ความท้าทาย ของธุรกิจร้านอาหาร ในไทย แบรนด์ใหญ่ ยังเหนื่อย

ความท้าทาย ของธุรกิจร้านอาหาร ในไทย แบรนด์ใหญ่ ยังเหนื่อย

ความท้าทาย ของธุรกิจร้านอาหาร ในไทย แบรนด์ใหญ่ ยังเหนื่อย /โดย ลงทุนแมน
ในอดีต หนึ่งในธุรกิจที่คนอยากทำมากที่สุด นอกจากร้านคาเฟแล้ว ก็คือร้านอาหาร
เพราะดูเหมือนเป็นธุรกิจที่เริ่มต้นง่าย เกี่ยวกับปัจจัย 4 ที่คนต้องกินทุกวัน
ถ้าร้านไหนรสชาติดี บริการเยี่ยม ลูกค้าก็พร้อมกลับมาอีก
แต่พอเวลาผ่านไป คนก็รู้ว่า ความจริงแล้ว ธุรกิจร้านอาหารนั้นไม่ง่าย และอยู่รอดได้ยาก
จนเราอาจได้ยินประโยคที่ว่า
“ถ้าเราเกลียดใคร ก็แค่บอกให้เขาไปทำธุรกิจร้านอาหาร”
และปีนี้ ความท้าทายของผู้ประกอบการร้านอาหาร จะยิ่งถูกซ้ำเติม จากการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้น, ภาวะทางเศรษฐกิจ ที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ รวมถึงคนไทยต้องระวังเรื่องการใช้เงินมากขึ้น
ทำให้หลายเจ้าเจอกับปัญหา ยอดขายสาขาเดิมลดลง กำไรหด ในขณะที่ต้นทุนธุรกิจกลับเพิ่มขึ้น
ซึ่งบางเจ้า ก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหว จนจำใจต้องปิดร้านไปเลยก็มี..
วันนี้ร้านอาหารจึงไม่ได้แข่งกันแค่เรื่องรสชาติ การบริการ หรือบรรยากาศอีกต่อไป แต่ต้องแข่งกันเรื่องการบริหารต้นทุน และการปรับตัวกับพฤติกรรมของคนที่เปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา
สถานการณ์ของธุรกิจร้านอาหารในไทย เป็นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ธุรกิจร้านอาหารในปี 2568 จะเติบโตเพียงแค่ 3%
เนื่องจากเศรษฐกิจซบเซา และกำลังซื้อที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ โดยกำลังซื้อของผู้บริโภคถูกบีบด้วยค่าครองชีพ และภาระหนี้
ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่า ภาระหนี้ครัวเรือนในไทยสูงถึง 40% ของรายได้
โดยเฉพาะ ร้านอาหารที่ให้บริการเต็มรูปแบบ (Full Service Restaurants) ที่ได้รับผลกระทบมากสุด เพราะคาดว่าจะโตแค่ 1.1% ในปีนี้ จากการที่ผู้บริโภค มีการปรับลดค่าใช้จ่าย หรือความถี่ในการกินอาหารนอกบ้าน
นอกจากเรื่องยอดขายของธุรกิจร้านอาหาร ที่ถูกกดดันด้วยกำลังซื้อของผู้บริโภค และการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ จากทั้งแบรนด์ใหม่, Delivery และร้านเล็กที่ผุดขึ้นทุกมุมเมืองแล้ว
ธุรกิจร้านอาหาร ยังถูกกดดันในมิติของ “ต้นทุน” ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
รู้หรือไม่ว่า โครงสร้างต้นทุนของร้านอาหาร โดยเฉลี่ยมาจาก
- ค่าแรงพนักงาน คิดเป็นราว 15% ของต้นทุนรวม
- ค่าสาธารณูปโภคและค่าเช่า รวมกันมากกว่า 20%
- ราคาวัตถุดิบอาหาร สูงถึงประมาณ 35% และยังมีความผันผวนต่อเนื่อง
เมื่อรวมกันแล้ว ต้นทุนส่วนนี้กินสัดส่วนกว่า 70% ของต้นทุนรวมทั้งหมด
ซึ่งถ้าร้านไหนขึ้นห้าง ก็อาจมีต้นทุนสูงกว่านี้
หรือขายบนแพลตฟอร์ม Delivery ก็จะโดนหักค่า GP
สถานการณ์เช่นนี้ ทำให้หลายธุรกิจร้านอาหาร เริ่มชะลอการขยายตัว หรือแม้แต่ต้องกลับมาทบทวนแผนธุรกิจใหม่ เพื่อประคองตัวให้อยู่รอด
ต้องบอกว่า ความท้าทายในธุรกิจร้านอาหาร ไม่ได้เกิดเฉพาะกับร้านเล็ก ๆ หรือรายย่อยเท่านั้น แต่เชนร้านอาหารใหญ่ ๆ ก็ประสบพบเจอเช่นกัน
เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น ขอยกตัวอย่าง ผลประกอบการของธุรกิจร้านอาหาร ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้น ในช่วงไตรมาส 1 ปี 2568
- บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ M
แม้จะเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจร้านอาหารของไทยมาอย่างยาวนาน
แต่ MK ก็กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่
ในไตรมาส 1 ปี 2568 บริษัทรายงานรายได้จากการขายและบริการ อยู่ที่ 3,541 ล้านบาท ลดลง 10.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 3,946 ล้านบาท
ขณะที่กำไรสุทธิ ก็ลดลง 32.6% จาก 347 ล้านบาท เหลือ 234 ล้านบาท
บริษัทบอกว่า ยอดขายต่อสาขาเดิม (SSSG) ลดลงถึง 10.5%
สะท้อนถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคที่อ่อนแอ ซึ่งเป็นผลจาก
ภาระหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง ทำให้ลูกค้าจับจ่ายอย่างระมัดระวังมากขึ้น
ขณะเดียวกันการแข่งขันในธุรกิจร้านอาหารยังรุนแรง
อีกทั้งต้นทุนวัตถุดิบบางประเภท ก็มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น
และอีกหนึ่งบริษัทร้านอาหาร ที่เจอแรงกดดันในปีนี้ คือ
- บริษัท เซ็น คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ZEN
โดยไตรมาส 1 ปี 2568 บริษัทมีรายได้รวม อยู่ที่ 1,005 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 1,019 ล้านบาท
แต่ในส่วนรายได้จากธุรกิจร้านอาหารนั้น อยู่ที่ 727 ล้านบาท หรือลดลง 9.8%
สาเหตุหลักมาจากยอดขายร้านอาหารที่ลดลง เพราะกำลังซื้อของลูกค้าหดตัว และการแข่งขันในตลาดที่รุนแรงขึ้น มีแบรนด์ใหม่ ๆ เปิดมากขึ้น
ซึ่ง ZEN กำลังพยายามปรับโครงสร้างรายได้ ให้ไม่พึ่งพาแค่ร้านอาหารเพียงอย่างเดียว เช่น เพิ่มรายได้จากธุรกิจผลิตและจัดจำหน่าย
โดยไตรมาสนี้ มีรายได้ตรงนี้อยู่ที่ 226 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40% จากการขยายช่องทางขาย การเพิ่มชนิดของผลิตภัณฑ์ และการเพิ่มฐานลูกค้าใหม่
อย่างไรก็ตาม ในความท้าทายของสมรภูมินี้เอง ก็ยังมีบางบริษัทในตลาดหุ้น ที่เติบโตสวนทางกับตลาดได้ เช่น
- บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) หรือ OKJ
โดยไตรมาส 1 ปี 2568
มีรายได้ 708.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.9%
มีกำไรสุทธิ 63.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48.7%
อย่างไรก็ดี ต้องหมายเหตุว่า ร้านโอ้กะจู๋ มีอัตราการเติบโตของรายได้จากการขายของสาขาเดิม (SSSG) เพียง 0.1% หรือแทบไม่โตเลย
ดังนั้น เบื้องหลังการเติบโตของบริษัทคือ การขยายสาขาใหม่ ซึ่งบริษัทมีร้านโอ้กะจู๋ เพิ่มขึ้น 7 สาขา รวมถึงการเปิดแบรนด์ใหม่ ที่ช่วยเพิ่มกลุ่มลูกค้า และช่องทางรายได้
- บริษัท มากุโระ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAGURO
ช่วงไตรมาส 1 ปี 2568
มีรายได้จากการขายและการให้บริการ อยู่ที่ 414.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.8%
ขณะที่กำไรสุทธิ อยู่ที่ 32.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 61.5%
บริษัทบอกว่า เบื้องหลังการเติบโต มาจากการเปิดสาขาใหม่เพิ่มเติม จำนวน 14 สาขา
ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ต้นทุนวัตถุดิบลดลง และเน้นกลยุทธ์การเพิ่มประสิทธิภาพของห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain Optimization) เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน
นอกจากธุรกิจร้านอาหารในตลาดหุ้นแล้ว ธุรกิจนอกตลาดหุ้นบางราย ก็เติบโตได้อย่างโดดเด่น เช่น
- บริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด เจ้าของ สุกี้ตี๋น้อย
ปี 2565 รายได้ 3,976 ล้านบาท กำไร 591 ล้านบาท
ปี 2566 รายได้ 5,262 ล้านบาท กำไร 907 ล้านบาท
ปี 2567 รายได้ 7,075 ล้านบาท กำไร 1,169 ล้านบาท
- บริษัท มิราเคิล แพลนเนท จำกัด เจ้าของ Lucky Suki และ Lucky BBQ
ปี 2565 รายได้ 80 ล้านบาท กำไร 3 ล้านบาท
ปี 2566 รายได้ 409 ล้านบาท กำไร 46 ล้านบาท
ปี 2567 รายได้ 1,015 ล้านบาท กำไร 108 ล้านบาท
ซึ่งก็สอดคล้องกับที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทย วิเคราะห์ว่า แม้ภาพรวมธุรกิจร้านอาหาร จะเติบโตในอัตราที่ชะลอลง แต่กลุ่มร้านอาหารประเภทบุฟเฟต์ ยังได้รับความนิยมจากผู้บริโภค ที่มองเรื่องความคุ้มค่า
สรุปแล้ว ในวันที่เศรษฐกิจไทยชะลอตัว จนกระทบการใช้จ่ายของผู้บริโภค
การแข่งขันในธุรกิจร้านอาหารที่สูง เทรนด์ของร้านอาหารและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยน
ทำให้หลายแบรนด์ร้านอาหาร ยอดขายหด และเลือกที่จะชะลอการขยายตัว
แต่ก็มีบางร้านอาหารที่ยังสามารถเติบโตสวนทางได้อย่างน่าสนใจ
ซึ่งจะเห็นได้ว่า แม้แต่ละร้าน จะมีจุดแข็ง จุดขาย หรือกลยุทธ์ ที่ต่างกัน
แต่สิ่งที่พวกเขามีเหมือนกันคือ การปรับตัวได้เร็ว สามารถบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
มีรสชาติและราคาของอาหารถูกใจผู้บริโภค
ท่ามกลางยุคที่เศรษฐกิจไม่แน่นอน เทรนด์เปลี่ยนเร็ว คู่แข่งไม่ซ้ำหน้า และต้นทุนต่าง ๆ สูงขึ้น แต่คนกลับเริ่มประหยัดและใช้จ่ายน้อยลง
ก็ทำให้แบรนด์ใหญ่บางแบรนด์ ซึ่งเคยเป็นผู้นำในตลาดมายาวนาน
หรือแม้แต่ร้านอาหารรายย่อย ที่เคยมีลูกค้าเหนียวแน่น ต่างต้องเผชิญความท้าทาย

และต้องรื้อตำราใหม่ เพื่อปรับตัวให้สามารถแข่งขันและอยู่รอดในยุคนี้ได้..
╔═══════════╗
ติดตามข่าวเศรษฐกิจแบบเน้น ๆ จากหลายเพจได้ใน Blockdit - คอนเทนต์แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานเป็นประจำ 2 ล้านคน ลองใช้ฟรี blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
TikTok - tiktok.com/@longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงทุนแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
- https://shorturl.asia/7B9kp
- https://shorturl.asia/9JSlR
- https://shorturl.asia/MCrVI
- https://shorturl.asia/J1SdC
- https://shorturl.asia/wXWq4
- https://shorturl.asia/8jep7
- https://shorturl.asia/X69jH

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

SPONSORED
© 2025 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon