
Garmin ครองบัลลังก์นาฬิกาวิ่ง จนทำรายได้สูงสุดในประวัติการณ์
Garmin ครองบัลลังก์นาฬิกาวิ่ง จนทำรายได้สูงสุดในประวัติการณ์ /โดย ลงทุนแมน
ถ้าใครเป็นนักวิ่ง หรือออกกำลังกาย ไปดูงานวิ่งต่าง ๆ จะเห็นว่า คนส่วนใหญ่ใส่นาฬิกาวิ่งยี่ห้อ Garmin ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะ Garmin ครองตลาดนาฬิกาวิ่งมาอย่างยาวนาน
ถ้าใครเป็นนักวิ่ง หรือออกกำลังกาย ไปดูงานวิ่งต่าง ๆ จะเห็นว่า คนส่วนใหญ่ใส่นาฬิกาวิ่งยี่ห้อ Garmin ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะ Garmin ครองตลาดนาฬิกาวิ่งมาอย่างยาวนาน
ปัจจุบัน คนหันมาใส่ใจด้านสุขภาพกันมากขึ้น เลือกทานอาหารที่ดี ออกกำลังกายกันเพิ่มขึ้น
ธุรกิจที่ทำเกี่ยวกับร่างกาย จึงได้รับความนิยมมากขึ้น และหนึ่งในกีฬายอดฮิตคือ การวิ่ง เพราะมีแค่รองเท้าคู่เดียว ก็สามารถออกกำลังกายได้แล้ว
แต่รู้หรือไม่ นาฬิกาก็เป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาการวิ่งของเรา เช่น การจับเวลา วัดระยะทาง รวมถึงวัด Heart Rate ขณะออกกำลังกาย
แม้ Garmin จะเป็นผู้นำในเรื่องนี้ แต่จริง ๆ แล้วบริษัทไม่ได้เริ่มต้นด้วยการผลิตนาฬิกาวิ่ง แต่เริ่มจากการทำ GPS สำหรับทหารและนักบิน..
แล้วบริษัทมีกลยุทธ์อะไรที่น่าสนใจ ทำไมถึงเติบโตมาได้อย่างต่อเนื่อง จนทำรายได้สูงสุดในประวัติการณ์ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
เรื่องราวทั้งหมดเริ่มขึ้นในปี 1989 เมื่อสองวิศวกรชาวอเมริกัน คุณ Gary Burrell และคุณ Min H. Kao ร่วมกันก่อตั้งบริษัทเพื่อพัฒนาเทคโนโลยี GPS สำหรับทหารและนักบิน
ก่อนจะขยายสู่ตลาดอุปกรณ์นำทางในรถยนต์ และสุดท้ายกลายเป็นแบรนด์นาฬิกา GPS สำหรับออกกำลังกายที่คนทั่วโลกรู้จัก
จุดเด่นของ Garmin คือทำทุกอย่างเอง ตั้งแต่ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ จนถึงบริการหลังการขาย และพัฒนาผลิตภัณฑ์เจาะกลุ่มเฉพาะ เช่น วิ่ง ปั่น ดำน้ำ กอล์ฟ จนมีแฟนคลับเหนียวแน่น
ในปี 2024 ขนาดตลาดนาฬิกาวิ่งทั่วโลก มีมูลค่าสูงถึง 432,855 ล้านบาท และคาดว่าจะเติบโตต่อไปปีละ 5%
วันนี้ Garmin ไม่ได้เป็นแค่บริษัททำ GPS อีกต่อไป แต่กลายเป็นยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีที่มีรายได้สูงถึง 200,000 ล้านบาทต่อปี มีพนักงานกว่า 22,000 คน ใน 34 ประเทศ และมีมูลค่าบริษัทกว่า 1,342,000 ล้านบาท
โดยตอนนี้ Garmin มีธุรกิจหลักอยู่ 5 กลุ่ม ได้แก่
- Fitness & Outdoor นาฬิกาและอุปกรณ์ออกกำลังกาย
- Aviation ระบบนำร่องสำหรับเครื่องบิน
- Marine อุปกรณ์นำทางทางทะเล
- Automotive GPS ในรถยนต์
(ยังคงมีตลาดในบางส่วน)
(ยังคงมีตลาดในบางส่วน)
- Auto OEM ขายระบบให้กับผู้ผลิตรถยนต์
สิ่งที่น่าสนใจคือ ทั้ง 5 กลุ่มธุรกิจ ทำรายได้สูงสุดในประวัติศาสตร์ในปี 2024
แล้วผลประกอบการช่วงที่ผ่านมา ของ Garmin เป็นอย่างไรบ้าง ?
