CBRE ตำนานกว่าร้อยปี ของผู้ให้บริการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก สู่เมืองไทย

CBRE ตำนานกว่าร้อยปี ของผู้ให้บริการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก สู่เมืองไทย

CBRE x ลงทุนแมน
บริษัทแห่งหนึ่งได้รับเลือกให้เป็น Fortune's World's Most Admired Company หรือก็คือ บริษัทที่ได้รับรางวัลการชื่นชมมากที่สุดในโลก จากนิตยสารฟอร์จูน นานถึง 14 ปีติดต่อกัน
เรากำลังพูดถึงบริษัทที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ ที่มีชื่อว่า CBRE..
รู้หรือไม่ว่า CBRE ได้รับการจัดอันดับจาก Fortune ให้เป็นหนึ่งในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่น่าชื่นชมที่สุด
โดยจากภาคอสังหาริมทรัพย์ทั้ง 9 ด้าน CBRE เป็นผู้นำในภาคอสังหาริมทรัพย์ถึง 6 ด้าน คือ คุณภาพการบริการ, คุณภาพการจัดการ, การบริหารบุคลากร, ความรับผิดชอบต่อสังคม, ความสามารถในการแข่งขันระดับโลก และการใช้สินทรัพย์ขององค์กร และรองลงมาในคุณสมบัติอีก 3 ด้าน คือ นวัตกรรม, ความมั่นคงทางการเงิน และมูลค่าการลงทุนระยะยาว
ปัจจุบัน CBRE มีอายุกว่า 118 ปี มีพนักงานกว่า 130,000 คน (รวมพนักงานในส่วน Turner & Townsend) ในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก หนึ่งในนั้นก็คือ ประเทศไทย..
แล้ว CBRE สร้างการเติบโตจนเป็นตำนานนับร้อยปีได้อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
รู้หรือไม่ว่า 4 ตัวอักษร CBRE ที่เราเห็นเรียงกันอยู่นี้ จริง ๆ แล้วมีที่มาจาก 2 เหตุการณ์สำคัญ
เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นในปี 1906 เมื่อมีบริษัทธุรกิจอสังหาฯ แห่งหนึ่งเริ่มต้นขึ้นในเมืองซานฟรานซิสโก ภายหลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่
40 ปีหลังจากนั้น ก็ได้ขึ้นมาเป็นหนึ่งในบริษัทอสังหาฯ ที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันตกของสหรัฐอเมริกา และได้จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกาในเวลา 20 ปีต่อมา
จากนั้นในปี 1989 ก็ได้ก่อตั้งใหม่ในชื่อ CB Commercial ดำเนินธุรกิจเรื่อยมา
ซึ่งหนึ่งกลยุทธ์ที่สร้างการเติบโตในช่วงเวลานั้นก็คือ การเข้าซื้อกิจการต่าง ๆ ที่มีศักยภาพ และกลยุทธ์นี้เองที่นำไปสู่จุดเปลี่ยนสำคัญ
โดยในปี 1998 CB Commercial ได้เข้าซื้อ REI Limited เพื่อให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ ซึ่งเป็นสาขาต่างประเทศของ Richard Ellis ที่ก่อตั้งขึ้นในลอนดอนมาตั้งแต่ปี 1773
จากเหตุการณ์ครั้งนั้น จึงได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น CB Richard Ellis
ซึ่งจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกาในปี 2004 และเปลี่ยนชื่อมาเป็น CBRE ในปี 2011
แล้ว CBRE ขยายธุรกิจไปทั่วโลกได้อย่างไร ?
การเติบโตของ CBRE ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากศักยภาพเดิม และประสบการณ์ยาวนาน ประกอบกับกลยุทธ์การเข้าซื้อกิจการต่าง ๆ
ยิ่งช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์ให้กับเครือข่ายการให้บริการของ CBRE มากขึ้นเรื่อย ๆ
ตัวอย่างการเข้าซื้อกิจการที่โดดเด่น เช่น
- Norland Managed Services Ltd. วิศวกรรมเทคนิคการก่อสร้างในสหราชอาณาจักร และไอร์แลนด์
- Global Workplace Solutions ของ Johnson Controls (JCI) บริหารทรัพยากรอาคารแบบครบวงจร และกลายมาเป็นสายธุรกิจ Global Workplace Solutions (GWS หรือ Facilities Management) ของ CBRE ในปัจจุบัน
- Turner & Townsend ผู้ให้บริการจัดการโปรแกรม ให้คำปรึกษาด้านค่าใช้จ่าย และบริการการจัดการโครงการทั่วโลก
- WOLF Studio หนึ่งในบริษัทออกแบบเชิงพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดและประสบความสำเร็จมากที่สุดในสิงคโปร์
- Paia Consulting บริษัทที่ปรึกษาด้านความยั่งยืนที่มีฐานอยู่ในสิงคโปร์
จนมาถึงปัจจุบันนี้ จิกซอว์ที่ CBRE ค่อย ๆ ต่อร่าง ก็ได้กลายมาเป็นอาณาจักรที่ปรึกษาและให้บริการด้านอสังหาฯ ยักษ์ใหญ่ระดับโลก โดยเป็นบริษัทที่ให้บริการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุุด ด้วยรายได้กว่า 1.11 ล้านล้านบาท ในปี 2024 และมีพนักงานมากกว่า 130,000 คน (รวมพนักงานในส่วน Turner & Townsend) ในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก
(ข้อมูลจาก ir.cbre.com)
ครอบคลุม 3 กลุ่มบริการอสังหาฯ คือ
- กลุ่ม Advisory Services
เช่น Advisory & Transaction Services, Capital Markets, Property Management, Valuations
- กลุ่ม Global Workplace Solutions
เช่น Facilities Management, Management Consulting, Project Management
- กลุ่ม Real Estate Investments
เช่น Investment Management, Development Services
สิ่งที่หลายคนไม่ค่อยรู้ก็คือ หลาย ๆ เคสใหญ่ของภาคอสังหาฯ ทั่วโลก
CBRE คือผู้อยู่เบื้องหลังดีลครั้งสำคัญนั้นด้วย
ยกตัวอย่างก็เช่น เคส South Molton Street Estate ในนามของ City of London Corporation ที่ขายถนนสายสำคัญแห่งนี้ เพื่อพัฒนาเป็นพื้นที่ค้าปลีกระดับพรีเมียมยาว 200 เมตร ให้กับ Eastern Med นับเป็นดีลสำคัญที่ถนนสายนี้ถูกเปลี่ยนมือเป็นครั้งแรกในรอบหลายศตวรรษ
หรืออย่างเคส Fox Corporation และ News Corporation สองยักษ์ใหญ่ด้านสื่อที่ CBRE ได้ปิดดีลในการเช่าพื้นที่รวม 1.2 ล้านตารางฟุต ที่ 1211 Avenue of the Americas ในแมนแฮตตัน
ความสำเร็จของ CBRE ยังได้รับการรับรองด้วยรางวัลอันทรงเกียรติมากมาย เช่น
- ติดอันดับ Fortune 500
- World's Most Ethical Companies จาก Ethisphere เป็นเวลา 11 ปีซ้อน
- Fortune ยกย่อง CBRE ให้เป็นหนึ่งใน Fortune's Most Admired Real Estate Company เป็นเวลา 14 ปีซ้อน
- Forbes ยกย่อง CBRE ให้เป็นหนึ่งใน America's Best Employers ทั้งในด้านความหลากหลาย, การมีส่วนร่วม และยังเป็นผู้นำด้านการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์
- ได้อันดับที่ 3 ใน Barron’s Most Sustainable U.S. Companies
แล้ว CBRE เข้ามาในประเทศไทยเมื่อไร ?
CBRE ขยายสาขามาที่กรุงเทพฯ ในปี 1988 หรือกว่า 36 ปีที่แล้ว และที่ภูเก็ตในปี 2004
ช่วงแรก CBRE Thailand เน้นบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ เช่น ที่ปรึกษา ตัวแทน และผู้บริหารอาคาร
หลังจากนั้น ก็ขยายการให้บริการครอบคลุมโซลูชันด้านอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรมาจนถึงปัจจุบัน
CBRE Thailand เริ่มโดดเด่นในบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ในทุก Sector ตั้งแต่การให้คำปรึกษาด้านการลงทุน การวิจัยตลาด และยังเป็นบริษัทประเมินมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ระดับท็อปของประเทศไทย
ยกตัวอย่างก็เช่น
- บริการให้คำปรึกษาการซื้อ ขาย เช่า โครงการที่พักอาศัย (Residential Sales Project) ทั้งคอนโดมิเนียม, บ้าน, รีสอร์ต มูลค่าการซื้อขายรวมกว่า 2 แสนล้านบาท ทั้งในกรุงเทพฯ ภูเก็ต และเมืองสำคัญ ๆ มากกว่า 300 โครงการ
- แนะนำการลงทุนในที่พักอาศัยในต่างประเทศให้แก่คนไทย ทั้งญี่ปุ่น อังกฤษ มัลดีฟส์ สิงคโปร์ และออสเตรเลีย
- เป็นที่ปรึกษาด้านการให้เช่าพื้นที่ Office กว่า 2.9 ล้านตารางเมตร ให้กับบริษัทกว่า 4,000 แห่ง พร้อมทั้งบริการด้าน Workplace Strategy ที่วางแผนเพิ่มประสิทธิภาพ และลดค่าใช้จ่ายพื้นที่สำนักงาน
- เป็นที่ปรึกษาและให้บริการปล่อยเช่าร้านค้าปลีกกว่า 150 ร้านค้า และโครงการค้าปลีกกว่า 80 โครงการ
- บริการให้คำปรึกษาการซื้อ ขาย เช่า พื้นที่โรงงานอุตสาหกรรม โลจิสติกส์ พื้นที่โกดังสินค้า และดาตาเซนเตอร์
- บริการด้านการให้คำปรึกษาการลงทุนในธุรกิจโรงแรม
- บริการด้านการบริหารจัดการอาคาร (Property Management) กว่า 2.9 ล้านตารางเมตร และบริการให้คำปรึกษาด้านอาคารสีเขียวและความยั่งยืน (Sustainability) โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางอีกด้วย
การดำเนินงานทั้งหมดนี้ ถูกขับเคลื่อนด้วยบุคลากรกว่า 1,300 คน ภายใต้ 2 สำนักงานหลักในกรุงเทพฯ และภูเก็ต นั่นเอง
ทีนี้ ลองมาดูเคสสำคัญในไทยที่มี CBRE Thailand อยู่เบื้องหลังกันบ้าง..
ถ้าพูดถึงแบรนด์ในภาคอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในไทย หรือ Branded Residence หลายคนน่าจะนึกถึง The Residences at Mandarin Oriental, Bangkok ซึ่งอยู่ใน Mixed-Use Project ระดับโลกอย่าง ICONSIAM ซึ่งในปี 2015 CBRE Thailand ได้รับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านการพัฒนาโครงการ โดยเฉพาะด้านการวางผังเบื้องต้นของส่วนที่พักอาศัย
หรืออย่างในปี 2019 ก็รับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านการพัฒนาการออกแบบ การตลาด และการบริหารงานขายให้กับ The Residences at Dusit Central Park
ขณะเดียวกัน สำหรับอาคารสำนักงาน..

- ปี 2021 CBRE Thailand ได้รับบทบาทเป็นที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์ บริหารพื้นที่เช่า และบริหารอาคาร ให้กับ One City Centre (OCC) อาคารสำนักงานที่สูงที่สุดในประเทศไทย
- ปี 2023 ยังเป็นตัวแทนบริหารพื้นที่เช่าสำหรับผู้เช่าของ One Bangkok ในส่วนของอาคารสำนักงาน
นอกจากนี้ ยังมีเคสการซื้อ ขาย และประเมินราคาที่ดินสำคัญ ๆ ในประวัติศาสตร์อีกมากมาย
เช่น ที่ดินสถานทูตใจกลางเมือง ที่สร้างสถิติการซื้อขายที่ดินมูลค่าสูงที่สุดในประเทศไทยในขณะนั้น
CBRE Thailand คว้ารางวัลต่าง ๆ ที่แสดงถึงความเป็นผู้นำในวงการนี้ได้อย่างไม่ยาก เช่น
- Best Companies to Work for in Asia 2022 จากงาน HR Asia Awards
- Thailand Best Real Estate Agency จากงาน International Property Awards
- Thailand Best Property Consultancy จากงาน International Property Awards
- World’s Best Real Estate Agency จากงาน International Property Awards
- Southeast Asia Valuation Team of the Year จากงาน RICS Awards
สิ่งที่เห็นจากเรื่องราวตลอดร้อยกว่าปีของแบรนด์ CBRE คือการดำเนินธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาฯ ที่ไม่เคยหยุดนิ่งในการพัฒนา และพร้อมที่จะขยายบริการอย่างไม่หยุดยั้งไปทั่วโลก
ถึงตรงนี้ ถ้าใครยังมองว่า CBRE เป็นเพียงเอเจนต์ขายบ้านและคอนโดมิเนียม คงเข้าใจผิดครั้งใหญ่..
เพราะวันนี้ CBRE Thailand คือมืออาชีพด้านโซลูชันอสังหาฯ ครบวงจรของโลกและของไทย ไปเรียบร้อยแล้ว
References
-ข้อมูลเปิดเผยจาก CBRE
-https://ir.cbre.com/press-releases/detail/215/fortune-names-cbre-a-worlds-most-admired-company-for
Tag: CBRE
© 2025 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon