
รู้จัก Novo Nordisk บริษัทยาระดับโลก ที่ทำธุรกิจมานานกว่า 100 ปี
Novo Nordisk x ลงทุนแมน
ในโลกนี้มีธุรกิจมากมาย แต่จะมีสักกี่ธุรกิจ ที่สามารถยืนอายุได้นานกว่า 100 ปี
หนึ่งในนั้นคือ Novo Nordisk บริษัทยาระดับโลกจากเดนมาร์ก ที่เริ่มต้นธุรกิจมาตั้งแต่ปี 1923 เท่ากับว่า ตอนนี้ก็ทำธุรกิจมาเกินกว่า 100 ปีแล้ว
ผู้อยู่เบื้องหลังวงการสุขภาพระดับโลก เช่น โรคเบาหวาน โรคน้ำหนักเกิน หรือโรคเรื้อรังเฉพาะทาง ที่มีผู้ป่วยต่อปีหลายล้านคนทั่วโลก
แต่คำถามคือ แล้ว Novo Nordisk คือใคร ?
ทำไมถึงทำธุรกิจมานานกว่า 100 ปีแล้ว ?
ลงทุนแมน จะเล่าให้ฟัง
ทำไมถึงทำธุรกิจมานานกว่า 100 ปีแล้ว ?
ลงทุนแมน จะเล่าให้ฟัง
จุดเริ่มต้นของ Novo Nordisk เกิดขึ้นจากคู่รักชาวเดนมาร์ก
อย่างคุณ August Krogh และคุณ Marie Krogh จากการที่คุณ Marie ภรรยาของคุณ August ต้องใช้ชีวิตอยู่กับโรคเบาหวานมานาน
อย่างคุณ August Krogh และคุณ Marie Krogh จากการที่คุณ Marie ภรรยาของคุณ August ต้องใช้ชีวิตอยู่กับโรคเบาหวานมานาน
ซึ่งเมื่อได้ยินเรื่องราวการรักษาโรคเบาหวานด้วยการใช้อินซูลินในปี 1921 ที่ประเทศแคนาดา ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือด โดยหลักการทำงานคือ ใช้อินซูลินเข้าไปลดน้ำตาลในเลือด ช่วยแก้ปัญหากับผู้ป่วยเบาหวาน ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงมากเกินไป
คุณ August จึงตัดสินใจเดินทางไปประเทศแคนาดา เพื่อไปพบกับนักวิจัยที่คิดค้นวิธีการรักษานั้น
จนในที่สุด ผู้คิดค้นก็ยินยอมมอบวิธีการรักษาให้ทั้งคู่
จนในที่สุด ผู้คิดค้นก็ยินยอมมอบวิธีการรักษาให้ทั้งคู่
ตรงนี้เองก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นของบริษัท Novo Nordisk ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
โดยบริษัท Novo ก่อตั้งขึ้นในปี 1923 ส่วนบริษัท Nordisk ก่อตั้งขึ้นในปี 1925 ก่อนที่ทั้งสองบริษัทนี้จะรวมกันภายใต้ชื่อ Novo Nordisk ในปี 1989
โดยบริษัท Novo ก่อตั้งขึ้นในปี 1923 ส่วนบริษัท Nordisk ก่อตั้งขึ้นในปี 1925 ก่อนที่ทั้งสองบริษัทนี้จะรวมกันภายใต้ชื่อ Novo Nordisk ในปี 1989
จนในปัจจุบัน บริษัท Novo Nordisk ก็ทำธุรกิจมาเกินกว่า 100 ปีแล้ว และไม่ใช่แค่การมุ่งเน้นเพื่อการรักษาโรคเบาหวานเท่านั้น แต่ยังขยายให้บริการไปถึงโรคอ้วนหรือโรคหายากเฉพาะทางอีกด้วย
สิ่งที่น่าสนใจกว่านั้น ไม่ได้อยู่ที่เส้นทางการเติบโตของบริษัทนี้
แต่อะไรคือเบื้องหลังที่ทำให้ Novo Nordisk ทำธุรกิจนานเกินกว่า 100 ปี
แต่อะไรคือเบื้องหลังที่ทำให้ Novo Nordisk ทำธุรกิจนานเกินกว่า 100 ปี
เรื่องนี้ไม่ง่ายเลย ลองมาวิเคราะห์ว่า Novo Nordisk มีจุดแข็งอะไรที่เก็บงำมานานขนาดนี้กัน..
เรื่องแรกคือ “การสะสมความรู้และความเชี่ยวชาญด้านโรคใดโรคหนึ่งมายาวนาน”
จากจุดเริ่มต้นของ Novo Nordisk ที่เริ่มต้นด้วยการวิจัยและพัฒนาการรักษาโรคเบาหวาน ทำให้บริษัท
ค่อย ๆ สะสมความรู้และความเชี่ยวชาญด้านนี้เรื่อยมา จนกลายมาเป็นหนึ่งในบริษัทยาที่เป็นผู้นำในด้านนี้
ค่อย ๆ สะสมความรู้และความเชี่ยวชาญด้านนี้เรื่อยมา จนกลายมาเป็นหนึ่งในบริษัทยาที่เป็นผู้นำในด้านนี้
ซึ่งการมุ่งเน้นเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ในโรคใดโรคหนึ่งมาอย่างยาวนาน เรียกได้ว่า เป็นจุดแข็งสำคัญของ Novo Nordisk เมื่อเทียบกับบริษัทอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมเดียวกัน
เพราะเมื่อทรัพยากรอย่างเวลาและเงินมีจำกัด การเลือกไปโฟกัสเพื่อคิดค้นนวัตกรรมน้อยอย่างไปเลย
อาจเป็นข้อดีให้กับบริษัทนั้น ที่ช่วยสร้างความได้เปรียบเหนือบริษัทอื่นที่อาจเลือกโฟกัสกับการคิดค้นนวัตกรรมหลายอย่างในเวลาเดียวกัน
อาจเป็นข้อดีให้กับบริษัทนั้น ที่ช่วยสร้างความได้เปรียบเหนือบริษัทอื่นที่อาจเลือกโฟกัสกับการคิดค้นนวัตกรรมหลายอย่างในเวลาเดียวกัน
สะท้อนได้จากปัจจุบัน ที่ Novo Nordisk เลือกให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ยาแค่ 3 กลุ่มหลัก
นั่นคือ กลุ่มโรคเบาหวาน กลุ่มโรคอ้วน และกลุ่มโรคหายากอื่น ๆ เท่านั้น
นั่นคือ กลุ่มโรคเบาหวาน กลุ่มโรคอ้วน และกลุ่มโรคหายากอื่น ๆ เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม องค์ความรู้และความเชี่ยวชาญเหล่านี้ก็ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงการทำธุรกิจของ Novo Nordisk แค่อย่างเดียว
เพราะบริษัทยังนำองค์ความรู้เหล่านี้ ไปทำงานร่วมกับองค์กรภาครัฐในหลายประเทศ เพื่อช่วยแก้ปัญหาโรคเรื้อรังเหล่านี้อีกด้วย
เพราะบริษัทยังนำองค์ความรู้เหล่านี้ ไปทำงานร่วมกับองค์กรภาครัฐในหลายประเทศ เพื่อช่วยแก้ปัญหาโรคเรื้อรังเหล่านี้อีกด้วย
ตัวอย่างเช่น โครงการ Cities for Better Health ที่ดำเนินการไปแล้วกว่า 51 เมืองใหญ่ทั่วโลก
รวมถึงกรุงเทพมหานครที่กำลังพูดคุยอยู่ในขณะนี้ เพื่อแก้ปัญหาภาวะน้ำหนักเกินในเด็ก โดยใช้การมีส่วนร่วมของคนในชุมชน ผ่านการส่งเสริมการกินอาหารและออกกำลังกายอย่างเหมาะสม
รวมถึงกรุงเทพมหานครที่กำลังพูดคุยอยู่ในขณะนี้ เพื่อแก้ปัญหาภาวะน้ำหนักเกินในเด็ก โดยใช้การมีส่วนร่วมของคนในชุมชน ผ่านการส่งเสริมการกินอาหารและออกกำลังกายอย่างเหมาะสม
เรื่องนี้เอง ก็สะท้อนให้เห็นว่า การทำธุรกิจ Novo Nordisk ไม่ได้เน้นเรื่องมิติทางการเงินของบริษัทแค่อย่างเดียว แต่ยังเชื่อมโยงไปยังด้านมิติสังคม รวมไปถึงด้านสิ่งแวดล้อม ที่เป็นปรัชญาทางธุรกิจสำคัญของบริษัทในการสร้างธุรกิจที่ยั่งยืนและมีคุณค่ากับสังคมไปพร้อมกัน
อย่างไรก็ตาม ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า การสร้างองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญโรคเรื้อรังเหล่านี้มาอย่างยาวนาน
ก็จำเป็นต้องลงทุนวิจัยและพัฒนาด้วยเม็ดเงินที่สูงอย่างต่อเนื่อง
ก็จำเป็นต้องลงทุนวิจัยและพัฒนาด้วยเม็ดเงินที่สูงอย่างต่อเนื่อง
ซึ่ง Novo Nordisk ก็ได้ทุ่มงบวิจัยและพัฒนาหลักแสนล้านต่อปี
สะท้อนได้จากเม็ดเงินวิจัยและพัฒนาในช่วง 3 ปีที่ผ่านมานี้
สะท้อนได้จากเม็ดเงินวิจัยและพัฒนาในช่วง 3 ปีที่ผ่านมานี้
ปี 2022
งบวิจัยและพัฒนา 120,519 ล้านบาท
สัดส่วนงบวิจัยและพัฒนาต่อรายได้รวม 13.6%
งบวิจัยและพัฒนา 120,519 ล้านบาท
สัดส่วนงบวิจัยและพัฒนาต่อรายได้รวม 13.6%
ปี 2023
งบวิจัยและพัฒนา 162,598 ล้านบาท
สัดส่วนงบวิจัยและพัฒนาต่อรายได้รวม 14.0%
งบวิจัยและพัฒนา 162,598 ล้านบาท
สัดส่วนงบวิจัยและพัฒนาต่อรายได้รวม 14.0%
ปี 2024
งบวิจัย 240,878 ล้านบาท
สัดส่วนงบวิจัยและพัฒนาต่อรายได้รวม 16.5%
งบวิจัย 240,878 ล้านบาท
สัดส่วนงบวิจัยและพัฒนาต่อรายได้รวม 16.5%
จะเห็นได้ว่า ทุก ๆ รายได้ 100 บาทของบริษัท ถูกนำไปใช้ในการวิจัยและพัฒนาราว 14-16 บาทเลยทีเดียว
ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นธรรมชาติของบริษัทในอุตสาหกรรมยาอยู่แล้ว ที่ต้องวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของบริษัทอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คงความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจตัวเอง
แต่เรื่องนี้ ก็เป็นข้อดีให้กับ Novo Nordisk ในการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง จนนำไปสู่การสะสมองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญด้านโรคเรื้อรังมาอย่างยาวนานนั่นเอง
และนอกจากการลงทุนวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์แล้ว บริษัทยังได้ลงทุนในโรงงานการผลิตเพิ่มเติมกว่า 646,526 ล้านบาท เพื่อรองรับการสร้างผลิตภัณฑ์ของบริษัทในอนาคตอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้บริษัทมีการสะสมองค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านโรคเหล่านี้มาอย่างยาวนาน พร้อมกับการลงทุนวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สองสิ่งนี้ก็ยังไม่ได้เป็นเรื่องสำคัญสุดในการทำธุรกิจมาได้เกินกว่า 100 ปีอย่างยั่งยืน
เพราะยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ Novo Nordisk ให้ความสำคัญโดยตลอดมา
คือ “การมุ่งเน้นพนักงานให้มีส่วนร่วมกับองค์กร”
คือ “การมุ่งเน้นพนักงานให้มีส่วนร่วมกับองค์กร”
ธุรกิจไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยตัวมันเอง แต่ขับเคลื่อนด้วยคนที่อยู่ในธุรกิจ
ซึ่ง Novo Nordisk ก็ได้ให้ความสำคัญกับพนักงาน ด้วยการส่งเสริมให้เกิดความหลากหลายทางความคิดและการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ในองค์กร
ซึ่ง Novo Nordisk ก็ได้ให้ความสำคัญกับพนักงาน ด้วยการส่งเสริมให้เกิดความหลากหลายทางความคิดและการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ในองค์กร
ด้วยการกำหนดแนวทางการทำงานให้ผู้บริหารต้องรับฟังพนักงาน และสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้พนักงานในองค์กรสามารถแสดงความคิดเห็นของตัวเองได้
และเพื่อให้เกิดความหลากหลายทางความคิดอย่างแท้จริง Novo Nordisk จึงมีความหลากหลายของผู้คนสูงสะท้อนได้จากสัดส่วนพนักงานและผู้บริหารที่เป็นเพศหญิงมากกว่าเพศชาย
