แมนยูฯ​ พลาดแชมป์ UEFA Europa League จะกระทบการเงินของสโมสร อย่างไรบ้าง ? /โดย ลงทุนแมน
สิ้นสุดเสียงนกหวีด นัดชิงชนะเลิศ ​UEFA Europa League ในสนามซานมาเมส ประเทศสเปน
ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ก็เป็นทีมที่เอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปด้วยสกอร์ 1-0 ได้สำเร็จ

แต่ปัญหาที่ตามมา ไม่ได้อยู่ที่การไม่ได้แชมป์ของแมนยูฯ แค่อย่างเดียว เพราะอาจมีปัญหาต่อสถานะการเงินของสโมสรหลังจากนี้ด้วย

ซึ่งล่าสุด ราคาหุ้น Manchester United plc ได้ปรับตัวลง -7.4% ในช่วงหลังปิดตลาด เป็นการสะท้อนถึงมุมมองของนักลงทุน ที่แมนยูฯ​ ไม่ได้แชมป์ในค่ำคืนที่ผ่านมา

ทำไมการไม่ได้แชมป์ของแมนยูฯ จึงทำให้นักลงทุนกังวล ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

ก่อนอื่น เราต้องเข้าใจก่อนว่า การเข้าร่วมแข่งขันของ
แมนยูฯ ในถ้วยยุโรป ทำให้สโมสร มีรายได้จากค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดมหาศาล

ถ้าถามว่า มากแค่ไหน เราสามารถดูได้จากงบการเงินของแมนยูฯ ที่ใช้ปีงบประมาณตามฤดูกาลแข่งขัน เพื่อบันทึกรายได้ที่เข้ามาในช่วงเวลานั้น

เช่น ในรายงานประจำปี 2024 ของแมนยูฯ จะบอกว่า
เป็นรายได้เต็มปีสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2024

ก็แปลว่า รายได้ที่เราเห็น เริ่มต้นนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปี 2023 ไปจนถึงเดือนมิถุนายน ปี 2024

ซึ่งก็คือฤดูกาลแข่งขันฟุตบอลในปี 2023-2024 นั่นเอง

พอเข้าใจคร่าว ๆ แบบนี้ เราลองมาดูรายได้จากค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด ที่แมนยูฯ ไปแข่งในถ้วยยุโรปกัน

ฤดูกาลปี 2022-2023
รายได้จากค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดของการแข่งขันถ้วยยุโรป อยู่ที่ 1,230 ล้านบาท

(ขณะที่ฤดูกาลนี้ แมนยูฯ มีรายได้รวม 28,480 ล้านบาท)

ฤดูกาลปี 2023-2024
รายได้จากค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดของการแข่งขันถ้วยยุโรป อยู่ที่ 2,329 ล้านบาท

(ขณะที่ฤดูกาลนี้ แมนยูฯ มีรายได้รวม 29,051 ล้านบาท)

ฤดูกาลปี 2024-2025
รายได้จากค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดของการแข่งขันถ้วยยุโรป ช่วงครึ่งปีแรก (กรกฎาคม 2024 - 31 ธันวาคม 2024) อยู่ที่ 527 ล้านบาท

(ขณะที่ฤดูกาลนี้ แมนยูฯ มีรายได้รวม 14,987 ล้านบาท)

จะเห็นได้ว่า รายได้ตรงนี้ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
ซึ่งถ้าแมนยูฯ ไม่ได้ไปเล่นถ้วยยุโรป รายได้ส่วนนี้
ก็อาจจะหายไปทันที

อย่างไรก็ตาม ก็ต้องบอกว่า รายได้จากตรงนี้ยังไม่ถึง 10%
ของรายได้รวมทั้งหมดที่แมนยูฯ ทำได้ในแต่ละปีด้วยซ้ำ

แต่การไม่ได้แข่งขันในถ้วยยุโรป ก็อาจส่งผลต่อรายได้
ค่าตั๋วเข้าชม ที่คิดเป็นรายได้ราว ๆ 20% ของรายได้รวม
ที่สโมสรทำได้ในแต่ละปี

เพราะในเมื่อเกมการแข่งขันในยุโรปลดลง ก็ทำให้แมนยูฯ​ เก็บค่าตั๋วเข้าชมที่น้อยลงตามไปด้วย

นอกจากนี้ รายได้หลักของสโมสรที่มาจากกลุ่ม Commercial คิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของรายได้รวม
โดยส่วนหนึ่งมาจากเงินสปอนเซอร์ที่เข้ามา

หนึ่งในสปอนเซอร์สำคัญ นั่นคือ Adidas ที่เซ็นสัญญากับแมนยูฯ​ ยาวไปถึงปี 2035 ด้วยเม็ดเงินรวมตลอดสัญญาราว 72,000 ล้านบาท

แต่ Adidas ก็ระบุไว้ชัดเจนว่า ถ้าแมนยูฯ ไม่ได้ไปเล่นถ้วยยุโรป ต้องโดนหักเงินสนับสนุนปีละ 439 ล้านบาท ซึ่งจะเริ่มต้นหักตั้งแต่ฤดูกาลปี 2025-2026 เป็นต้นไป

นั่นก็แปลว่า ในปีงบการเงินของฤดูกาลถัดไป แมนยูฯ จะเริ่มโดนหักเงินค่าสนับสนุนทีมจาก Adidas ทันที..

ซึ่งถ้าลองคำนวณง่าย ๆ ว่า แมนยูฯ จะมีรายได้หายไปมากแค่ไหน เราลองมาเทียบกับรายได้จากสปอนเซอร์แบบเต็มปีในฤดูกาลปี 2023-2024 กัน

ในปีนั้น แมนยูฯ มีรายได้จากสปอนเซอร์ราว 7,700 ล้านบาท
ถ้าโดนตัดเงินไป 439 ล้านบาท ก็แปลว่ารายได้ตรงนี้หายไปอย่างน้อย 5% ในแต่ละปี

สรุปแล้ว การที่แมนยูฯ ไม่ได้ไปเล่นในถ้วยยุโรปในฤดูกาลหน้า ก็ส่งผลกระทบมายังผลประกอบการและสถานะทางการเงินของสโมสร อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ไม่ว่าจะเป็นการหายไปของรายได้ค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดและค่าตั๋วเข้าชมจากการแข่งขันถ้วยยุโรป รวมไปถึงการถูกตัดเงินสนับสนุนจากสปอนเซอร์สำคัญอย่าง Adidas

และถ้าถามว่า แล้วรายได้จะหายไปมากแค่ไหน ผลกระทบที่ชัดเจน ก็คงต้องรอผลประกอบการของแมนยูฯ ในอนาคตที่รายงานออกมา

แต่ที่แน่ ๆ ในตอนนี้คือ การที่ราคาหุ้น Manchester United plc ร่วง -7.4% ทำให้มูลค่าบริษัทหายไปแล้วทันที 6,000 ล้านบาท

ซึ่งตอนนี้แมนยูฯ ก็คงมีสองทางเลือกคือ
ไปหารายได้เพิ่มเติมอย่างสปอนเซอร์ใหม่ ๆ เข้ามา

หรือไม่ก็ต้องทำให้ทีมของตัวเอง กลับไปอยู่บนการแข่งขันถ้วยยุโรป
เพื่อเอารายได้ค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดและรายได้จาก Adidas แบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยแบบไม่โดนหักแทน..

References
- เว็บไซต์แมนยูฯ
- รายงานงบการเงินประจำปีของแมนยูฯ ปี 2022-2024