ปี 2021 รายได้ 162,260 ล้านบาท กำไร 35,256 ล้านบาท
ปี 2022 รายได้ 158,328 ล้านบาท กำไร 31,723 ล้านบาท
ปี 2023 รายได้ 170,289 ล้านบาท กำไร 42,011 ล้านบาท
ปี 2024 รายได้ 205,113 ล้านบาท กำไร 45,997 ล้านบาท
ปี 2022 รายได้ 158,328 ล้านบาท กำไร 31,723 ล้านบาท
ปี 2023 รายได้ 170,289 ล้านบาท กำไร 42,011 ล้านบาท
ปี 2024 รายได้ 205,113 ล้านบาท กำไร 45,997 ล้านบาท
โดยสัดส่วนรายได้ มาจาก
- กลุ่มกิจกรรมกลางแจ้ง (Outdoor) 31%
- กลุ่มฟิตเนส (Fitness) 28%
- กลุ่มการเดินทะเล (Marine) 17%
- กลุ่มการบิน (Aviation) 14%
- กลุ่มยานยนต์ (Auto) 10%
- กลุ่มกิจกรรมกลางแจ้ง (Outdoor) 31%
- กลุ่มฟิตเนส (Fitness) 28%
- กลุ่มการเดินทะเล (Marine) 17%
- กลุ่มการบิน (Aviation) 14%
- กลุ่มยานยนต์ (Auto) 10%
โดยในไตรมาสแรกของปี 2025 Garmin มีรายได้รวม สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 50,158 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11%
กำไรจากการดำเนินงานสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 10,840 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับปีก่อน
ซึ่งสูตรสร้างความสำเร็จของ Garmin คือการลงทุนในนวัตกรรมใหม่ ๆ และสนับสนุนงานวิจัยกว่า 500 โครงการ
โดยในปี 2024 บริษัทได้ลงทุนในการวิจัยและพัฒนาถึง 32,374 ล้านบาท คิดเป็นเกือบ 16% ของรายได้ทั้งปี เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยังสามารถสรุปกลยุทธ์ธุรกิจของ Garmin สั้น ๆ ได้ว่า
1. เน้นปรับตัวให้ทันเวลา
ทำให้บริษัทสามารถอยู่รอดและเติบโต ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี พฤติกรรมผู้บริโภค และการแข่งขันที่รุนแรงจากยักษ์ใหญ่อย่าง Apple, Samsung ได้
ทำให้บริษัทสามารถอยู่รอดและเติบโต ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี พฤติกรรมผู้บริโภค และการแข่งขันที่รุนแรงจากยักษ์ใหญ่อย่าง Apple, Samsung ได้
โดย Garmin ปรับตัวจากธุรกิจ GPS บนรถยนต์ สู่เทคโนโลยีสวมใส่ จนหา Champion Product ของตัวเองเจอ
2. ควบคุมการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์เองทุกขั้นตอน
ทำให้มีความรู้และเชี่ยวชาญในผลิตภัณฑ์ของตน
ควบคุมต้นทุนและคุณภาพได้ดี รวมถึงรักษานวัตกรรมให้อยู่ในมือ ไม่พึ่งพาภายนอก
ทำให้มีความรู้และเชี่ยวชาญในผลิตภัณฑ์ของตน
ควบคุมต้นทุนและคุณภาพได้ดี รวมถึงรักษานวัตกรรมให้อยู่ในมือ ไม่พึ่งพาภายนอก
3. การลงทุนในการวิจัยและพัฒนา
คือกุญแจสำคัญของการเติบโต ในธุรกิจเทคโนโลยี อย่างยั่งยืน
คือกุญแจสำคัญของการเติบโต ในธุรกิจเทคโนโลยี อย่างยั่งยืน
ซึ่ง Garmin ใช้เงินลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา ไม่ต่ำกว่า 10% ของรายได้ทุกปี และเรื่องนี้ช่วยให้บริษัทสร้างนวัตกรรมได้อย่างต่อเนื่อง
4. การกระจายความเสี่ยง ไม่พึ่งพาธุรกิจเดียว หรือตลาดใดตลาดหนึ่ง
Garmin เก่งในด้าน GPS จึงนำความเชี่ยวชาญที่มี ไปต่อยอดในธุรกิจต่าง ๆ ซึ่งไม่ได้มีแค่นาฬิกาวิ่ง แต่ยังมีระบบนำร่องในเครื่องบิน และการนำทางในเรือ
Garmin เป็นตัวอย่างที่ดีของบริษัทที่รู้จักการปรับตัว จากบริษัท GPS ในรถยนต์ ที่เคยเจอวิกฤติจากการเข้ามาของแอป Google Maps และ Apple Maps บนโทรศัพท์มือถือ
จึงทำให้บริษัท ต้องเผชิญกับวิกฤติรายได้ตกฮวบในช่วงปลายยุค 2000s แต่ปัจจุบัน Garmin กลายเป็นผู้นำด้าน Smart Wearables ที่มีรายได้เติบโต 20% ในปีที่ผ่านมา
Garmin ครองตลาดนาฬิกาวิ่งได้ ไม่ใช่เพราะโชคดี แต่เพราะกลยุทธ์ที่ชัดเจน ในการเจาะลึกกลุ่มเป้าหมาย และกล้าลงทุนเพื่อนวัตกรรม
จนสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ตลาดเฉพาะทาง และครองใจกลุ่มนักวิ่งทั่วโลก..