สะพานควาย จากทุ่งนา สู่ย่านการค้า และทำเลแห่งคอนโด
สะพานควาย จากทุ่งนา สู่ย่านการค้า และทำเลแห่งคอนโด /โดย ลงทุนแมน
“สะพานควาย” หนึ่งในย่านเก่าแก่ของกรุงเทพฯ ที่ไม่มีควายเหลืออยู่แล้วในวันนี้
“สะพานควาย” หนึ่งในย่านเก่าแก่ของกรุงเทพฯ ที่ไม่มีควายเหลืออยู่แล้วในวันนี้
โดยในปัจจุบัน ย่านสะพานควาย เต็มไปด้วยชุมชนที่อยู่อาศัย ร้านอาหาร ศูนย์การค้า มีสถานีรถไฟฟ้า และล่าสุดกับการเป็นหมุดหมายสำคัญของบรรดาคอนโดมิเนียม
แต่หากลองมองย้อนกลับไปในอดีตนั้น รู้หรือไม่ว่า ก่อนจะมีวันนี้นั้น ย่านสะพานควาย เคยผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายรอบ มีทั้งจุดที่รุ่งเรืองและซบเซา
เปลี่ยนผ่านหลายรูปแบบทั้งย่านเกษตรกรรม ย่านคมนาคม ย่านชุมชน และย่านการค้า
เส้นทางของสะพานควายเป็นมาอย่างไร ?
แล้วอะไร ทำให้สะพานควาย เปลี่ยนโฉมมาได้ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
แล้วอะไร ทำให้สะพานควาย เปลี่ยนโฉมมาได้ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ในอดีตย่านสะพานควาย เป็นเพียงย่านชานเมืองที่มีสภาพเป็นทุ่งนาและป่า ไปจนถึงคูคลองจำนวนมาก เรียกกันว่า ทุ่งศุภราช
โดยเป็นตลาดค้าขายวัวควาย ที่บรรดาพ่อค้าจากภาคอีสานหรือที่เรียกกันว่า “นายฮ้อย” นำเข้ามาขายให้กับชาวนาในกรุงเทพฯ
ด้วยความที่พื้นที่มีลักษณะเป็นคูน้ำ ทำให้ต้องมีการสร้างสะพาน เพื่อให้วัวควายเหล่านี้คอยข้ามคูคลองได้อย่างสะดวก จึงเป็นที่มาของชื่อ “สะพานควาย” นั่นเอง
ต่อมาเมื่อยุคสมัยเปลี่ยน สังคมเมืองเริ่มขยายใหญ่ขึ้น
มีการตัดถนนพหลโยธินเพื่อเชื่อมต่อกรุงเทพฯ ไปยังภาคเหนือ รวมถึงถนนประดิพัทธ์ ซึ่งจุดตัดของถนนทั้งสองสายนี้ ก็คือสี่แยกสะพานควาย
ภาพทุ่งนาและคูคลองในอดีต จึงเริ่มหายไปตามกาลเวลา..
การมีถนนหนทาง ทำให้การคมนาคมสะดวกมากขึ้น และทำให้พื้นที่โดยรอบถูกพัฒนาขึ้นด้วย ซึ่งนี่คือจุดเริ่มต้นการเติบโตของย่านสะพานควาย
โดยมีการก่อสร้างอาคารบ้านเรือนในพื้นที่ จนเกิดเป็นชุมชน และเมื่อมีชุมชน ก็มีตลาดและร้านค้าตามมา
รวมถึงมีการก่อสร้างโรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล (ปัจจุบันคือ โรงพยาบาลพญาไท พหลโยธิน) โรงพยาบาลเอกชนแห่งแรก ๆ ที่ให้บริการทางการแพทย์อย่างครบวงจร
นั่นทำให้ย่านสะพานควาย กลายมาเป็นชุมทางรถเมล์ที่สำคัญแห่งหนึ่งในเวลานั้น โดยลบภาพจำของความเป็นทุ่งนาไปโดยปริยาย
นอกจากนี้ สะพานควายในเวลานั้น ยังเป็นศูนย์รวมโรงภาพยนตร์รูปแบบ Stand-Alone จำนวนมาก เช่น พหลโยธินรามา (หรือ พหลเธียเตอร์), ประดิพัทธ์เธียเตอร์ และเฉลิมสิน
ก่อนที่ย่านสะพานควาย จะเริ่มเข้าสู่ยุคทอง จากการมาของเมอร์รี่คิงส์ ในปี 2528 ที่เปรียบเหมือนราชาแห่งย่านสะพานควาย ตามมาด้วยบรรดาร้านค้า ร้านอาหารมากมาย
ส่งผลให้สะพานควาย กลายเป็นจุดศูนย์รวมของวัยรุ่นในยุคนั้นอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นย่านสะพานควายก็เริ่มเข้าสู่ขาลง ทั้งจากวิกฤติต้มยำกุ้งในช่วงปี 2540 และการเติบโตในย่านอื่น ๆ ของกรุงเทพฯ ที่กลายมาเป็นคู่แข่ง
นอกจากนี้ การมาของรถไฟฟ้า BTS ทำให้ย่านสะพานควาย เปลี่ยนจาก “จุดหมายปลายทาง” เป็น “ทางผ่าน” ไปยังทำเลอื่น ๆ โดยคนจากด้านเหนือก็สามารถเข้าไปยังย่านใจกลางเมืองได้โดยตรง
ทำให้ห้างร้านต่าง ๆ ปิดตัวไปเป็นจำนวนมาก รวมถึงบรรดาโรงภาพยนตร์ ที่ถูกทดแทนด้วยโรงภาพยนตร์ยุคใหม่ ซึ่งเปิดตามศูนย์การค้า
ย่านสะพานควายซบเซาลง จนทำให้แม้แต่ราชาอย่างเมอร์รี่คิงส์ ยังไปไม่รอด
อย่างไรก็ตาม แม้จะหมดยุคทองไปแล้ว แต่เสน่ห์บางอย่างของย่านสะพานควาย ก็ยังไม่หายไปตามกาลเวลา
เพราะด้วยทำเลที่อยู่ใกล้กับอารีย์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของแหล่งออฟฟิศ ทำให้ย่านสะพานควาย เป็นที่ตั้งของร้านอาหาร และคาเฟจำนวนมาก
ขณะที่ถนนประดิพัทธ์ ก็กลายเป็นแหล่ง Street Food ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง รองรับผู้คนในย่านนั้น
แล้วย่านสะพานควายเป็นอย่างไรในวันนี้ ?
นอกจากการมีร้านอาหารมากมาย ศูนย์การค้าอย่าง Big C สะพานควาย และโรงพยาบาลพญาไท พหลโยธิน ที่เป็น Ecosystem ในพื้นที่แล้ว
ทำเลของสะพานควาย ก็ถือว่าแทบไม่เป็นรองใคร โดยแวดล้อมไปด้วยระบบขนส่งมากมาย ทั้งรถไฟฟ้า BTS และสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (บางซื่อ) ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลกันมากนัก
ในขณะเดียวกันก็สามารถเดินทางไปยังสนามบินหลักทั้ง 2 แห่ง อย่างสุวรรณภูมิ และดอนเมืองได้ไม่ยาก ผ่านระบบรถไฟฟ้าและทางด่วนที่อยู่ไม่ไกล
ทำให้ผู้คนที่อยู่อาศัยในบริเวณนี้ มีความสะดวกสบายอย่างมาก
และยังทำให้ย่านสะพานควาย กลายเป็นหมุดหมายสำคัญของเหล่าผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ อย่างคอนโดมิเนียม
โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นมากมายในย่านนี้ ซึ่งทำให้ย่านสะพานควาย กลับมาคึกคักอีกครั้ง
จากทุ่งนาค้าขายวัวควายในอดีต ผ่านยุครุ่งเรือง และโรยรามาหลายครั้ง จนในวันนี้ แม้ไม่มีภาพทุ่งนา หรือวัวควายเหลืออยู่ในพื้นที่แล้ว
แต่ย่านสะพานควาย ก็กลับมาเฉิดฉายได้อีกครั้ง ในฐานะย่านทำเลแห่งคอนโดมิเนียม..
