
ครั้งแรกในรอบ 25 ปี ยุโรป กำลังมีบริษัทใหญ่สุด มาจากธุรกิจเทคโนโลยี
ครั้งแรกในรอบ 25 ปี ยุโรป กำลังมีบริษัทใหญ่สุด มาจากธุรกิจเทคโนโลยี /โดย ลงทุนแมน
25 ปีที่ผ่านมา บริษัทที่มีมูลค่ามากสุดของยุโรป ก็จะวน ๆ อยู่เพียงธุรกิจยา แบรนด์หรู อาหารหรือของใช้ในแต่ละวัน
25 ปีที่ผ่านมา บริษัทที่มีมูลค่ามากสุดของยุโรป ก็จะวน ๆ อยู่เพียงธุรกิจยา แบรนด์หรู อาหารหรือของใช้ในแต่ละวัน
แต่วันนี้ แชมป์ของยุโรปได้เปลี่ยนไป เพราะไม่ใช่แบรนด์ของกินหรือของใช้ที่คุ้นเคย
แต่กลับเป็นบริษัทเทคโนโลยีซอฟต์แวร์จัดการองค์กรอย่าง SAP จากเยอรมนี ที่ใหญ่กว่าอาณาจักรแบรนด์หรูอย่าง LVMH, Hermès และอาณาจักรยาอย่าง Novo Nordisk ไปแล้ว
ทำไม SAP ได้ขึ้นมาครองบัลลังก์ บริษัทที่ใหญ่สุดในยุโรปได้ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
“ยกเลิกการออกแบบและพัฒนาซอฟต์แวร์องค์กรไปซะ มันไม่มีความจำเป็นอีกต่อไปแล้ว”
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
“ยกเลิกการออกแบบและพัฒนาซอฟต์แวร์องค์กรไปซะ มันไม่มีความจำเป็นอีกต่อไปแล้ว”
นี่คือคำสั่งของบริษัท IBM ที่บอกกับวิศวกรชาวเยอรมัน 5 คน
คือคุณ Dietmar Hopp, คุณ Hans-Werner Hector, คุณ Hasso Plattner, คุณ Klaus Tschira และคุณ Claus Wellenreuther
คือคุณ Dietmar Hopp, คุณ Hans-Werner Hector, คุณ Hasso Plattner, คุณ Klaus Tschira และคุณ Claus Wellenreuther
เมื่อโปรเจกต์ที่กำลังพัฒนากันอยู่ ถูกฉีกทิ้งกะทันหัน
วิศวกรทั้ง 5 คนนี้ จึงยื่นใบลาออกในทันที
วิศวกรทั้ง 5 คนนี้ จึงยื่นใบลาออกในทันที
แต่หลังจากลาออก ทั้ง 5 คน ก็ยังนำโปรเจกต์นั้นมาพัฒนาต่อ พร้อมกับก่อตั้งบริษัทที่ชื่อว่า SAP ในปี 1972
ตั้งแต่นั้นมา SAP ก็เน้นพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับองค์กร
ด้วยความเชื่อของพวกเขาทั้ง 5 คนนี้ว่า ธุรกิจนี้จะกลายเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในอนาคต
ด้วยความเชื่อของพวกเขาทั้ง 5 คนนี้ว่า ธุรกิจนี้จะกลายเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีในอนาคต
ก่อนต่อยอดระบบบัญชี ไปยังซอฟต์แวร์สำหรับวางแผนข้อมูลและทรัพยากรทางธุรกิจขององค์กร หรือที่เรียกกันว่า Enterprise Resource Planning (ERP) นั่นเอง
ถ้าถามว่า แล้วทำไมวิศวกรผู้ก่อตั้งทั้ง 5 คน ถึงเชื่อกันว่า
SAP จะเป็นธุรกิจที่มีอนาคต
SAP จะเป็นธุรกิจที่มีอนาคต
คำตอบคือ ก็มาจากปัญหาจริงที่ธุรกิจทั่วไปต้องเจอ
ลองนึกภาพว่า ถ้าเราเป็นเจ้าของบริษัทผลิตรองเท้า เราต้องดูแลภาพรวมตั้งแต่ฝ่ายผลิต ออกแบบ จัดส่ง
