
เมื่อโลกเทคโนโลยี เข้าสู่ยุค สงครามเย็น
เมื่อโลกเทคโนโลยี เข้าสู่ยุค สงครามเย็น /โดย ลงทุนแมน
ตอนนี้โลกเทคโนโลยี น่าจะใกล้เคียงกับเหตุการณ์ประวัติศาสตร์อย่างสงครามเย็น มากที่สุดแล้ว
ตอนนี้โลกเทคโนโลยี น่าจะใกล้เคียงกับเหตุการณ์ประวัติศาสตร์อย่างสงครามเย็น มากที่สุดแล้ว
ที่พูดแบบนี้ ก็เพราะว่าบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ทั้ง Amazon Google Microsoft ใช้วิธีทำสงครามตัวแทน
และหันมาสะสมเทคโนโลยี AI ของตัวเองอย่างต่อเนื่อง
และหันมาสะสมเทคโนโลยี AI ของตัวเองอย่างต่อเนื่อง
ไม่ต่างอะไรกับช่วงที่โลกของเรา อยู่ในยุคสงครามเย็น
ที่ทั้งสหรัฐฯ และสหภาพโซเวียต ทำสงครามตัวแทนและสะสมกำลังทหารของตัวเอง จนเกิดความตึงเครียดยาวนานหลายสิบปี
ที่ทั้งสหรัฐฯ และสหภาพโซเวียต ทำสงครามตัวแทนและสะสมกำลังทหารของตัวเอง จนเกิดความตึงเครียดยาวนานหลายสิบปี
ชนวนของสงครามนี้คืออะไร และสงครามเย็นกำลังรุนแรงแค่ไหน ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ในโลกสงครามเย็น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชัดเจนมาก ๆ
นั่นคือ การทำสงครามตัวแทนผ่านประเทศต่าง ๆ เช่น สงครามเกาหลี หรือสงครามเวียดนาม
นั่นคือ การทำสงครามตัวแทนผ่านประเทศต่าง ๆ เช่น สงครามเกาหลี หรือสงครามเวียดนาม
เรื่องนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับโลกเทคโนโลยี เพราะในช่วงที่ผ่านมา บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ ก็กำลังทำสงคราม AI
ผ่านตัวแทนบริษัทต่าง ๆ
ผ่านตัวแทนบริษัทต่าง ๆ
แต่การทำสงครามครั้งนี้ ไม่ได้ส่งกำลังทหารเหมือนกับยุคสงครามเย็น แต่ใช้กำลังเงินทุน ใส่เข้าไปในบริษัทเหล่านั้น
- Microsoft ลงทุนใน OpenAI ผู้พัฒนา ChatGPT
- Amazon ลงทุนใน Anthropic ผู้พัฒนา Claude
- Google ลงทุนใน Anthropic ผู้พัฒนา Claude
- Meta ลงทุนใน Scale AI สตาร์ตอัปด้าน AI ที่กำลังมาแรง
- Amazon ลงทุนใน Anthropic ผู้พัฒนา Claude
- Google ลงทุนใน Anthropic ผู้พัฒนา Claude
- Meta ลงทุนใน Scale AI สตาร์ตอัปด้าน AI ที่กำลังมาแรง
ทั้งหมดที่พูดมานี้ ยังไม่รวมนักลงทุนอื่น ๆ เช่น Elon Musk ที่เคยลงทุนใน OpenAI หรือ Jeff Bezos ผู้ก่อตั้ง Amazon ที่ลงทุนในบริษัท AI ชื่อดังอย่าง Perplexity อีกด้วย
รวมถึง Apple ที่มีข่าวลือว่า สนใจลงทุนใน Perplexity ด้วยเช่นกัน
คงสรุปง่าย ๆ ว่า ในยุคเทคโนโลยี AI นอกจากจะไม่ได้แข่งขันกันตรง ๆ แต่แข่งขันกันผ่านสงครามตัวแทนบริษัทต่าง ๆ แล้ว
โลกเทคโนโลยีตอนนี้ ก็กำลังแข่งขันกันสั่งสมความรู้เทคโนโลยี AI ของตัวเองอีกด้วย
ซึ่งเรื่องแปลกคือ บริษัทเทคโนโลยีหลายเจ้า ยอมใช้เงินหลักหมื่นล้าน แสนล้านบาท เพื่อซื้อเทคโนโลยี แต่ไม่ซื้อบริษัทนั้น
ถ้าถามว่ามันแปลกแค่ไหน มันก็คงเหมือนกับการที่เรา
เปิดร้านอาหาร แล้วอยากมีคนยอมจ่ายเงินซื้อสูตรอาหาร
แต่ไม่อยากซื้อร้านอาหารทั้งหมด
เปิดร้านอาหาร แล้วอยากมีคนยอมจ่ายเงินซื้อสูตรอาหาร
แต่ไม่อยากซื้อร้านอาหารทั้งหมด
แม้จะแปลกแค่ไหน แต่บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่
ก็ใช้วิธีนี้กับบริษัทต่าง ๆ อยู่ดี
ก็ใช้วิธีนี้กับบริษัทต่าง ๆ อยู่ดี
Microsoft ยอมจ่ายเงิน 22,000 ล้านบาท เพื่อให้ได้ลิขสิทธิ์เทคโนโลยีและฐานข้อมูลต่าง ๆ ของ Inflection AI ไปใช้เชื่อมต่อกับผลิตภัณฑ์ในเครือของตัวเอง
Amazon ยอมจ่ายเงิน 14,400 ล้านบาท เพื่อให้ได้เทคโนโลยีและฐานข้อมูลต่าง ๆ ของ Adept AI มาต่อยอดกับผลิตภัณฑ์ภายในเครือ หวังเร่งสปีดตัวเองในการแข่งขันกับผู้เล่นรายอื่น
และล่าสุดที่ผ่านมา Google ยอมใช้เงินประมาณ 87,000 ล้านบาท เพื่อจ้างซีอีโอของสตาร์ตอัปชื่อ Windsurf พร้อมลิขสิทธิ์การใช้เทคโนโลยีบางส่วน
ซึ่งนอกจากการซื้อเทคโนโลยีของบริษัทต่าง ๆ แต่ไม่ซื้อบริษัทนั้นแล้ว ยังมีการใช้วิธีซื้อหุ้นบริษัทบางส่วน เพื่อหวังเข้าถึงเทคโนโลยีและพนักงานของบริษัทอีกด้วย
ตัวอย่างที่ชัดเจนมาก และเป็นข่าวโด่งดังก่อนหน้านี้
คือ การที่ Meta ยอมจ่ายเงินเกือบ 5 แสนล้านบาท แลกกับหุ้นส่วน 49% ในบริษัทที่ชื่อว่า Scale AI
คือ การที่ Meta ยอมจ่ายเงินเกือบ 5 แสนล้านบาท แลกกับหุ้นส่วน 49% ในบริษัทที่ชื่อว่า Scale AI
Scale AI คือบริษัทที่ทำตัวเหมือนเป็นนักโภชนาการ
ของ AI ที่คัดสรรและเตรียมข้อมูลคุณภาพสูง ทำให้ AI สามารถเรียนรู้และตัดสินใจได้อย่างแม่นยำและเชื่อถือได้มากขึ้น
ของ AI ที่คัดสรรและเตรียมข้อมูลคุณภาพสูง ทำให้ AI สามารถเรียนรู้และตัดสินใจได้อย่างแม่นยำและเชื่อถือได้มากขึ้น
ที่น่าตกใจกว่านั้นคือ บริษัทนี้ก่อตั้งโดยมหาเศรษฐีแสนล้านบาท อย่าง Alexandr Wang ที่มีอายุแค่ 28 ปี แต่ Meta ยอมทุ่มเงินมหาศาล เพื่อแลกกับการได้ตัวผู้ก่อตั้งคนนี้และทีมงาน ไปทำงานกับ Meta ด้วย
แปลว่าจริง ๆ แล้ว Meta ไม่ได้ให้มูลค่ากับบริษัทนี้โดยตรง แต่ให้มูลค่ากับเทคโนโลยีและความรู้จาก
ผู้ก่อตั้ง พร้อมทีมงาน มากกว่าด้วยซ้ำ
ผู้ก่อตั้ง พร้อมทีมงาน มากกว่าด้วยซ้ำ
แต่การทำแบบนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ไม่มีเหตุผลสำหรับบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก เพราะการซื้อเทคโนโลยีและทีมงานบางส่วน ทำให้บริษัทสามารถเลี่ยงความผิดในการผูกขาดได้
ตรงกันข้าม ถ้าซื้อทั้งบริษัทไปเลย ก็อาจทำให้บริษัทเหล่านี้ถูกฟ้องร้องในข้อหาการผูกขาดเทคโนโลยีแทน
ภาพที่พูดมาทั้งหมดนี้ ถ้าเราดูดี ๆ แล้วก็จะเห็นว่า
โลกเทคโนโลยีที่แข่งขันในปัจจุบัน ไม่ต่างอะไรกับโลกยุคสงครามเย็น ที่แข่งขันกันเมื่อศตวรรษก่อน
โลกเทคโนโลยีที่แข่งขันในปัจจุบัน ไม่ต่างอะไรกับโลกยุคสงครามเย็น ที่แข่งขันกันเมื่อศตวรรษก่อน
ในตอนนั้น โลกแข่งขันผ่านสงครามตัวแทนในประเทศต่าง ๆ พร้อมกับสะสมกำลังทหารและอาวุธของตัวเอง เพื่อข่มขู่กันระหว่างมหาอำนาจสองขั้วโลก
มาวันนี้ โลกเทคโนโลยีกำลังแข่งขันกันสะสมสิ่งใหม่
ที่ไม่ใช่นิวเคลียร์หรือขีปนาวุธ แต่เป็นคลังข้อมูลและเทคโนโลยี AI ของตัวเอง ให้เก่งมากขึ้นไปเรื่อย ๆ
ที่ไม่ใช่นิวเคลียร์หรือขีปนาวุธ แต่เป็นคลังข้อมูลและเทคโนโลยี AI ของตัวเอง ให้เก่งมากขึ้นไปเรื่อย ๆ
ซึ่งตอนจบของสงครามเย็นยุคก่อน คือ ภาพที่สหภาพโซเวียตล่มสลาย และเป็นชัยชนะของฝ่ายประชาธิปไตย ที่นำโดยสหรัฐฯ
ตอนจบของสงครามเย็นในโลกเทคโนโลยี ก็อาจเป็นภาพเดียวกับสงครามเย็นยุคก่อน ที่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแพ้ไป ส่วนอีกฝ่ายก็ชนะได้สำเร็จแทน
แต่ที่แน่ ๆ โลกเทคโนโลยีตอนนี้ กำลังเข้าสู่ยุคสงครามเย็น ที่ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่า ตอนจบของสงครามบทใหม่นี้
ใครจะเป็นผู้ชนะกันแน่
ใครจะเป็นผู้ชนะกันแน่
หรือจริง ๆ แล้ว ตัวผู้ชนะที่แท้จริง
อาจไม่ใช่ทั้งตัวการ หรือตัวแทน ในสงคราม
อาจไม่ใช่ทั้งตัวการ หรือตัวแทน ในสงคราม
แต่อาจเป็นคนที่ขายเครื่องมือ ให้กับบริษัทเทคโนโลยีต่าง ๆ เหล่านั้น เพื่อเอาไปใช้พัฒนาเทคโนโลยีของตัวเอง..
References
-https://www.theverge.com/openai/705999/google-windsurf-ceo-openai
-https://m.economictimes.com/tech/technology/ai-startups-swap-independence-for-big-techs-deep-pockets/articleshow/112082129.cms
-https://www.ft.com/content/b7037ce1-4319-4a4a-8767-0b1373cec9ce
-https://www.economicliberties.us/big-tech-merger-tracker/
-https://www.reuters.com/technology/microsoft-agreed-pay-inflection-650-mln-while-hiring-its-staff-information-2024-03-21/
-https://www.reuters.com/technology/artificial-intelligence/google-hires-characterai-cofounders-licenses-its-models-information-reports-2024-08-02/
-https://www.cnbc.com/2024/06/28/amazon-hires-execs-from-ai-startup-adept-and-licenses-its-technology.html
-https://www.semafor.com/article/08/02/2024/investors-in-adept-ai-will-be-paid-back-after-amazon-hires-startups-top-talent
-https://www.theverge.com/openai/705999/google-windsurf-ceo-openai
-https://m.economictimes.com/tech/technology/ai-startups-swap-independence-for-big-techs-deep-pockets/articleshow/112082129.cms
-https://www.ft.com/content/b7037ce1-4319-4a4a-8767-0b1373cec9ce
-https://www.economicliberties.us/big-tech-merger-tracker/
-https://www.reuters.com/technology/microsoft-agreed-pay-inflection-650-mln-while-hiring-its-staff-information-2024-03-21/
-https://www.reuters.com/technology/artificial-intelligence/google-hires-characterai-cofounders-licenses-its-models-information-reports-2024-08-02/
-https://www.cnbc.com/2024/06/28/amazon-hires-execs-from-ai-startup-adept-and-licenses-its-technology.html
-https://www.semafor.com/article/08/02/2024/investors-in-adept-ai-will-be-paid-back-after-amazon-hires-startups-top-talent