ตลาดไก่ทอดในเกาหลีใต้ ใหญ่เป็นอันดับ 3 โลก มีกว่า 670 แบรนด์แข่งกัน /โดย ลงทุนแมน
เมื่อพูดถึงอาหารเกาหลี หลายคนอาจนึกถึง กิมจิ, บิบิมบับ หรือร้านปิ้งย่าง

แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อีกหนึ่งเมนูที่ได้รับความนิยมจากผู้คนทั่วโลกไม่แพ้กัน ก็คือ “ไก่ทอดเกาหลี”

รู้ไหมว่า ประเทศเกาหลีใต้ เริ่มรู้จักไก่ทอด เมื่อราว 70 ปีก่อน แต่วันนี้ได้พัฒนาจนกลายเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันดุเดือด และมูลค่าตลาดในประเทศเกินแสนล้านบาทไปแล้ว

เรื่องราวของไก่ทอดเกาหลี มีความเป็นมาอย่างไร
และปัจจุบัน ใครเป็นเจ้าตลาดนี้อยู่บ้าง ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

ไก่ทอดนั้นไม่ใช่เมนูอาหารดั้งเดิมในเกาหลี โดยในอดีต คนเกาหลีมักนำเอาเนื้อไก่ไปต้มใส่ในซุป

ต่อมาในทศวรรษ 1950 ช่วงที่เกิดสงครามเกาหลี ทางสหรัฐฯ ได้เข้ามาตั้งฐานทัพในเกาหลีใต้ และนำเอาไก่ชุบแป้งทอดสไตล์อเมริกัน มาเผยแพร่ด้วย

ปรากฏว่า คนเกาหลีใต้ชื่นชอบกันเป็นอย่างมาก แต่ขณะนั้นต้นทุนวัตถุดิบและเครื่องปรุงค่อนข้างแพง ทำให้ส่วนใหญ่จะกินไก่ทอดเฉพาะโอกาสพิเศษเท่านั้น

พอถึงช่วงทศวรรษ 1970 เศรษฐกิจเกาหลีใต้เติบโตร้อนแรง ส่งผลให้ผู้คนมีฐานะดี และหันมารับประทานไก่ทอดกันมากขึ้น

ประกอบกับ คนเกาหลีใต้ชอบออกไปดื่มสังสรรค์ข้างนอกบ้าน ซึ่งไก่ทอดก็ได้กลายเป็นเมนูยอดฮิตไว้กินเล่นคู่กับเบียร์ เกิดเป็นวัฒนธรรมที่เรียกว่า “Chimaek” (มาจากคำว่า Chicken กับ Maekju หรือเบียร์ในภาษาเกาหลี)

ด้วยเหตุนี้เอง จึงมีผู้ประกอบการร้านไก่ทอดผุดขึ้นแทบทุกย่าน และนำไปสู่การกำเนิดธุรกิจแฟรนไชส์ร้านไก่ทอดแห่งแรก ชื่อว่า Lims Chicken ในปี 1977

ต่อมา ผู้เล่นแต่ละรายต่างแข่งขันกันคิดค้นสูตรเมนูไก่ทอดใหม่ ๆ กันอย่างดุเดือด เพื่อดึงดูดผู้บริโภค ทำให้มีการพัฒนาเป็นนวัตกรรมการปรุงและรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของไก่ทอดเกาหลี

ตัวอย่างเช่น เทคนิคการทอดไก่ซ้ำ 2 รอบ เพื่อให้หนังข้างนอกกรอบ แต่เนื้อข้างในยังคงความนุ่มอยู่

รวมไปถึงการเคลือบไก่ด้วยซอสรสชาติกลมกล่อม ที่ทำจากส่วนผสมอย่าง โคชูจังหรือเครื่องเทศต่าง ๆ

ซึ่งช่วยผลักดันให้ตลาดไก่ทอดเกาหลี เติบโตต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้

ปัจจุบัน ประเทศเกาหลีใต้มีร้านไก่ทอดอยู่ราว 670 แบรนด์ และมีจำนวนสาขารวมกันทั้งหมดกว่า 42,000 สาขา เลยทีเดียว

ซึ่งคิดเป็นมูลค่าตลาดอยู่ที่ประมาณ 184,000 ล้านบาทต่อปี สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจาก สหรัฐฯ และจีน เท่านั้น

และเมื่อเทียบกับตลาดไก่ทอดในไทย ที่มีมูลค่าราว ๆ 30,000 ล้านบาท ถือว่าใหญ่กว่าหลายเท่าตัว

ทั้งนี้ ร้านที่เป็นผู้เล่นรายใหญ่ 3 อันดับแรกของตลาดไก่ทอดในเกาหลีใต้ ประกอบไปด้วย

อันดับ 1 คือ “BHC Chicken”

โดยร้านก่อตั้งขึ้นในปี 2004 และมีเมนูซิกเนเชอร์อย่างรสชาติ Bburinkle ที่มีส่วนผสมของผงชีส ซึ่งทำให้มีความหวานผสมเค็มที่โดดเด่น

จากข้อมูลล่าสุด ร้านมีสาขาอยู่เกือบ 2,200 สาขา และมีรายได้ 12,000 ล้านบาท ในปี 2024

อันดับ 2 คือ “bb.q Chicken”

โดยร้านก่อตั้งขึ้นในปี 1995 และมีเมนูสูตรลับหลากหลายรสชาติ เช่น Golden Original, Honey Garlic และ Caribbean Spice

จากข้อมูลล่าสุด ร้านมีสาขาอยู่ถึง 3,500 สาขา และมีรายได้ 11,700 ล้านบาท ในปี 2024

อันดับ 3 คือ “Kyochon Chicken”

โดยร้านก่อตั้งขึ้นในปี 1991 และระบุว่าเป็นเจ้าแรกที่คิดค้นเมนูยอดนิยมอย่าง Soy Garlic มาวางขายในตลาด

จากข้อมูลล่าสุด ร้านมีสาขาอยู่ประมาณ 1,360 สาขา และมีรายได้ 11,100 ล้านบาท ในปี 2024

จะเห็นได้ว่า ตลาดไก่ทอดภายในประเทศเกาหลีใต้ มีการแข่งขันที่สูสีมาก แต่นอกจากนั้น แบรนด์เหล่านี้ยังใช้ประโยชน์จากกระแสวัฒนธรรมเกาหลี ในการขยายธุรกิจบุกตลาดต่างประเทศอีกด้วย

ไม่ว่าจะเป็น กลยุทธ์การจ้างนักร้องนักแสดงเกาหลีใต้ เป็นพรีเซนเตอร์ หรือการสอดแทรกเข้าไปอยู่ในภาพยนตร์ ซีรีส์ เพื่อให้ชาวต่างชาติสนใจไก่ทอดเกาหลีกันมากขึ้น

เช่น ในซีรีส์ดังเรื่อง Crash Landing on You มีฉากที่ตัวละครนั่งกินไก่ทอดกับเบียร์ที่ร้าน bb.q Chicken เป็นต้น

ซึ่งในประเทศไทย ตลาดไก่ทอดก็มีการเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี จึงดึงดูดให้ร้านจากเกาหลีใต้เข้ามาทำตลาดกันมากมาย

แบรนด์แรก ๆ ที่หลายคนคุ้นเคย คงจะเป็น Bonchon Chicken ที่นำเข้ามาเปิดสาขาในประเทศไทยครั้งแรกเมื่อปี 2011 โดยบริษัท มาชิสโสะ จำกัด ก่อนที่ต่อมา บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT จะซื้อกิจการไปด้วยเงินมูลค่า 2,000 ล้านบาท

หรือเมื่อต้นปี 2024 เชนเบอร์ 1 ของเกาหลีใต้อย่าง BHC Chicken ก็ได้เข้ามาเปิดสาขาในประเทศไทย โดยปีที่แล้ว บริษัท บีเอชซี ชิคเก้น (ประเทศไทย) จำกัด มีรายได้อยู่ที่ 199.6 ล้านบาท

เรื่องราวนี้ให้แง่คิดที่น่าสนใจว่า
แม้ไก่ทอดไม่ใช่ของใหม่ แต่การปรับสไตล์ให้เข้ากับท้องถิ่น ก็สามารถสร้างความแตกต่างที่กลายเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นขึ้นมาได้

ซึ่งปัจจัยที่เอื้อให้มันเป็นเช่นนั้น คงหนีไม่พ้น สภาพแวดล้อมการแข่งขันที่ทำให้ผู้เล่นหลายร้อยรายในเกาหลีใต้ ต้องพัฒนาเมนูและปรับกลยุทธ์อยู่ตลอดเวลา

ส่งผลให้ จากสิ่งที่ไม่เคยมีอยู่ในวัฒนธรรมเกาหลีมาก่อน กลายเป็นสิ่งที่คนเกาหลีใต้ขาดไม่ได้ และเข้าไปอยู่ในตัวเลือกเมนูอาหารของคนทั่วโลกได้นั่นเอง..