โดยมีเพศหญิง 60% และผู้ชาย 40% เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่นแล้ว เรียกได้ว่านี้เป็นอัตราที่สูงมาก
โดยมีเพศหญิง 60% และผู้ชาย 40% เมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่นแล้ว เรียกได้ว่านี้เป็นอัตราที่สูงมาก
นอกจากการส่งเสริมความมีส่วนร่วมและความหลากหลายของพนักงานแล้ว
Novo Nordisk ยังให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน ตามสไตล์ความเป็นสแกนดิเนเวียอีกด้วย
Novo Nordisk ยังให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน ตามสไตล์ความเป็นสแกนดิเนเวียอีกด้วย
ไม่ว่าจะเป็นด้านจิตใจ ที่มีผู้เชี่ยวชาญภายนอกมาให้คำแนะนำ ด้านร่างกาย ที่ออกแบบอุปกรณ์โต๊ะและเก้าอี้ให้เหมาะกับการทำงานนาน ๆ รวมไปถึงด้านความรู้ทางการเงินและสวัสดิการด้านสุขภาพต่าง ๆ
เพื่อสุดท้ายแล้ว พนักงานก็จะมีความเป็นอยู่ที่ดีนั่นเอง
เพื่อสุดท้ายแล้ว พนักงานก็จะมีความเป็นอยู่ที่ดีนั่นเอง
แล้วที่ผ่านมา Novo Nordisk มีผลประกอบการเป็นอย่างไรบ้าง
ปี 2022
รายได้ 886,863 ล้านบาท
กำไร 278,281 ล้านบาท
รายได้ 886,863 ล้านบาท
กำไร 278,281 ล้านบาท
ปี 2023
รายได้ 1,164,053 ล้านบาท
กำไร 419,405 ล้านบาท
รายได้ 1,164,053 ล้านบาท
กำไร 419,405 ล้านบาท
ปี 2024
รายได้ 1,455,451 ล้านบาท
กำไร 506,134 ล้านบาท
รายได้ 1,455,451 ล้านบาท
กำไร 506,134 ล้านบาท
จะเห็นได้ว่า ผลประกอบการของ Novo Nordisk เติบโตต่อเนื่องในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
พร้อมทั้งมีอัตรากำไรราว 35% ของรายได้ที่ทำได้ในปีที่ผ่านมา
พร้อมทั้งมีอัตรากำไรราว 35% ของรายได้ที่ทำได้ในปีที่ผ่านมา
ถึงตรงนี้ เราก็คงเข้าใจแล้วว่า Novo Nordisk ดำเนินงานมาได้นานกว่า 100 ปีจนถึงปัจจุบันนั้น ก็มาจากส่วนผสมทั้งการสะสมความรู้ ความเชี่ยวชาญมาอย่างยาวนาน การวิจัยและพัฒนา
ไปจนถึงการส่งเสริมให้พนักงานมีส่วนร่วมกับองค์กร เพื่อให้เกิดการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง
ไปจนถึงการส่งเสริมให้พนักงานมีส่วนร่วมกับองค์กร เพื่อให้เกิดการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง
ในอนาคตบริษัทจะมีทิศทางไปทางไหนต่อไป ไม่มีใครรู้
แต่ที่แน่ ๆ คือ Novo Nordisk ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของวงการสุขภาพระดับโลก ผ่านการวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่ ๆ ไปจนถึงการมีส่วนร่วมกับสังคมในโครงการเพื่อสุขภาพต่าง ๆ แน่นอน..
แต่ที่แน่ ๆ คือ Novo Nordisk ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของวงการสุขภาพระดับโลก ผ่านการวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่ ๆ ไปจนถึงการมีส่วนร่วมกับสังคมในโครงการเพื่อสุขภาพต่าง ๆ แน่นอน..
References
- Novo Nordisk Annual report 2024
- Novo Nordisk Financial statement 2022-2024
- เอกสารข้อมูลของบริษัทโนโว นอร์ดิสค์
- Novo Nordisk Annual report 2024
- Novo Nordisk Financial statement 2022-2024
- เอกสารข้อมูลของบริษัทโนโว นอร์ดิสค์
Tag: Novo Nordisk