จัดเก็บสินค้า ไปจนถึงการวางขาย
จัดเก็บสินค้า ไปจนถึงการวางขาย
แม้เราจะมีผู้ช่วยที่คอยทำงานแทนเราก็จริง แต่การติดต่อกันระหว่างฝ่ายเพื่ออัปเดตข้อมูลว่า ตอนนี้รองเท้าคู่นั้นอยู่ในขั้นตอนไหนแล้ว เป็นเรื่องที่วุ่นวายมาก
เพราะเมื่อขายรองเท้าไปแล้ว ฝ่ายขายก็ต้องไปอัปเดตกับฝ่ายจัดการสินค้าคงคลัง จากนั้นฝ่ายจัดการสินค้าคงคลัง ก็ต้องไปอัปเดตข้อมูลกับฝ่ายผลิตอีกทอดหนึ่ง
เท่านี้ยังไม่พอ ฝ่ายขายก็ต้องไปอัปเดตข้อมูลกับฝ่ายบัญชี
ว่ารองเท้านี้ขายไปแล้วเท่าไร เพื่อบันทึกรายได้ที่เข้ามา
ว่ารองเท้านี้ขายไปแล้วเท่าไร เพื่อบันทึกรายได้ที่เข้ามา
ซึ่งถ้าบริษัทเรามีขนาดเล็กก็คงไม่เป็นไร แต่ลองคิดภาพว่า
ถ้าผลิตรองเท้าเป็นพัน เป็นหมื่น เป็นแสนคู่ โอกาสที่ข้อมูลจะไม่ตรงกันก็มีสูงมาก
ถ้าผลิตรองเท้าเป็นพัน เป็นหมื่น เป็นแสนคู่ โอกาสที่ข้อมูลจะไม่ตรงกันก็มีสูงมาก
จากปัญหาตรงนี้เอง ทำให้ SAP พัฒนาซอฟต์แวร์องค์กรที่ทำให้ทุกฝ่ายรู้ข้อมูลและความเคลื่อนไหวของกิจกรรมทางธุรกิจ ตรงกันในครั้งเดียวไปเลย
- เมื่อมีคำสั่งการผลิต โรงงานรู้ทันที
- เมื่อโรงงานส่งของไปแล้ว ฝ่ายคลังสินค้ารู้ทันที
- เมื่อคลังแจกจ่ายสินค้าไปแล้ว ฝ่ายขายรู้ทันที
- เมื่อสินค้าในสต๊อกเริ่มขาด ฝ่ายที่เกี่ยวข้องรู้ทันที
- เมื่อโรงงานส่งของไปแล้ว ฝ่ายคลังสินค้ารู้ทันที
- เมื่อคลังแจกจ่ายสินค้าไปแล้ว ฝ่ายขายรู้ทันที
- เมื่อสินค้าในสต๊อกเริ่มขาด ฝ่ายที่เกี่ยวข้องรู้ทันที
พอข้อมูลอัปเดตแบบเรียลไทม์ ก็ทำให้เจ้าของธุรกิจสามารถตัดสินใจวางแผนทรัพยากรต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นทันที
คอนเซปต์การแก้ปัญหาที่เรียบง่ายแบบนี้ ทำให้ SAP
มีลูกค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และปัจจุบันก็ปรับโมเดลการขายซอฟต์แวร์ของตัวเองออกเป็น 2 แบบด้วยกัน
มีลูกค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และปัจจุบันก็ปรับโมเดลการขายซอฟต์แวร์ของตัวเองออกเป็น 2 แบบด้วยกัน
แบบแรกเลย คือ ขายซอฟต์แวร์ให้ลูกค้าองค์กรใช้งานบน Cloud ของตัวเอง
พูดง่าย ๆ คือ เหมือนกับการที่เราเช่าพื้นที่จัดเก็บและจัดการข้อมูลทั้งหมดฝากไว้กับ SAP
ส่วนอีกแบบหนึ่ง คือ ลูกค้าซื้อลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ของ SAP ไปเลย ซึ่งทำให้ลูกค้าเป็นเจ้าของซอฟต์แวร์อย่างสมบูรณ์ที่สามารถปรับแต่งระบบต่าง ๆ ได้ด้วยตัวเอง
จากโมเดลธุรกิจแบบนี้เองบวกกับการเข้ามาของ AI
ที่ช่วยจัดการข้อมูล ซึ่งเรียกกันว่า Cloud Computing
ก็ทำให้ผลประกอบการของบริษัท เติบโตต่อเนื่อง ในช่วงที่ผ่านมา
