
สช. เสนอโครงการ “ฟิตเนส คนละครึ่ง” จูงใจประชาชนออกกำลัง เพื่อลดโรคไม่ติดต่อ (NCDs) รวมถึงเดินออกกำลังกายสะสมเป็น “แคลอรีเครดิต” แล้วมาลุ้นรางวัลได้
เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2568 สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ได้จัดการประชุมคณะกรรมการพัฒนานโยบายสาธารณะว่าด้วยการสานพลังสร้างสภาวะแวดล้อมทางกายภาพและสังคมเพื่อลดโรคไม่ติดต่อ 1/2568
โดยมี นพ.โสภณ เมฆธน เป็นประธาน เพื่อร่วมกันหารือถึงความคืบหน้าและแนวทางในการลดโรคไม่ติดต่อ (NCDs)
ภายในที่ประชุมดังกล่าว ได้มีการนำเสนอถึงความคืบหน้าในการขับเคลื่อน NCDs ของภาคส่วนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น
-การผลักดันร่าง พ.ร.บ.โรคไม่ติดต่อ ซึ่งปัจจุบันยังไม่ผ่านเข้า ครม. จึงต้องรอเสนอในโอกาสถัดไป
-การนำมาตรการจูงใจทางภาษี เพื่อส่งเสริมกิจกรรมทางกายภายในประเทศไทย ซึ่งจำเป็นจะต้องมีการศึกษาทางวิชาการเพิ่มเติม
-การส่งเสริมบทบาทภาคธุรกิจเอกชน
โดย สช. ได้หารือกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ถึงการบูรณาการมิติด้านสุขภาพเข้ากับเกณฑ์ Environment Social Governance (ESG) ซึ่งจะมีการศึกษาวิเคราะห์เพื่อหาแนวทางการผนวกเข้าในเกณฑ์ใหม่ที่ ตลท. จะใช้ในปีหน้า
รวมถึงจะมีการประสานความร่วมมือกับสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ ในการผนวกมิติสุขภาพกับหลักสูตรการจัดฝึกอบรมให้กับผู้ประกอบการ ภาคธุรกิจเอกชนต่าง ๆ
นพ.โสภณ เปิดเผยว่า ปัจจัยของการลดโรค NCDs ต้องมุ่งความสำคัญใน 2 เรื่อง ได้แก่ การลดน้ำหนักควบคู่กับการออกกำลังกาย
เรื่องนี้สามารถขับเคลื่อนได้ทั้ง 2 ระดับคือ ในระดับนโยบายส่วนกลาง ที่ต้องแสวงหามาตรการหรือนวัตกรรมเข้ามาช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงในภาพกว้าง
กับอีกส่วนคือการขับเคลื่อนในระดับพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นในระดับท้องถิ่น หน่วยงาน องค์กร หรือชุมชน ที่จะนำเครื่องมือหรือนวัตกรรมที่เกิดขึ้นไปประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสมสอดคล้องกับบริบทของแต่ละแห่ง
นพ.โสภณ กล่าวว่า ในระดับนโยบายตัวอย่างเช่น หากปัจจุบันมีการพูดถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยโครงการ “คนละครึ่ง” เราจะนำมากระตุ้นการออกกำลังกายด้วยได้หรือไม่ ? เมื่อประชาชนไปสมัครฟิตเนสแล้วรัฐช่วยออกให้อีกส่วนแบบนี้เป็นต้น
ซึ่งบางองค์กรเอกชนก็มีการทำในลักษณะนี้
หรือ “หวยเกษียณ” ที่เป็นการออมเงินและลุ้นรางวัล ถ้าเอามาใช้กับกิจกรรมทางกายภาพ เดินออกกำลังกายสะสมเป็นแคลอรีเครดิต แล้วมาลุ้นรางวัลได้
เหล่านี้คือกลไกที่สามารถออกแบบมาใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างสภาวะแวดล้อมเพื่อลดโรค NCDs
ขณะเดียวกันในระดับพื้นที่เอง ก็สามารถดำเนินเป็นนโยบายของท้องถิ่น ตัวอย่างเช่นกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่ใช้กลไกภาษีที่ดินกระตุ้นให้ภาคเอกชนนำที่ดินเปล่ารกร้างมาให้ กทม. ทำสวน 15 นาที เป็นการปรับสภาพแวดล้อมที่ช่วยกระตุ้นกิจกรรมทางกาย (Physical Activity)
หรือบางจังหวัดนำเครื่องมือ Calories Credit Challenge (CCC) ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ไปสร้างแรงจูงใจให้คนออกกำลังกาย เป็นต้น
นอกจากนี้อีกส่วนสำคัญคือพัฒนาระบบฐานข้อมูล Big Data รวมถึงระบบการกำกับ ติดตาม ประเมินผล เพื่อที่จะสามารถชี้วัดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมทางสุขภาพของประชาชนได้