City Dynamic x ลงทุนแมน

หนึ่งในเสน่ห์ของการลงทุนอสังหาฯ คือ การมีอยู่จำกัด ความเจริญของเมือง ทำให้การใช้ประโยชน์ที่ดินต้องเกิดความคุ้มค่ามากที่สุด สิ่งที่ตามมาคือ พื้นที่สีเขียวกลางเมืองที่มีจำกัดและหายากขึ้นเรื่อย ๆ

ดังนั้น จึงไม่แปลกที่พื้นที่สีเขียวอย่างสวนสาธารณะขนาดใหญ่ในกรุงเทพฯ จะกลายเป็นจุดขายสำคัญ ยิ่งถ้าเป็นโครงการบนแปลงที่ดิน Freehold ที่ผู้ถือครองที่ดินมีสิทธิ์ครอบครองที่ดินแบบถาวรด้วยแล้ว ก็ยิ่งช่วยให้โครงการนั้น ๆ โดดเด่นมากขึ้น

สิ่งที่หลายคนยังไม่รู้คือ ล่าสุดมีที่ดินแปลงหนึ่งบนถนนวิทยุ กำลังมี 2 ยักษ์ใหญ่จากฮ่องกงและไทย ร่วมมือกันพัฒนาโครงการอสังหาฯ ระดับ Ultra Luxury ที่มองเห็นวิวได้ทั้งสวนลุมพินีและสวนเบญจกิติ

ความน่าสนใจของเรื่องนี้เป็นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

ก่อนหน้านี้ในปี 2566 ถ้าใครติดตามข่าวสารด้านอสังหาฯ ในประเทศไทย คงเคยได้ยินข่าวถึงทุนฮ่องกงที่คว้าที่ดิน Freehold มูลค่ากว่า 2.4 พันล้านบาท ในย่านถนนวิทยุไว้ได้

ปัจจุบันนี้ แปลงที่ดินผืนงามนั้น กำลังถูกพัฒนาให้กลายเป็นโครงการอสังหาฯ ระดับ Ultra Luxury ในนามของบริษัท ซิตี้ ไดนามิค จำกัด ที่เกิดจากการร่วมทุนระหว่าง สไวร์ พร็อพเพอร์ตี้ส์ จากฮ่องกง และซิตี้ เรียลตี้ ผู้นำตลาดอสังหาฯ เมืองไทย

หลายคนคงสงสัยว่า “สไวร์ พร็อพเพอร์ตี้ส์” คือใคร ?

จริง ๆ แล้วบริษัทนี้ถูกก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2515 ที่ฮ่องกง โดยอยู่ภายใต้กลุ่มธุรกิจ Swire ที่มีการดำเนินธุรกิจมากว่า 150 ปี และสไวร์ พร็อพเพอร์ตี้ส์กลายมาเป็นผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ ค้าปลีก โรงแรม และที่พักอาศัย โดยมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสในทำเลศักยภาพสูงมาตลอด

ตัวอย่างโครงการพลิกโฉมวงการอสังหาริมทรัพย์มาแล้วในหลายประเทศ เช่น

- ห้างสรรพสินค้าระดับหรู Pacific Place มิกซ์ยูสคอมเพลกซ์ชั้นนำใจกลางเมือง สถานีรถไฟฟ้า Admiralty
- The Upper House ซึ่งติด 5 อันดับแรกของ The World’s 50 Best Hotels ประจำปี 2566 และ 2567
- โครงการที่พักอาศัยระดับโลกอย่าง OPUS HONG KONG ผลงานการออกแบบของ แฟรงก์ เกห์รี (Frank Gehry)

นอกจากนี้ สไวร์ พร็อพเพอร์ตี้ส์ ยังเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน หรือ Sustainability โดยติดอันดับ 1 ในอุตสาหกรรมการบริหารและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ จาก Dow Jones Sustainability Index 2024 (DJSI) เป็นต้น

เบื้องหลังที่คุณทิม แบล็คเบิร์น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สไวร์ พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด ขยายธุรกิจเข้ามาในประเทศไทย มาจากปัจจัยสำคัญหลากหลายประการ คือ

ข้อที่ 1 โอกาสจากศักยภาพของ กรุงเทพฯ
ที่มองว่า กรุงเทพฯ เป็นหนึ่งในตลาดที่น่าจับตามองที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ข้อที่ 2 โอกาสที่หาได้ยากในการพัฒนาพื้นที่ Freehold ใจกลางเมือง
ซึ่งในครั้งนี้ได้คว้าแปลงที่ดินขนาดกว่า 7.9 ไร่ (12,652 ตร.ม.) ที่มีมูลค่ากว่า 2.4 พันล้านบาท ที่สามารถพัฒนาขึ้นเป็นโครงการที่สามารถรับวิวได้ทั้งจากทั้งสวนลุมพินีและสวนเบญจกิติ

ข้อที่ 3 โอกาสการลงทุนที่สอดคล้องกับแนวคิดธุรกิจ
ภายใต้แนวคิด Creative Transformation เน้นการพัฒนาโครงการเพื่อพลิกโฉมเมืองอย่างสร้างสรรค์

ที่น่าสนใจก็คือ การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยระดับหรูในกรุงเทพฯ ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ สไวร์ พร็อพเพอร์ตี้ส์ มองว่า นอกจากการตอกย้ำความสร้างสรรค์โครงการที่อยู่อาศัยสุดพิเศษแล้ว ยังหมายรวมถึง ความหมายของนิยามคำว่า “การอยู่อาศัยแบบลักชัวรี ไลฟ์สไตล์กรุงเทพฯ” อีกด้วย

ทีนี้ ลองมาทำความรู้จักฝั่งพาร์ตเนอร์ไทยที่มีชื่อว่า “ซิตี้ เรียลตี้” กันบ้าง..

บริษัท ซิตี้ เรียลตี้ จำกัด ถูกก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2530 โดยมีสมาชิกตระกูลโสภณพนิชเป็นผู้ถือหุ้นหลัก ภายใต้การบริหารของ คุณชาลี โสภณพนิช

ตลอดเวลากว่า 38 ปีที่ผ่านมา ก็ได้พัฒนาโครงการพรีเมียมทั้งในประเทศและต่างประเทศมาแล้วมากมาย

ตัวอย่างโครงการที่คนไทยรู้จักกันอย่างดีเลยก็เช่น

- โครงการมิกซ์ยูส Emporium Tower & Shopping Complex
- อาคารสำนักงาน เช่น Sathorn City Tower, Asia Centre
- แคมปัสของโรงเรียนนานาชาติ Shrewsbury International School Bangkok

ซึ่งทางคุณชาลี โสภณพนิช กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ซิตี้ เรียลตี้ จำกัด มองว่า ที่ดินผืนงามในทำเลศักยภาพแห่งนี้อยู่กับบริษัทมายาวนาน และเฝ้ารอเวลาที่เหมาะสม เพื่อพัฒนาโครงการที่ดีที่สุด

ดังนั้นแน่นอนเลยว่า การจับมือกับสไวร์ พร็อพเพอร์ตี้ส์ จึงเป็นก้าวสำคัญในการผสานประสบการณ์และความเชี่ยวชาญระหว่าง 2 บริษัทชั้นนำจาก 2 ประเทศ เพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยหรูระดับ Ultra Luxury ให้กับประเทศไทย

ถึงตรงนี้พูดได้ว่า สไวร์ พร็อพเพอร์ตี้ส์ จากฮ่องกง และซิตี้ เรียลตี้ จากไทย ถือเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจยักษ์ใหญ่ด้านอสังหาฯ ที่มีความสมน้ำสมเนื้อกันอย่างดี

แล้วโครงการโปรเจกต์อสังหาฯ Ultra Luxury ย่านวิทยุครั้งนี้ น่าสนใจแค่ไหน ?

โครงการ Freehold แห่งนี้ ตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 7.9 ไร่ หรือราว 12,652 ตารางเมตร ที่อยู่ใจกลางย่านธุรกิจสำคัญของกรุงเทพฯ บนถนนวิทยุ

ประกอบด้วยอาคารที่พักอาศัย High-Rise 2 โครงการ ด้วยดีไซน์การออกแบบแตกต่างกัน โดยบริษัทที่ปรึกษาสถาปนิกระดับโลก Foster + Partners ที่ดำเนินงานผ่านบริษัทย่อยในประเทศไทย ได้แก่ บริษัท เอฟแอนด์พี (ประเทศไทย) จำกัด โดยใส่ใจในทุกรายละเอียด เพื่อมอบประสบการณ์และไลฟ์สไตล์การพักอาศัยที่เหนือระดับให้แก่ผู้อยู่อาศัย

แน่นอนว่า โครงการนี้ ต้องครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกระดับ World Class, พื้นที่เวลเนสครบวงจรตอบโจทย์ลักชัวรีไลฟ์สไตล์

ที่สำคัญเลยก็คือ โครงการนี้ยังตั้งอยู่บนหนึ่งในที่ดิน Freehold ผืนงามที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่แห่งบนถนนวิทยุ ซึ่งหาได้ยาก และมีมูลค่าสูง พูดได้ว่าเป็นโอกาสการลงทุนศักยภาพอนาคตที่มองหาโอกาสสร้างมูลค่าเพิ่มระยะยาว

นอกจากนี้ ทำเลวิทยุ ยังได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในที่สุดของทำเลไพรม์สุดเอกซ์คลูซิฟ ที่อยู่ใจกลางกรุงเทพฯ ด้วยเสน่ห์เฉพาะตัวที่หาจากที่ไหนไม่ได้ เช่น

- การโอบล้อมด้วยแลนด์มาร์ก ความสงบร่มรื่น ดื่มด่ำกับวิวสวนลุมพินีและสวนเบญจกิติ แบบพาโนรามา
- ความสะดวกสบายจากแหล่งไลฟ์สไตล์ระดับไฮเอนด์ ทั้งศูนย์การค้า, โรงแรมห้าดาว, โรงเรียนนานาชาติ และสถานทูต

ทั้งหมดนี้คือ เบื้องหลังโปรเจกต์อสังหาฯ Ultra Luxury ย่านวิทยุที่กำลังจะเกิดขึ้นในประเทศไทย

คงต้องติดตามกันต่อไปว่า โครงการนี้จะแล้วเสร็จเมื่อไร
แต่ที่แน่ ๆ คงเป็นอีกหนึ่งโครงการที่จะช่วยยกมาตรฐานไทยเทียบเท่า World Class ได้อย่างแน่นอน..

สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับทั้งสองบริษัทได้ที่เว็บไซต์
www.cityrealty.co.th และ www.swireproperties.com