การ Valuation ก็เหมือนการให้คนตาบอด พาเราเดินข้ามถนน ที่มีความไม่แน่นอน และผิดพลาดได้

การ Valuation ก็เหมือนการให้คนตาบอด พาเราเดินข้ามถนน ที่มีความไม่แน่นอน และผิดพลาดได้

การ Valuation ก็เหมือนการให้คนตาบอด พาเราเดินข้ามถนน ที่มีความไม่แน่นอน และผิดพลาดได้ /โดย ลงทุนแมน
การลงทุนกับสิ่งที่เราเคย ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทนั้น ๆ หรือเป็นลูกค้า มักจะทำให้เราสบายใจ มากกว่าการลงทุนไปกับหุ้นที่เรามองไม่เห็น ไม่เคยสัมผัสกับกิจการของมัน
แต่การที่เราทำแบบนั้น กำลังเป็นการตัดโอกาส ในการเข้าถึงการลงทุนในหุ้นดี ๆ อยู่หรือไม่ ?
และการประเมินมูลค่าหุ้น หรือ Valuation เป็นสิ่งที่นักลงทุนมักจะได้ยินอยู่เสมอ ว่าเป็นหนึ่งในสิ่งที่จำเป็นต้องทำ
แต่ปัจจุบันนี้ หุ้นหลายตัวที่ขึ้นไปหลาย 10 เท่า กลับเป็นหุ้นที่ตำราการประเมินมูลค่าแบบเดิม ๆ จะต้องบอกเราว่า หุ้นนี้เป็นหุ้นที่ไม่ควรซื้อ
จึงนำมาสู่คำถามที่ว่า Valuation ยังจำเป็นอยู่ไหม กับการลงทุนในยุคนี้ ?
คุณชนาเมธ เฟื่องวรรธนะ, นักลงทุนเน้นคุณค่า
และคุณเมธพนธ์ อมรธีรสรรค์, นักลงทุนเน้นคุณค่า
ได้ชวนวิเคราะห์กับเรื่องนี้ พร้อมกับเผยถึงแนวคิด ที่จะช่วยให้นักลงทุนอย่างเรา ๆ สามารถมองเห็น และคว้าหุ้นที่มีโอกาสเติบโตหลายเด้ง ไปจนถึง 10 เด้งได้
ที่งาน BEAT THE MARKET ในหัวข้อ “10X Alpha Mastery หลักการลงทุน พิชิตหุ้น 10 เด้ง”
สำหรับคุณชนาเมธ หรือคุณแดม มองว่า ไม่ว่าเราจะได้เคยใช้บริการของบริษัทนั้น มาหรือไม่ เราก็สามารถลงทุนหุ้นได้หมด ถ้าเรารู้วิธีหาข้อมูลของบริษัทนั้น จนเราเข้าใจธุรกิจอย่างลึกซึ้ง
เมื่อเราเข้าใจมากพอ จนถึงขั้นสามารถคาดการณ์ภาพในอนาคตระยะยาวของบริษัทได้ ถ้าบริษัทแบบนี้มีโอกาสจะกลายเป็นผู้ชนะได้ ก็น่าลงทุน
ในทางกลับกัน คุณเมธพนธ์ หรือคุณเมฆ พบว่า จากประสบการณ์ส่วนตัวเอง หุ้นที่เคยลงทุนแล้วได้รับผลตอบแทนสูง มักจะเป็นบริษัทที่เราเคยใช้บริการมาก่อน เพราะพอได้ใช้บริการแล้ว มีความพอใจมาก
วิธีนี้จะทำให้รู้สึกมั่นใจในการลงทุนหุ้นตัวนี้มากขึ้น จนสามารถถือหุ้นได้นาน ไม่ว่าราคาหุ้น จะมีการเหวี่ยงไปรุนแรงมากขนาดไหนก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 เห็นตรงกันว่า สิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่ใช่ว่า เราเคยใช้สินค้าหรือบริการของบริษัทที่เราจะลงทุน นั้นมาก่อนหรือไม่ แต่กลับเป็นความเข้าใจในธุรกิจของบริษัทจริง ๆ
เพราะถ้าต้องรอให้ได้ใช้บริการก่อน ก็อาจจะเป็นการเสียโอกาสลงทุน ในบริษัทคุณภาพดีที่มีโอกาสเติบโต ไปได้..
ในเรื่องของการประเมินมูลค่า คุณเมธพนธ์ หรือคุณเมฆ มองว่าการ Valuation เป็นเครื่องคิดเลขที่มาช่วยประเมินมูลค่ากิจการในอนาคต มากกว่าการประเมินมูลค่ากิจการในปัจจุบัน
การประเมินมูลค่า อาจไม่จำเป็นต้องทำแบบเป๊ะ ๆ ก็ได้ เพราะไม่มีใครในโลก รู้ว่ามูลค่าที่แท้จริงของบริษัท จะเป็นเท่าไร เพราะการประเมินมูลค่า เป็นเรื่องของการใช้สมมติฐาน ถึงการเติบโตในอนาคตของบริษัท
โดยการประเมินมูลค่า สามารถทำได้แบบคร่าว ๆ ด้วยการประเมินออกมาเป็นช่วง และให้ส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัย หรือ Margin of Safety ไว้เสมอด้วย
ในสถานการณ์ปัจจุบัน ที่มีความไม่แน่นอนสูง ก็ควรมีการเผื่อ Margin of Safety เพิ่มด้วย แต่สำหรับแต่ละตัวจะไม่เท่ากัน เพราะหุ้นแต่ละตัว ไม่ได้รับผลกระทบจากความผันผวนเท่ากัน
ส่วนคุณแดม มองว่า การประเมินมูลค่า = การตั้งสมมติฐาน
จึงต้องมองให้ทะลุไปถึงสมมติฐาน ที่เป็นที่มาของตัวเลข ซึ่งเอามาใช้ประเมินมูลค่าด้วย
คุณแดม จึงเลือกประเมินมูลค่าแบบคร่าว ๆ และใช้ข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญเก่ง ๆ ในระดับโลก มาดูประกอบ พร้อมทั้งมองเรื่อง Sentiment หรืออารมณ์ของตลาด ประกอบไปด้วย
อีกทั้งมองว่า การยึดติดกับการ Valuation มากเกินไป ก็อาจปิดกั้นโอกาสการลงทุน ที่ผ่านเข้ามาได้
ซึ่งการประเมินมูลค่าธุรกิจเทคโนโลยี เป็นเรื่องยาก เพราะการคาดการณ์อนาคตของธุรกิจประเภทนี้ เป็นเรื่องที่ยากมาก ไม่เหมือนกับธุรกิจเก่าที่มีสินค้าและบริการ ซึ่งคาดการณ์ได้ง่ายกว่า ทำให้เหมาะสมกับการประเมินมูลค่า
เมื่อเราไม่สามารถคาดการณ์อนาคตธุรกิจได้ เราก็จะไม่รู้ว่า ประเมินมูลค่าออกมาได้ถูกหรือผิดกันแน่
และการประเมินมูลค่าโดยคาดการณ์ไม่ออก ว่าข้างหน้าเป็นอย่างไร ก็ไม่ต่างจากการ “ให้คนตาบอด พาเดินข้ามถนน..”
-ใครที่พลาดงานวันนี้ บัตร RERUN BEAT THE MARKET เปิดจองแล้ว มีจำนวนจำกัด จองบัตรได้ที่ https://www.zipeventapp.com/e/BEAT-THE-MARKET-2025
© 2025 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon