
สรุปวิธีรับมือ ภาษีลงทุนนอกปี 2568 ครบทุกมิติ ในโพสต์เดียว
สรุปวิธีรับมือ ภาษีลงทุนนอกปี 2568 ครบทุกมิติ ในโพสต์เดียว /โดย ลงทุนแมน
- แม้ว่าช่วงนี้ จะยังไม่ถึงช่วงยื่นภาษีเงินได้ แต่สำหรับใครที่ลงทุนนอกประเทศ เช่น หุ้นสหรัฐฯ หุ้นจีน จำเป็นต้องรู้และเตรียมตัววางแผนไว้ก่อน เพราะหากถึงปลายปีอาจจะสายไปแล้ว และพบว่าต้องเสียภาษีจำนวนไม่น้อย
- แม้ว่าช่วงนี้ จะยังไม่ถึงช่วงยื่นภาษีเงินได้ แต่สำหรับใครที่ลงทุนนอกประเทศ เช่น หุ้นสหรัฐฯ หุ้นจีน จำเป็นต้องรู้และเตรียมตัววางแผนไว้ก่อน เพราะหากถึงปลายปีอาจจะสายไปแล้ว และพบว่าต้องเสียภาษีจำนวนไม่น้อย
- เริ่มต้นด้วยการรู้ว่า ลงทุนแบบไหน ที่ต้องเสียภาษี
1. ลงทุนแล้วได้ผลตอบแทน เช่น กำไรจากส่วนต่างราคา, เงินปันผล รวมถึงดอกเบี้ย นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2567 เป็นต้นไป
2. นําเงินกลับมาในประเทศไทย
3. อยู่ในประเทศไทย ตั้งแต่ 180 วันขึ้นไป
2. นําเงินกลับมาในประเทศไทย
3. อยู่ในประเทศไทย ตั้งแต่ 180 วันขึ้นไป
โดยเราจะเสียภาษีเมื่อทำครบทั้ง 3 ข้อนี้ หากขาดข้อใดข้อหนึ่ง จะไม่ต้องเสียภาษี
ข้อสังเกตคือ ข้อ 1 จะเห็นได้ว่ามีช่วงเวลากำหนดด้วย ดังนั้นหากเราเคยซื้อขายหุ้นแล้วได้กำไรก่อนหน้าช่วงเวลานั้น จะไม่ต้องเสียภาษีด้วยเช่นกัน
ส่วนข้อ 3 ก็ตรงตัว คือถ้าเราไม่อยู่ในไทยเป็นระยะเวลา 180 วัน ก็ไม่ต้องเสียภาษี
รวมถึงการทำสิ่งเหล่านี้ จะไม่ต้องเสียภาษีด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น
1. มีกำไรแล้ว แต่ไม่ขายหุ้น เช่น เรามีหุ้น NVIDIA แล้วราคาบวก 100,000 บาท ถ้าเรายังถือหุ้นต่อเพื่อหวังให้มันเติบโตต่อไปอีก อันนี้ไม่เสียภาษี
2. ได้กำไรและขายหุ้นแล้ว แต่ไม่แลกกลับมาเป็นบาท เช่น เรามีหุ้น Apple แต่ขายทำกำไร 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ ถ้าเงินก้อนนี้ยังไม่แลกกลับมาเป็นบาท ก็ไม่เสียภาษีเช่นกัน
3. ขาดทุน ซึ่งไม่ใช่ทางเลือกที่ดี แต่ก็นับว่าเป็นวิธีที่ไม่เสียภาษี
แต่.. การขาดทุนจะนับเป็นรายธุรกรรมเท่านั้น
นั่นหมายความว่า หากเราได้กำไรจากหุ้น Microsoft 10,000 บาท แต่ขาดทุนจากหุ้น Amazon 20,000 บาท ก็ยังต้องเสียภาษีจากกำไรหุ้น Microsoft โดยไม่สามารถนำผลขาดทุนของหุ้น Amazon มาหักล้างกันได้
ทั้งนี้กำไร-ขาดทุน จะคำนวณจาก “ราคาขาย” หักด้วย “ราคาทุน ณ วันที่ได้มา”
สําหรับการบันทึกต้นทุน เราสามารถเลือกใช้วิธีการทางบัญชีที่รับรองทั่วไปที่เหมาะสมแบบไหนก็ได้ ตั้งแต่ วิธี First-In, First-Out (FIFO) จนถึง Average Cost แต่ต้องไม่เปลี่ยนแปลงไปมา
4. นำเฉพาะส่วนเงินต้นกลับมา โดยเราต้องประเมินตนเองตามข้อเท็จจริง พร้อมเตรียมเอกสารประกอบ
5. ลงทุนในทางเลือกการลงทุนอื่น ๆ ที่คล้ายคลึงกัน แต่ไม่เสียภาษีหรือเสียภาษีน้อยกว่า ไม่ว่าจะเป็น
5.1 ลงทุนใน DR หรือกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ แทนการลงทุนในหุ้นหรือ ETF นั้นโดยตรง
5.2 ฝากเงินในบัญชี FCD แทนการลงทุนใน ETF พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ
5.3 ซื้อทองคำโดยตรง ผ่านการลงทุนใน GLD หรือ ETF ที่ลงทุนในทองคำ
จะเห็นได้ว่า บางวิธีไม่สามารถทำได้แล้ว หากเราทำสิ่งที่เข้าเกณฑ์ต้องเสียภาษี เช่น นำกำไรจากการขายหุ้นกลับไทย
นี่เลยเป็นเหตุผลว่า ทำไมเราควรรู้วิธีรับมือกับภาษีลงทุนต่างประเทศตั้งแต่เนิ่น ๆ นั่นเอง
- เข้าเกณฑ์เสียภาษีลงทุนต่างประเทศแล้ว ต้องเสียเท่าไร ?
ภาษีลงทุนต่างประเทศ จะคิดตาม “ฐานภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา”
ตัวอย่าง หากเราแลกเงินไปบัญชีต่างประเทศ 10,000 ดอลลลาร์สหรัฐ ต่อมาลงทุนหุ้นได้กำไร 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ แล้วเราตัดสินใจขายหุ้น แลกกลับมาเป็นบาททั้งหมด 15,000 ดอลลาร์สหรัฐ
ถึงตรงนี้ เงินจะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ เงินทุน + กำไร
โดยเงินส่วนที่จะนำมาคิดภาษีคือ กำไร
นั่นหมายความว่า 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ จะต้องนำมาคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยใช้อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่นำเงินได้เข้ามาในประเทศไทย
ถ้าตอนนั้น 1 ดอลลาร์สหรัฐ = 32 บาท
กำไรจากการลงทุนที่นำมาคิดภาษี = 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ x 32 = 160,000 บาท
จากตรงนี้ถ้าสังเกตจะพบว่า กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน ไม่ถูกนับมาคิดภาษีด้วย
ดังนั้นถ้าใครโอนเงินไปบัญชีต่างประเทศ และแลกกลับมาในช่วงที่เงินบาทอ่อน แล้วได้กำไรค่าเงิน จะไม่ต้องเสียภาษีเลย
ต่อมาเราได้กำไรจากการลงทุนแล้ว ก็นำมารวมรายได้ต่าง ๆ ของเรา เช่น เงินเดือน โอที โบนัส ที่หักค่าใช้จ่ายแล้ว
หลังจากนั้นนำไปหักกับค่าลดหย่อนต่าง ๆ จะได้ “เงินได้สุทธิ” เพื่อคำนวณภาษีแบบขั้นบันได
150,000 บาทแรก ไม่เสียภาษี
150,001 - 300,000 บาท อัตราภาษี 5%
300,001 - 500,000 บาท อัตราภาษี 10%
500,001 - 750,000 บาท อัตราภาษี 15%
750,001 - 1,000,000 บาท อัตราภาษี 20%
1,000,001 - 2,000,000 บาท อัตราภาษี 25%
2,000,001 - 5,000,000 บาท อัตราภาษี 30%
5,000,001 บาทขึ้นไป อัตราภาษี 35%
150,001 - 300,000 บาท อัตราภาษี 5%
300,001 - 500,000 บาท อัตราภาษี 10%
500,001 - 750,000 บาท อัตราภาษี 15%
750,001 - 1,000,000 บาท อัตราภาษี 20%
1,000,001 - 2,000,000 บาท อัตราภาษี 25%
2,000,001 - 5,000,000 บาท อัตราภาษี 30%
5,000,001 บาทขึ้นไป อัตราภาษี 35%
- คำถามที่หลายคนคงสงสัยคือ เงินปันผลโดนหักภาษี ณ ที่จ่ายไปแล้ว ต้องเสียเพิ่มหรือไม่ ?
กรมสรรพากรบอกแล้วว่าจะไม่มีภาษีซ้ำซ้อน หากเงินได้ที่นำเข้ามาในประเทศไทย ได้มีการเสียภาษีในต่างประเทศแล้ว สามารถนำภาษีที่เสียไว้ในต่างประเทศมาเครดิต หรือหักออกจากภาษีที่ต้องเสียในประเทศไทยได้
- ทั้งนี้เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับยื่นภาษีเงินได้ต่างประเทศ ได้แก่
1. เอกสารหลักฐานที่ยืนยันเงินได้จากการลงทุนในต่างประเทศ เช่น บันทึกการซื้อขายหลักทรัพย์ พร้อมวิธีการคำนวณกำไรต้นทุน และเอกสารรับผลตอบแทนต่าง ๆ เช่น เงินปันผล และดอกเบี้ย
เพื่อให้ข้อมูลสามารถใช้เป็นหลักฐานได้ดี คนลงทุนจะต้องมีระบบบันทึกข้อมูลการซื้อขายที่ชัดเจน ซึ่งจะทำด้วยตัวเองหรือใช้เครื่องมือของโบรกเกอร์ก็ได้
2. เอกสารทางภาษีที่เกี่ยวข้อง เช่น ใบรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย
3. เอกสารเกี่ยวกับอนุสัญญาภาษีซ้อน ที่ประเทศไทยทำกับประเทศที่นักลงทุนไปลงทุน
- ภาษีลงทุนต่างประเทศปีต่อ ๆ ไป จะเหมือนปี 2568 หรือไม่ ?
คำตอบคือ อาจจะไม่เหมือนกัน..
เพราะตอนนี้กรมสรรพากรอยู่ระหว่างการพิจารณายกร่างพระราชกฤษฎีกา เพื่อแก้ไขหลักเกณฑ์การจัดเก็บภาษีเงินได้จากต่างประเทศ
โดยจะกำหนดให้ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ให้กับคนไทยที่มีรายได้ในต่างประเทศ
ถ้านำเงินเข้ามาในประเทศภายในปีที่เกิดรายได้หรือปีถัดไป จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่หากนำเข้ามาหลังจากนั้นจะมีการจัดเก็บภาษีตามปกติ
เพื่อสนับสนุนให้คนไทยที่มีรายได้จากต่างประเทศ นำเงินกลับเข้ามาลงทุนในประเทศ และการจัดเก็บภาษีเงินได้ที่เกิดในต่างประเทศ
โดยสรุปหลักเกณฑ์ใหม่แบบง่าย ๆ คือ
- นำเงินกลับภายใน 2 ปี = ไม่เสียภาษี
- นำเงินกลับเกิน 2 ปี = เสียภาษี
- นำเงินกลับเกิน 2 ปี = เสียภาษี
อย่างไรก็ตาม หลักเกณฑ์นี้ก็ยังไม่ได้คอนเฟิร์ม ดังนั้นภาษีลงทุนต่างประเทศ จึงยังเป็นประเด็นที่เราต้องคอยติดตามต่อไป
แต่ที่แน่ ๆ ใครที่ลงทุนแล้วได้กำไร ต้องเริ่มวางแผนภาษีตอนนี้ได้แล้ว..
แต่ที่แน่ ๆ ใครที่ลงทุนแล้วได้กำไร ต้องเริ่มวางแผนภาษีตอนนี้ได้แล้ว..
References
-https://www.setinvestnow.com/th/knowledge/article/482-tsi-foreign-sourced-investment-tax-in-thailand
-https://www.rd.go.th/fileadmin/download/news/question_p161_162.pdf?fbclid=IwY2xjawL9YSxleHRuA2FlbQIxMABicmlkETFSajZTTERIbURYV0tDWlZIAR5IL9oI5CV6DmOul1bqFrPV-VILNC_pdMWFy_QoRAYcHUYVCEf1mVaZysWrug_aem_0UHdXeiDxupBODLu5bJqgA
-https://www.prachachat.net/prachachat-top-story/news-1813785
-https://www.setinvestnow.com/th/knowledge/article/482-tsi-foreign-sourced-investment-tax-in-thailand
-https://www.rd.go.th/fileadmin/download/news/question_p161_162.pdf?fbclid=IwY2xjawL9YSxleHRuA2FlbQIxMABicmlkETFSajZTTERIbURYV0tDWlZIAR5IL9oI5CV6DmOul1bqFrPV-VILNC_pdMWFy_QoRAYcHUYVCEf1mVaZysWrug_aem_0UHdXeiDxupBODLu5bJqgA
-https://www.prachachat.net/prachachat-top-story/news-1813785