พันธบัตรญี่ปุ่น จุดเสี่ยงล้ม ระบบการเงินโลก

พันธบัตรญี่ปุ่น จุดเสี่ยงล้ม ระบบการเงินโลก

ข่าวใหญ่วงการลงทุนทั่วโลก พูดถึงประเด็นนี้กันมากขึ้น พันธบัตรญี่ปุ่น จะเป็นความเสี่ยงใหญ่ ที่ทำให้ระบบการเงินโลกพังทลายลงได้
ณ วันที่ 26 พฤษภาคม 2025 อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 30 ปี อยู่ที่ประมาณ 3.05% ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 25 ปี
ทำไมเรื่องนี้ถึงเป็นเรื่องสำคัญระดับโลก ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
การที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรญี่ปุ่นระยะยาว พุ่งสูงสุดในรอบ 25 ปี ไม่ได้เป็นแค่เรื่องของญี่ปุ่น แต่เป็น “สัญญาณเตือน” ต่อระบบการเงินโลก ที่อิงอยู่กับเงินทุน “ต้นทุนต่ำ” ของญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน
สิ่งที่จะเกิดขึ้นเรื่องแรก
- ต้นทุนการกู้ยืมเงินของรัฐบาลญี่ปุ่นจะพุ่ง ตามอัตราผลตอบแทน (Yield) ที่พุ่งสูงขึ้น
ประเด็นก็คือ ญี่ปุ่นมีหนี้สาธารณะประมาณ 260% ของ GDP รัฐบาลญี่ปุ่นต้องออกพันธบัตรใหม่จำนวนมหาศาลทุกปี เพื่อใช้จ่ายและชำระหนี้เก่า
หมายความว่า หากดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ก็ทำให้ภาระของรัฐบาลญี่ปุ่นสูงขึ้นอย่างรุนแรง
เรื่องต่อมา
สถาบันการเงินในญี่ปุ่น อาจเผชิญการขาดทุนหนัก
เพราะเมื่อ Yield ขึ้น แปลว่าราคาพันธบัตรจะลดลง (Bond Yield กับราคาพันธบัตร แปรผกผันกัน) ซึ่งต้อง mark to market ตามราคาตลาด แปลว่าในทางบการเงินแล้วสถาบันการเงินในญี่ปุ่น จะประสบปัญหาขาดทุนหนักในช่วงไตรมาส 2 ปี 2568 นี้
บางรายหากมีเงินกองทุนไม่พอ ก็อาจจะต้องเพิ่มทุน หรือบางรายอาจต้องล้มถ้าไม่มีสถาบันการเงินอื่นมาช่วยเหลือ
สถาบันการเงินรายใหญ่ ที่ถือพันธบัตรระยะยาวเป็นจำนวนมาก เช่น บริษัทประกัน หรือกองทุนบำนาญ จะประสบปัญหาราคาตกที่รุนแรง
แล้วทำไมอัตราดอกเบี้ยพันธบัตร 30 ปีญี่ปุ่น จึงพุ่งสูง ?
สาเหตุก็คือ ตลาดพันธบัตรญี่ปุ่นบิดเบี้ยวมานาน โดยตัวการสำคัญก็คือ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)
ที่ผ่านมา BOJ มีนโยบายการเงินผ่อนคลายสุดขั้ว โดยใช้ดอกเบี้ยติดลบ และควบคุมเส้นผลตอบแทน (Yield Curve Control) โดยการเข้าซื้อพันธบัตรญี่ปุ่นเอง เพื่อกดดอกเบี้ยพันบัตรญี่ปุ่นให้ต่ำมาหลายปี
ซื้อไปซื้อมา ตอนนี้ BOJ ถือครองพันธบัตรญี่ปุ่นมากถึง 52% ของตลาด ทำให้ตลาดขาดสภาพคล่อง และไม่สะท้อนราคาจริง
โดยช่วงที่ผ่าน BOJ ได้เริ่มลดการซื้อพันธบัตรญี่ปุ่น ตั้งแต่กลางปีที่แล้ว ซึ่งการลดการแทรกแซงนี้ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ Yield ขึ้น
นอกจากนั้น อัตราเงินเฟ้อในญี่ปุ่นเริ่มน่าเป็นห่วง หลังจากที่เราได้ยินข่าวเรื่องข้าวญี่ปุ่นแพง และตัวเลขเงินเฟ้อของญี่ปุ่นเริ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต ทำให้ยิ่งเพิ่มแรงกดดันต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาว
และอีกเรื่องคือ ค่าเงินเยน ก็อยู่ในระดับที่อ่อนมาก ทำให้เกิดแรงกดดันต่อ BOJ ให้ขึ้นดอกเบี้ย เพื่อหยุดเงินทุนไหลออก
และเมื่อ BOJ มีสัญญาณยอมขึ้นดอกเบี้ย พันธบัตรญี่ปุ่นก็จะมี Yield ที่สูงขึ้น
ทั้งหมดนี้ สิ่งที่น่าจับตาคือ ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีระบการเงินเชื่อมโยงกับระบบการเงินโลกสูงมาก
สถาบันการเงินญี่ปุ่นเป็น เจ้าหนี้รายใหญ่ของโลก โดยถือพันธบัตรสหรัฐฯ และยุโรปจำนวนมาก
หากผลตอบแทนพันธบัตรญี่ปุ่นสูงขึ้นมาก นักลงทุนญี่ปุ่นอาจขายสินทรัพย์ต่างชาติกลับประเทศ เพื่อมาถือพันธบัตรญี่ปุ่นแทน
ทำให้เรื่องนี้อาจกระทบเป็นโดมิโนต่อเสถียรภาพระบบการเงินทั่วโลก
ทั้งอัตราแลกเปลี่ยน เงินดอลลาร์สหรัฐ เงินยูโร เงินเยน และอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรทั่วโลก
และเรื่องนี้คงเป็นตัวอย่างของความจงใจสร้างความบิดเบี้ยวของตลาด
เมื่อไรก็ตาม ที่คนที่มีอำนาจสูง เป็นคนที่ตั้งใจสร้างความบิดเบี้ยวนั้นเอง
ยิ่งทำให้มีความเสี่ยงสูงขึ้นเมื่อความบิดเบี้ยวนั้น กลับสู่ความจริง..
© 2025 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon