Apple เตรียมลงทุนในสหรัฐฯ เพิ่มอีก 3.2 ล้านล้านบาท หลังทรัมป์ ขึ้นภาษีอินเดีย เพิ่ม 25% (รวมเป็น 50%)
มีรายงานว่า Apple เตรียมประกาศแผนลงทุนเพิ่มเติมอีก 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 3.2 ล้านล้านบาท ในภาคการผลิตภายในสหรัฐฯ
โดยจะมีการแถลงข่าวร่วมกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ทำเนียบขาว เวลา 16:30 น. ตามเวลาของสหรัฐฯ ในวันพุธนี้
หลังจากก่อนหน้านี้ Apple ได้ประกาศลงทุนในสหรัฐฯ ไปแล้วถึง 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 16 ล้านล้านบาท
ซึ่งรวมถึงความร่วมมือกับพันธมิตร เพื่อสร้างโรงงานผลิตเซิร์ฟเวอร์ AI ในรัฐเท็กซัส
ซึ่งรวมถึงความร่วมมือกับพันธมิตร เพื่อสร้างโรงงานผลิตเซิร์ฟเวอร์ AI ในรัฐเท็กซัส
ที่ผ่านมา รัฐบาลทรัมป์ ได้กดดัน Apple ให้ย้ายฐานการผลิต iPhone กลับมาที่สหรัฐฯ โดยถึงขั้นขู่ว่า จะเรียกเก็บภาษีนำเข้า 25% หาก Apple ไม่ยอมปฏิบัติตาม
อีกทั้งการประกาศเพิ่มการลงทุนของ Apple นี้ ยังเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมเรียกเก็บภาษีเพิ่มอีก 25% ต่อสินค้านำเข้าจากอินเดีย เหตุผลเพราะอินเดียยังไม่เลิกซื้อน้ำมันจากรัสเซีย
ทำให้อินเดียจะโดนสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีรวมเป็น 50% ซึ่งเป็นประเทศที่โดนภาษีทรัมป์สูงสุดในโลก..
ปัจจุบัน iPhone ที่วางขายในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ผลิตในประเทศอินเดีย หลังจาก Apple ได้ย้ายฐานการผลิตบางส่วนออกจากจีนในช่วงหลังการระบาดของ COVID-19
แต่สำหรับ iPhone ที่วางขายในตลาดอื่น ๆ ทั่วโลก ยังคงผลิตในประเทศจีน
ซึ่งทรัมป์วิจารณ์ Apple อย่างต่อเนื่องที่ยังคงผลิต iPhone ในต่างประเทศ โดยเขาเชื่อว่า Apple ควรนำการผลิตกลับมายังสหรัฐฯ
“ผมมีปัญหาเล็ก ๆ กับทิม คุก” ทรัมป์กล่าวเมื่อเดือนพฤษภาคม ถึงการตัดสินใจของ Apple ในการผลิต iPhone สำหรับตลาดสหรัฐฯ ในประเทศอินเดีย
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมต่างเห็นว่า การนำการผลิต iPhone กลับมาสหรัฐฯ นั้นเป็น “ภารกิจระดับเฮอร์คิวลีส” หรือยากลำบากมาก แม้แต่สำหรับ Apple เองก็ตาม
สาเหตุหลักคือ ขาดแคลนแรงงานฝีมือ และห่วงโซ่อุปทานในสหรัฐฯ ยังไม่พร้อม
แม้จะไม่มีอุปสรรคเหล่านี้ ก็ต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะสร้างโรงงานผลิต iPhone ได้เสร็จสมบูรณ์ ซึ่ง ณ เวลานั้น ทรัมป์ก็อาจจะไม่ได้อยู่ในตำแหน่งประธานาธิบดีแล้ว..
