระหว่างพัฒนา “Cellucotton” ที่สามารถใช้แทนสำลีได้ดี และมีต้นทุนที่ถูกกว่า
ทำให้ Kimberly-Clark ได้รับคำสั่งซื้อจากกองทัพสหรัฐฯ เป็นจำนวนมาก
อีกทั้งพยาบาลในสนามรบยังพบว่า Cellucotton สามารถใช้สำหรับเป็นแผ่นรองการเกิดประจำเดือนได้ดี
จนเมื่อสงครามยุติลง บริษัทจึงได้นำ Cellucotton มาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ออกมามากมาย เช่น
- ผ้าอนามัย แบรนด์ Kotex
- กระดาษทิชชู แบรนด์ Kleenex
- ผ้าอ้อม แบรนด์ Huggies
ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ก็ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว และทำให้รายได้ของ Kimberly-Clark เติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ
นอกจากนี้ Kimberly-Clark ยังได้ขยายการเติบโตของธุรกิจ ด้วยการเข้าซื้อกิจการ Scott Paper Company ที่กำลังประสบปัญหาในปี 1995
ทำให้ Kimberly-Clark กลายเป็นเจ้าของแบรนด์กระดาษทิชชู Scott โดยปริยาย
เราลองมาดูผลประกอบการของ Kimberly-Clark กันว่าเป็นอย่างไร ?
ปี 2021
- รายได้ 6.7 แสนล้านบาท
- กำไร 6.2 หมื่นล้านบาท
- กระแสเงินสดอิสระ 5.9 หมื่นล้านบาท
ปี 2022
- รายได้ 6.9 แสนล้านบาท
- กำไร 6.6 หมื่นล้านบาท
- กระแสเงินสดอิสระ 6.4 หมื่นล้านบาท
ปี 2023
- รายได้ 7.0 แสนล้านบาท
- กำไร 6.1 หมื่นล้านบาท
- กระแสเงินสดอิสระ 9.5 หมื่นล้านบาท
แม้ในปี 2023 รายได้จะเพิ่มขึ้น แต่มีกำไรสุทธิลดลง เพราะบริษัทมีการตั้งด้อยค่าของสินทรัพย์ไม่มีตัวตน ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายทางบัญชี 2.2 หมื่นล้านบาท
ในขณะที่กระแสเงินสดอิสระ เติบโตขึ้นอย่างมาก ซึ่งมาจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน (CFO) ที่เติบโตขึ้น ประกอบกับมีค่าใช้จ่ายสำหรับการลงทุน (Capital Expenditure) ที่ลดลง
หากเราลองมาดูโครงสร้างรายได้ของบริษัท ในปี 2023 แยกได้เป็น 3 ส่วน
- 52% มาจากส่วน Personal Care หรือผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล เช่น ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ผ้าอนามัย กางเกงชั้นใน
- 31% มาจากส่วน Consumer Tissue หรือบรรดากระดาษทิชชู ทั้งกระดาษสำหรับใช้ในห้องน้ำ กระดาษเช็ดหน้า กระดาษเช็ดปาก และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
- 17% มาจากส่วน K-C Professional ซึ่งก็คือบริการดูแลสุขอนามัยในสถานที่ต่าง ๆ อย่างครบวงจร ทั้งให้คำปรึกษาไปจนถึงบริการอุปกรณ์ และผลิตภัณฑ์ของบริษัท
โดยลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของ Kimberly-Clark ก็คือ Walmart Inc. ห้างค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐฯ ซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 13% ของยอดขายรวมในปี 2023
และจะเห็นว่า สัดส่วนรายได้ของ Kimberly-Clark มาจากส่วน Personal Care เยอะสุด
ในขณะที่กลุ่มกระดาษทิชชู มีความสำคัญรองลงมา
และนี่คือเรื่องราวของ Kimberly-Clark เจ้าของแบรนด์สินค้าที่ผู้คนขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวัน ที่เริ่มต้นธุรกิจจากโรงงานกระดาษ
ผ่านการปรับตัว และต่อยอดนวัตกรรมจากสงคราม
จนในวันนี้ แม้รายได้จากกระดาษทิชชู จะไม่ได้ทำเงินให้กับบริษัทมากที่สุด
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ทั้ง Scott และ Kleenex ก็เป็นแบรนด์ที่หลายคนมักซื้อติดบ้านเอาไว้ และทำให้ Kimberly-Clark กลายเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตกระดาษทิชชู ที่ใหญ่สุดในโลก ที่มีมูลค่าบริษัทกว่า 1.5 ล้านล้านบาท เลยทีเดียว..
╔═══════════╗
ภาวะเงินเฟ้อ ตลาดผันผวนแบบนี้ ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.kimberly-clark.com/en-us/company/about-us
-https://americanbusinesshistory.org/kimberly-clark-from-commodities-to-powerhouse-brands/
-https://www.zippia.com/kimberly-clark-careers-6520/history/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Kimberly-Clark
-https://en.wikipedia.org/wiki/Scott_Paper_Company
-https://finance.yahoo.com/quote/KMB/
-https://www.pptvhd36.com/wealth/trick-trend/235793
-Kimberly-Clark Annual Report 2023
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon