บทเรียนเปลี่ยนชีวิตจาก เจ้าพ่อเฮดจ์ฟันด์ Ken Griffin

บทเรียนเปลี่ยนชีวิตจาก เจ้าพ่อเฮดจ์ฟันด์ Ken Griffin

บทเรียนเปลี่ยนชีวิตจาก เจ้าพ่อเฮดจ์ฟันด์ Ken Griffin /โดย ลงทุนแมน
ในโลกการเงินและการลงทุน ที่มีคนเก่งมากมาย
แต่มีเพียงไม่กี่คน ที่ยืนอยู่แถวหน้าได้นานเท่า
คุณ Ken Griffin มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน ผู้ก่อตั้งกองทุน เฮดจ์ฟันด์ Citadel LLC
- ปี 1990 ในวัย 22 ปี ได้รับเงินสนับสนุน 150 ล้านบาท
จากคุณ Frank Meyer ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญ และผู้บุกเบิกในอุตสาหกรรมกองทุนเฮดจ์ฟันด์ เพื่อมาก่อตั้งกองทุน
- ปี 2025 ได้รับการจัดอันดับในรายชื่อมหาเศรษฐีโลกของ Forbes โดยอยู่ในอันดับที่ 33 ด้วยทรัพย์สินสุทธิกว่า 1.5 ล้านล้านบาท
ซึ่งผลงานของคุณ Ken Griffin สามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ย 19% ต่อปี เป็นเวลาติดต่อกัน 30 ปี..
ประสบการณ์ชีวิต แนวคิดของเจ้าพ่อเฮดจ์ฟันด์คนนี้
น่าสนใจอย่างไร ?
มีบทเรียนเปลี่ยนชีวิตอะไร ที่เราเรียนรู้ได้บ้าง ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
คุณ Griffin มหาเศรษฐีชาวอเมริกัน ผู้ก่อตั้ง Citadel Securities บริษัทหลักทรัพย์ ที่มีบทบาทสำคัญเป็น Market Maker หรือ ผู้ให้สภาพคล่องในตลาด
โดยมีคำสั่งซื้อขายหุ้นผ่านบริษัท ถึง 1 ใน 4 ของการซื้อทั้งหมดในสหรัฐฯ
นอกจากนี้ ปัจจุบันเขายังเป็นผู้ก่อตั้ง, ซีอีโอ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการลงทุนร่วม ของ Citadel LLC กองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่บริหารสินทรัพย์มูลค่ากว่า 2.3 ล้านล้านบาท (ณ เดือนมิถุนายน 2025)
โดยสามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ย 19% ต่อปี
เป็นเวลาติดต่อกัน 30 ปี ถือเป็นหนึ่งในเฮดจ์ฟันด์ที่ใหญ่ และประสบความสำเร็จที่สุดในโลก
ถ้าเราไล่เรียงเส้นทางชีวิตของคุณ Griffin
- ขณะเรียนปริญญาตรี ระดมทุนจากครอบครัวและเพื่อนได้ราว 9 ล้านบาท เพื่อนำมาซื้อขายออปชันและหุ้นกู้แปลงสภาพ เพื่อทำกำไรในตลาดขาลง จนทำกำไรมหาศาลจากเหตุการณ์ตลาดล่มเมื่อปี 1987
- ปี 1990 ในวัย 22 ปี ได้รับเงินสนับสนุน 150 ล้านบาท
จากคุณ Frank Meyer ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญ และผู้บุกเบิกในอุตสาหกรรมกองทุนเฮดจ์ฟันด์
เพื่อก่อตั้งกองทุนที่เน้นกลยุทธ์เชิงปริมาณ ด้วยคอมพิวเตอร์เพียงเครื่องเดียว กับพนักงาน 2 คน
ซึ่งต่อมาได้พัฒนาจนกลายมาเป็น Citadel LLC ในปัจจุบัน
- ปี 2003 เมื่ออายุ 34 ปี คุณ Griffin กลายเป็นบุคคลที่อายุน้อยที่สุดในรายชื่อ Forbes 400 ที่จัดอันดับชาวอเมริกันที่ร่ำรวยที่สุด 400 คน ด้วยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 23,725 ล้านบาท
- ปี 2013 ได้รับการจัดอันดับในรายชื่อ 100 บุคคลที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลกของนิตยสาร Time
- ปี 2017 ได้รับการจัดอันดับใน Forbes 400
รายชื่อมหาเศรษฐีชาวอเมริกัน โดยเลื่อนอันดับมาอยู่ที่ 172
- ปี 2025 ได้รับการจัดอันดับในรายชื่อมหาเศรษฐีโลกของ Forbes โดยอยู่ในอันดับที่ 33 ด้วยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 1.5 ล้านล้านบาท
เห็นแค่นี้ก็บอกได้ว่า ถ้าเปรียบชีวิตของคุณ Griffin เป็นประเภทหุ้น ก็คงต้องเป็นหุ้น Super Stock ที่สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง และต่อเนื่องระยะยาว
คำถามที่น่าสนใจคือ การที่ประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้ มีเบื้องหลังอะไรซ่อนอยู่ ?
ย้อนกลับไปในช่วงวัย 20 ปีช่วงต้น
จุดเริ่มต้นเส้นทางสายอาชีพทางการเงิน ของคุณ Griffin
วันหนึ่งเขาได้เข้าไปพบนักลงทุนคนหนึ่ง
ในห้องนั้น สิ่งที่สะดุดตาเขาไม่ใช่ของราคาแพง
แต่กลับเป็นป้ายไม้ราคาถูก ที่มีข้อความว่า
“If we’re all going to eat, someone has to sell.”
ที่เน้นย้ำถึงความสำคัญของบทบาทผู้ขาย หรือผู้ให้บริการต่าง ๆ ซึ่งหากไม่มีคนขาย ก็จะไม่มีสินค้าหรือบริการให้คนอื่นบริโภคได้
ข้อความง่าย ๆ นี้ ฝังลึกอยู่ในใจคุณ Griffin
เพราะมันไม่ใช่แค่การขายสินค้าทั่วไป
แต่คือหัวใจของการทำธุรกิจ
เขาได้เรียนรู้ว่า ไม่มีธุรกิจไหนจะประสบความสำเร็จได้
ถ้าไม่รู้จักการขาย ไม่ว่าจะเป็น การขายวิสัยทัศน์ให้ทีมงาน ขายสินค้าและบริการให้ลูกค้า หรือเจรจากับพันธมิตร
ทำให้ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา มุมมองของคุณ Griffin ที่มีต่อโลกธุรกิจ ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
นอกจากนี้ ในงานบรรยายที่ Stanford Graduate School of Business คุณ Griffin ได้เคยแชร์มุมมองเกี่ยวกับความสำคัญของการลงทุนและความล้มเหลว ตั้งแต่อายุน้อย ๆ
เขาเล่าถึงการตัดสินใจเริ่มต้นลงทุน ตั้งแต่วัยมหาวิทยาลัย ก็เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์และเรียนรู้จากการลองผิดลองถูก
โดยมองว่า ความล้มเหลวในช่วงอายุ 20 ปีต้น ๆ นั้น
สำหรับในวัยนี้ ถือว่าภาระความรับผิดชอบยังไม่มากนัก
ไม่ได้เลวร้ายเท่ากับการล้มเหลวเมื่ออายุ 40 ปี
ทำให้สามารถรับความเสี่ยง และผลกระทบจากความผิดพลาดได้มากกว่า
ซึ่งนับเป็นโอกาสที่ดีที่สุด ในการลงมือทำและกล้าที่จะล้มเหลว เพื่อเรียนรู้และพัฒนาตัวเอง ก่อนที่จะมีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบมากขึ้นในอนาคต
เขายังกล่าวถึง คุณสมบัติสำคัญที่ผู้ประกอบการยุคใหม่ ควรมีคือ ความสามารถในการคิดนอกกรอบ
โดยให้เหตุผลว่า การแข่งขันแบบตรงไปตรงมากับคู่แข่ง อาจไม่ใช่หนทางสู่ชัยชนะอีกต่อไป
แต่ควรมองหา วิธีแก้ปัญหาให้ลูกค้าในแบบที่คนอื่นมองข้ามไป
ทัศนคตินี้เอง ที่ทำให้ Citadel ไม่ได้เป็นแค่กองทุนทั่วไป แต่ก้าวขึ้นเป็นองค์กรที่มีบทบาทสำคัญ อยู่เบื้องหลังตลาดการเงินของโลกได้
อย่างไรก็ตาม แม้ Citadel จะมีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ มูลค่ากว่า 2.3 ล้านล้านบาท
แต่คุณ Griffin ย้ำว่า สิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่ตัวเลขเหล่านั้น
แต่เป็นการมีทีมงานที่แข็งแกร่ง มีพาร์ตเนอร์ที่มีความสามารถ และรวมถึงความพร้อมที่จะร่วมมือกัน เพื่อรับมือในวันที่ธุรกิจต้องเผชิญกับวิกฤติ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้บริษัทสามารถฝ่าฟันทุกวิกฤติไปได้
โดยคุณ Griffin ยังเผยเคล็ดลับในการเลือกคนร่วมงาน ที่ไม่ใช่ดูแค่เกรดหรือประสบการณ์ แต่ต้องมี
- ความฉลาดทางความคิด
- ความสามารถในการเรียนรู้ที่รวดเร็ว
- ทักษะการสื่อสาร
- และที่สำคัญที่สุด ความสามารถในการปรับตัวได้
ที่บอกว่าสำคัญที่สุด ก็เพราะโลกเราเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในทุกวัน เราจึงต้องปรับตัวตลอดเวลา ความรู้ก็ควรอัปเดต เพื่อให้แข่งขันในโลกยุคใหม่ได้
ถึงตรงนี้ ถ้าสรุปแนวคิดสำคัญจากคุณ Griffin ง่าย ๆ
- การขายคือหัวใจของทุกธุรกิจ
- กล้าคิดนอกกรอบ
- เรียนรู้ และยอมรับความล้มเหลว ตั้งแต่อายุน้อย
- ทีม คือสินทรัพย์ที่ประเมินค่าไม่ได้
- เลือกคนร่วมงานด้วย อย่างชาญฉลาด
ทั้งหมดนี้เอง คือแนวคิดที่กลั่นกรองจากประสบการณ์และบทเรียนของคุณ Ken Griffin ผู้ก่อตั้ง Citadel LLC หนึ่งในกองทุนเฮดจ์ฟันด์ ที่ประสบความสำเร็จแห่งหนึ่งของโลก..
© 2025 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon