
ราคาทองคำ อีกหนึ่งตัวละครลับ ที่อาจทำให้ เงินบาทแข็งค่า
ช่วงนี้ เงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง และวันนี้วิ่งไปแตะที่ระดับ 31.80 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเราเห็นตัวเลขนี้ ครั้งสุดท้าย เมื่อกว่า 4 ปีที่ผ่านมา
สิ่งหนึ่งที่เราอาจรู้กันแล้วคือ นักลงทุนเก็งว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุมที่กำลังจะมาถึง หลังมีข้อมูลบ่งชี้ถึงภาวะตลาดแรงงานในสหรัฐฯ ที่อ่อนแอ
ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลงไปเทสจุดต่ำสุดในรอบกว่า 6 สัปดาห์ ในศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นแรงหนุนต่อค่าเงินบาท
แต่เรื่องที่น่าสนใจกว่านั้นคือ วันนี้ เงินดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลงต่อไม่มาก แต่กลับกลายเป็นว่า เงินบาทยังคงแข็งค่าขึ้นไม่หยุด
โดยการเคลื่อนไหวของสกุลเงินต่าง ๆ เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในวันที่ 8 ก.ย. (ณ 18:30 น.)
เงินบาท (USDTHB) แข็งค่าขึ้น 0.83%
เงินริงกิต (USDMYR) แข็งค่าขึ้น 0.06%
เงินหยวน (USDCNY) แข็งค่าขึ้น 0.04%
ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) อ่อนค่าลง 0.11%
เงินดอง (USDVND) อ่อนค่าลง 0.15%
ค่าเงินวอน (USDKRW) อ่อนค่าลง 0.21%
เงินเยน (USDJPY) อ่อนค่าลง 0.22%
เงินริงกิต (USDMYR) แข็งค่าขึ้น 0.06%
เงินหยวน (USDCNY) แข็งค่าขึ้น 0.04%
ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) อ่อนค่าลง 0.11%
เงินดอง (USDVND) อ่อนค่าลง 0.15%
ค่าเงินวอน (USDKRW) อ่อนค่าลง 0.21%
เงินเยน (USDJPY) อ่อนค่าลง 0.22%
หรือก็คือวันนี้ เงินบาท กลายเป็นสกุลเงินชาติเอเชีย ที่แข็งค่ามากที่สุด เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ แม้เป็นช่วงเวลา ที่จะประจวบเหมาะกับสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ ที่คลี่คลายลง อันมีส่วยช่วยบรรเทามุมมองเชิงลบต่อเศรษฐกิจไทยลงบ้าง แต่นั่นไม่น่าทำให้เงินบาทสามารถแข็งค่าได้มากขนาดนี้
มาถึงตรงนี้ หลายคนก็คงจะสงสัยแล้วว่า อะไรที่ทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นได้มากขนาดนี้ ?
หนึ่งปัจจัยที่ถูกจับตาว่า มีส่วนทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น คือ “ราคาทองคำ”
เมื่อพิจารณาจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ ในวันนี้ พบว่า มีการพุ่งขึ้นทำจุดสูงสุดตลอดกาลครั้งใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นทิศทางเดียวกับค่าเงินบาท ที่แข็งค่าขึ้นเช่นกัน
ราคาทองคำ ปรับตัวขึ้นราว 0.84%
เงินบาท (USDTHB) แข็งค่าขึ้น 0.83%
เงินบาท (USDTHB) แข็งค่าขึ้น 0.83%
หนึ่งในตัวชี้วัดที่อธิบายเหตุการณ์นี้คือ ค่าสหสัมพันธ์ (Correlation coefficient) ระหว่างเงินบาทและราคาทองคำ
โดยค่าดังกล่าวจะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง
ฝั่งแรก 0 ถึง -1
บอกการเคลื่อนในทิศทางตรงกันข้าม
บอกการเคลื่อนในทิศทางตรงกันข้าม
ส่วนอีกฝั่ง 0 ถึง 1
บอกการเคลื่อนในทิศทางเดียวกัน
บอกการเคลื่อนในทิศทางเดียวกัน
ในช่วงเดือน มี.ค. ของปีนี้ ข้อมูลจาก Bloomberg บ่งชี้ว่า เงินบาท มีค่าสหสัมพันธ์กับทองคำ เฉลี่ยที่ราว 0.6 ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุด ในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ (Emerging markets : EMs)
ค่าดังกล่าวบอกเราว่า เงินบาทเคลื่อนไหวไปกับทิศทางราคาทองคำที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง และแข็งแกร่งมากกว่า ค่าเงินสกุลอื่นในกลุ่มประเทศ EMs ด้วยกัน
ยิ่งไปกว่านั้น Bloomberg เปิดเผยข้อมูลหลังจากนั้นว่า เงินบาทมีค่าสหสัมพันธ์กับราคาทองคำที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากช่วงเดือน มี.ค.
โดยข้อมูลล่าสุดพบว่า ค่าสหสัมพันธ์อาจสูงกว่าระดับ 0.70 นับตั้งแต่ช่วงกลางเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา
ส่วนสาเหตุที่ทำให้เงินบาทเคลื่อนไหวไปกับราคาทองคำ ถูกตั้งข้อสังเกตไว้ว่า
เวลาที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นสูง นักลงทุนและผู้ประกอบการไทย จะขายทองคำทำกำไรในตลาดโลก
เมื่อกำไรที่ได้ถูกแปลงกลับมาเป็นสกุลเงินบาท จึงมีโฟลว์เงินไหลเข้าสุทธิที่เพิ่มขึ้น ทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น
เมื่อกำไรที่ได้ถูกแปลงกลับมาเป็นสกุลเงินบาท จึงมีโฟลว์เงินไหลเข้าสุทธิที่เพิ่มขึ้น ทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น
ขณะเดียวกัน ผู้ค้าทองที่ทำสัญญาซื้อทองคำไว้ล่วงหน้าหรือรับคำสั่งซื้อทองคำของลูกค้ามาไว้ก่อน
เมื่อราคาทองปรับตัวสูงขึ้น สิ่งหนึ่งที่ต้องทำคือ พยายามล็อกต้นทุนด้านราคา เช่น การซื้อฟอร์เวิร์ด เพื่อให้ใช้เงินบาทซื้อราคาทองคำได้ถูกที่สุด
ซึ่งการเร่งล็อกค่าเงินบาทในตลาดล่วงหน้า สามารถส่งผลให้ค่าเงินบาทในตลาดปัจจุบันแข็งค่าขึ้นตาม
ทั้งนี้ทั้งนั้น ค่าสหสัมพันธ์ยังไม่สามารถตอบตรง ๆ ได้ว่า ราคาทองคำ เป็นต้นเหตุที่ทำให้เงินบาทแข็งจริงหรือไม่
เพียงแต่บอกเราได้แน่ ๆ ว่า ทุกครั้งที่ราคาทองคำสูงขึ้น เงินบาทมีโอกาสแข็งค่าขึ้นเช่นกัน
สอดคล้องกับข้อมูลจากหลักทรัพย์เกียรตินาคิน (KKPS) ที่ชี้ว่า ราคาทองคำและดัชนีค่าเงินบาท (NEER) มีการเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน ตลอดช่วงที่พิจารณา หรือตั้งแต่ปี 2005
ซึ่งสถานการณ์แบบนี้ คงไม่ใช่เรื่องดีต่อเศรษฐกิจไทยเท่าไรนัก เพราะเท่ากับเงินบาท สามารถแข็งค่าขึ้นได้ โดยไม่สะท้อนภาวะเศรษฐกิจจริงของประเทศ
อย่างที่เราเห็นได้ในช่วงที่ผ่านมาว่า เงินบาทแข็ง ทั้งที่เศรษฐกิจไทยเติบโตต่ำสุดในสุดในภูมิภาค
การปล่อยให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นโดยไม่อิงกับพื้นฐานทางเศรษฐกิจ อาจยิ่งซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจเข้าไปอีก..
References
-https://amro-asia.org/wp-content/uploads/dlm_uploads/2020/10/AMRO-Market-Insights_The-Thai-Baht-and-Gold-v2_Oct-02-2020.pdf
-https://www.bloomberg.com/news/articles/2025-03-11/thai-baht-s-gold-fueled-rally-is-now-at-risk-strategists-say
-https://www.bloomberg.com/news/articles/2025-07-16/thb-usd-thailand-seeks-ways-to-curb-gold-price-impact-on-currency
-https://www.youtube.com/watch?v=_4LrCCD8j9E
-https://amro-asia.org/wp-content/uploads/dlm_uploads/2020/10/AMRO-Market-Insights_The-Thai-Baht-and-Gold-v2_Oct-02-2020.pdf
-https://www.bloomberg.com/news/articles/2025-03-11/thai-baht-s-gold-fueled-rally-is-now-at-risk-strategists-say
-https://www.bloomberg.com/news/articles/2025-07-16/thb-usd-thailand-seeks-ways-to-curb-gold-price-impact-on-currency
-https://www.youtube.com/watch?v=_4LrCCD8j9E