ที่ช่วยจัดการข้อมูล ซึ่งเรียกกันว่า Cloud Computing
ก็ทำให้ผลประกอบการของบริษัท เติบโตต่อเนื่อง ในช่วงที่ผ่านมา
ปี 2022
- รายได้ 1,096,867 ล้านบาท
- กำไร 84,869 ล้านบาท
- รายได้ 1,096,867 ล้านบาท
- กำไร 84,869 ล้านบาท
ปี 2023
- รายได้ 1,171,385 ล้านบาท
- กำไร 230,433 ล้านบาท
- รายได้ 1,171,385 ล้านบาท
- กำไร 230,433 ล้านบาท
ปี 2024
- รายได้ 1,282,830 ล้านบาท
- กำไร 117,262 ล้านบาท
- รายได้ 1,282,830 ล้านบาท
- กำไร 117,262 ล้านบาท
ไตรมาส 1 ปี 2025
- รายได้ 338,311 ล้านบาท
- กำไร 66,814 ล้านบาท
- รายได้ 338,311 ล้านบาท
- กำไร 66,814 ล้านบาท
ซึ่งต้องหมายเหตุว่า กำไรในปี 2023 ที่เพิ่มขึ้นผิดปกติ มาจากกำไรพิเศษจากการขายกลุ่มธุรกิจหนึ่งออกไป
โดยปัจจุบันรายได้ทุก ๆ 100 บาทของ SAP มาจาก
- รายได้กลุ่ม Cloud 50 บาท
- รายได้กลุ่ม Software License and Support 37 บาท
- รายได้กลุ่ม Service 13 บาท
- รายได้กลุ่ม Cloud 50 บาท
- รายได้กลุ่ม Software License and Support 37 บาท
- รายได้กลุ่ม Service 13 บาท
และไม่ใช่แค่รายได้ที่ปรับเพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ราคาหุ้นของบริษัทก็ปรับตัวเพิ่มขึ้น 65% ภายในระยะเวลา 1 ปี
สวนทางกับ Novo Nordisk บริษัทยาจากเดนมาร์ก ที่ราคาหุ้นลดลง 44%
และ LVMH บริษัทแบรนด์หรูจากฝรั่งเศส ที่ราคาหุ้นลดลง 37% ในช่วงเดียวกันแทน
และ LVMH บริษัทแบรนด์หรูจากฝรั่งเศส ที่ราคาหุ้นลดลง 37% ในช่วงเดียวกันแทน
จนปัจจุบัน ราคาหุ้นของ SAP ที่ปรับขึ้นมา ทำให้บริษัทนี้มีมูลค่าบริษัทแตะ 12 ล้านล้านบาท กลายเป็นบริษัทใหญ่สุดของยุโรป ที่มาจากธุรกิจเทคโนโลยี เป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปีเลยทีเดียว
เรียกได้ว่า ก็อาจเป็นการเปลี่ยนภาพจำของธุรกิจยุโรป ที่มักเป็นทวีปแห่งธุรกิจแบรนด์หรู ยา เครื่องสำอาง หรือของกินของใช้ในชีวิตประจำวัน เท่านั้น
มาวันนี้ ทุกคนต้องเปลี่ยนภาพจำกันใหม่ว่า ยุโรปก็โดดเด่นเรื่องธุรกิจเทคโนโลยี และซอฟต์แวร์ จนทุกคนต้องพึ่งพาเช่นกัน
และไม่ใช่แค่ SAP ที่ทำให้ลูกค้าหลายแห่งทั่วโลก จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทรายนี้
แต่ยังรวมไปถึงบริษัทอื่น ๆ อีก จำนวนไม่น้อย เช่น ASML จากเนเธอร์แลนด์ ที่ขายเครื่องผลิตชิปซับซ้อนขั้นสูง ซึ่งจำเป็นสำหรับการผลิตชิป ที่โลกขาดไม่ได้ไปแล้ว..
╔═══════════╗
ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
╔═══════════╗
ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman