โอกาสลงทุนครั้งใหม่กับหุ้นกู้ CPF ดอกเบี้ย 2.70% - 3.10% ต่อปี พร้อมให้สิทธิผู้ถือหุ้นกู้ CPF ได้จองซื้อก่อน โดยเริ่มจองวันแรก 25 ก.ค. และผู้ลงทุนทั่วไปเริ่ม 5 ส.ค. นี้

โอกาสลงทุนครั้งใหม่กับหุ้นกู้ CPF ดอกเบี้ย 2.70% - 3.10% ต่อปี พร้อมให้สิทธิผู้ถือหุ้นกู้ CPF ได้จองซื้อก่อน โดยเริ่มจองวันแรก 25 ก.ค. และผู้ลงทุนทั่วไปเริ่ม 5 ส.ค. นี้

ข่าวประชาสัมพันธ์..
โอกาสลงทุนครั้งใหม่กับหุ้นกู้ CPF ดอกเบี้ย 2.70% - 3.10% ต่อปี พร้อมให้สิทธิผู้ถือหุ้นกู้ CPF ได้จองซื้อก่อน โดยเริ่มจองวันแรก 25 ก.ค. และผู้ลงทุนทั่วไปเริ่ม 5 ส.ค. นี้
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF ผู้ดำเนินธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารแบบครบวงจร ภายใต้วิสัยทัศน์ “ครัวของโลก” เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ จำนวน 2 รุ่น ได้แก่
• หุ้นกู้อายุ 7 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2.70% ต่อปี และ
• หุ้นกู้อายุ 10 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.10% ต่อปี
ชำระดอกเบี้ยทุก 6 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ และแบ่งการจองซื้อหุ้นกู้ออกเป็น 3 ช่วง ดังนี้
ช่วงที่ 1 วันที่ 25 และ 29 กรกฎาคม 2568 สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นกู้ CPF257A
ช่วงที่ 2 วันที่ 30 – 31 กรกฎาคม 2568 สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นกู้ปัจจุบันของ CPF ทุกรุ่น (รวมถึงผู้ถือหุ้นกู้ CPF257A) และ
ช่วงที่ 3 วันที่ 5 – 7 สิงหาคม 2568 สำหรับผู้ลงทุนทั่วไป (รวมถึงผู้ถือหุ้นกู้ CPF257A และ/หรือ ผู้ถือหุ้นกู้ปัจจุบันของ CPF ทุกรุ่น)
โดยผู้ถือหุ้นกู้ CPF257A สามารถจองซื้อหุ้นกู้ชุดใหม่และชำระเงินได้ทั้งช่วงที่ 1 ช่วงที่ 2 และช่วงที่ 3
และผู้ถือหุ้นกู้ CPF ชุดปัจจุบัน สามารถจองซื้อหุ้นกู้ชุดใหม่และชำระเงินได้ทั้งช่วงที่ 2 และช่วงที่ 3
ท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ และสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่อง การลงทุนในหุ้นกู้ CPF ชุดใหม่ ถือเป็นโอกาสสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการล็อคอัตราผลตอบแทนคงที่ตลอดอายุ 7 ปีหรือ 10 ปี ทั้งนี้ ผู้ลงทุนยังสามารถเลือกอายุตราสารให้เหมาะสมกับความต้องการและความเสี่ยงที่ยอมรับได้ โดยหุ้นกู้รุ่น 7 ปี จะเป็นตัวเลือกการลงทุนที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในระยะกลางพร้อมผลตอบแทนที่เหมาะสม ในขณะที่หุ้นกู้รุ่น 10 ปีจะเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนระยะยาวเพื่อผลตอบแทนที่สูงกว่า
นอกจากนี้ อุตสาหกรรมอาหารยังถือเป็นปัจจัยพื้นฐานสำหรับผู้บริโภคในทุกสภาวะเศรษฐกิจ ทำให้หุ้นกู้ CPF เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนและกระจายความเสี่ยงไปยังหุ้นกู้ของบริษัทชั้นนำ ที่มีความมั่นคงและได้รับการยอมรับในระดับสากล
ปัจจุบัน CPF ดำเนินธุรกิจครบวงจรทั้งในและต่างประเทศ ครอบคลุมตั้งแต่การผลิตอาหารสัตว์ การเลี้ยงสัตว์ การแปรรูปเนื้อสัตว์ การผลิตอาหารสำเร็จรูป ไปจนถึงธุรกิจร้านอาหาร ภายใต้การดำเนินงานที่ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในทุกขั้นตอนของห่วงโซ่อุปทาน แนวคิด “นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน” หรือ Sustainovation พร้อมตั้งเป้าหมายสู่การเป็นองค์กร Net Zero ภายในปี พ.ศ. 2593 (ค.ศ. 2050)
ในไตรมาส 1 ปี 2568 CPF มีรายได้จากการขายจำนวน 144,175 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนของกิจการต่างประเทศร้อยละ 62 และกิจการในประเทศไทยร้อยละ 38 และมีกำไรสุทธิจำนวน 8,549 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ลดต้นทุนตลอดห่วงโซ่อุปทาน และความเคร่งครัดของระบบป้องกันโรคในฟาร์มที่เข้มงวด ประกอบกับระดับราคาสุกรในหลายประเทศมีการปรับตัวขึ้นจากผลกระทบของโรคระบาดทำให้จำนวนเนื้อสัตว์ในตลาดมีน้อยกว่าปกติ ตลอดจนราคาวัตถุดิบอยู่ในฐานที่ยังไม่สูงเกินไป ซึ่งสะท้อนให้เห็นในผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง
นอกจากนี้ CPF และหุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ “A” จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 สะท้อนความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจของ CPF ในฐานะผู้นำธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารระดับโลก ด้วยฐานการผลิตที่กระจายตัวในหลายประเทศ และความหลากหลายในสินค้าและตลาด อีกทั้ง CPF ได้รับคัดเลือกเข้าเป็นสมาชิกในดัชนีความยั่งยืนระดับโลก อาทิ FTSE4Good Index Series, MSCI ESG Ratings และ Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) ซึ่งล้วนเป็นดัชนีที่สะท้อนถึงมาตรฐานการดำเนินธุรกิจตามแนวทางสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) เพื่อสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจควบคู่กับการรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้ CPF สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sec.or.th หรือติดต่อผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ดังต่อไปนี้
• ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (ยกเว้นสาขาไมโคร) โทร. 1333 หรือจองซื้อผ่านแอปฯ Bangkok Bank Mobile Banking
• ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา โทร. 02–111–1111 หรือจองซื้อออนไลน์บนแอปพลิเคชัน Krungthai Next ผ่านระบบ Money Connect by Krungthai สำหรับผู้ลงทุนที่เป็นบุคคลธรรมดา
• ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา โทร. 02–888–8888 กด 869 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน https://www.kasikornbank.com/kmyinvest (ยกเว้นบุคคลสัญชาติต่างด้าว และนิติบุคคล สามารถจองซื้อผ่านสำนักงานใหญ่และสาขา) และรวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) สำหรับการจอง การจัดจำหน่าย และการจัดสรรหุ้นกู้ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป
• ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) โทร. 02-777-6784 หรือจองซื้อทางออนไลน์ผ่านแอป SCB EASY และรวมถึง บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด* ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (*เสนอขายเฉพาะช่วงที่ 3)
• ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา หรือ โทร. 02–626–7777
• บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด โทร. 02–695–5555
• บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02–009–8351–56
• บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด โทร. 02–680–4004
• บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร.0-2658-5050
หรือผู้สนใจสามารถจองซื้อหุ้นกู้ผ่านแอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet ได้อีกทาง โดยสามารถศึกษาเพิ่มเติมถึงรายละเอียด ขั้นตอน และวิธีการสมัคร TrueMoney Wallet Application และวิธีการจองซื้อ พร้อมภาพตัวอย่างประกอบโดยสังเขปได้ที่เว็บไซต์ www.truemoney.com หรือติดต่อขอคำแนะนำเรื่องขั้นตอน และวิธีการสมัครจากเจ้าหน้าที่ของ บริษัท ทรู มันนี่ จำกัด โทร. 1240 กด 6
คำเตือน
1. โปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุน
2. ตลาดตราสารหนี้ในประเทศไทยมีสภาพคล่องต่ำ การขายตราสารในตลาดรองนั้นอาจได้รับมูลค่าขายตราสารลดลง หรือเพิ่มขึ้นได้ โดยขึ้นอยู่กับสภาวะและความต้องการของตลาดในขณะนั้น
3. อันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้เป็นเพียงข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนเท่านั้น มิใช่สิ่งชี้นำการซื้อขายตราสารหนี้ที่เสนอขาย และไม่ได้เป็นการรับประกันความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร และเมื่อผู้ออกหุ้นกู้หยุดจ่ายดอกเบี้ย (กรณีบริษัทไม่ได้แจ้งเลื่อนการจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้) หรือเงินต้น ก็เป็นการผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ (default) ซึ่งหากผู้ออกหุ้นกู้ประกาศล้มละลายหรือผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ ผู้ถือหุ้นกู้ และเจ้าหนี้อื่นของบริษัทผู้ออกหุ้นกู้จะมีบุริมสิทธิเหนือผู้ถือหุ้นสามัญของบริษัทผู้ออกหุ้นกู้ ในการประเมินความเสี่ยงด้านเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้ ผู้ลงทุนสามารถดูผลการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ หรือผู้ออกหุ้นกู้ (credit rating) ที่จัดทำโดยสถาบันจัดอันดับความเสี่ยง ประกอบการตัดสินใจลงทุนได้ ถ้า credit rating ของหุ้นกู้ หรือผู้ออกหุ้นกู้ต่ำ แสดงว่าความเสี่ยงด้านเครดิตของหุ้นกู้หรือผู้ออกหุ้นกู้สูง ผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนได้รับควรจะสูงด้วยเพื่อชดเชยความเสี่ยงที่สูงของหุ้นกู้ดังกล่าว

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

SPONSORED
© 2025 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon