Laura Geritz ผู้จัดการกองทุน ที่สนุกหาหุ้น ด้วยการเดินทางรอบโลก เกือบตลอดปี

Laura Geritz ผู้จัดการกองทุน ที่สนุกหาหุ้น ด้วยการเดินทางรอบโลก เกือบตลอดปี

Laura Geritz ผู้จัดการกองทุน ที่สนุกหาหุ้น ด้วยการเดินทางรอบโลก เกือบตลอดปี /โดย ลงทุนแมน
เวลาพูดถึงกิจวัตรประจำวันของบรรดาผู้จัดการกองทุน
คนส่วนใหญ่มักคิดว่า ผู้จัดการกองทุนคงใช้เวลาส่วนมาก ไปกับการนั่งอ่านรายงานประจำปี จำลองโมเดลการเงิน ประชุมกับผู้บริหาร หรืออ่านข่าวจาก Bloomberg ทั้งวัน
แต่รู้หรือไม่ว่า มีผู้จัดการกองทุนคนหนึ่ง ที่มีสไตล์การลงทุนโดยใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเดินทาง
คนคนนั้นคือคุณ Laura Geritz ผู้ก่อตั้ง Rondure Global Advisors ซึ่งในแต่ละปี คุณ Geritz ใช้เวลาราว 6 ถึง 9 เดือน เดินทางไปรอบโลก เพื่อเสาะหาบริษัทมาลงทุน
ชีวิตของคุณ Geritz เป็นมาอย่างไร ?
และคุณ Geritz มีหลักการลงทุนอะไร น่าสนใจบ้าง ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ภูมิหลังชีวิตของคุณ Laura Geritz นั้น อาจไม่เหมือนกับผู้จัดการกองทุนหลายคน..
คุณ Geritz เติบโตมาจากครอบครัวเกษตรกร ในพื้นที่ชนบทของรัฐแคนซัส และเรียนจบสาขารัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยแคนซัส
ก่อนที่จะเข้าเรียนต่อปริญญาโท สาขาภาษาและวัฒนธรรมเอเชียตะวันออก และได้มีโอกาสไปใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น 1 ปี
นั่นทำให้คุณ Geritz เข้าใจเรื่องราวเกี่ยวกับเอเชียตะวันออก รวมถึงสามารถพูดภาษาญี่ปุ่นได้อย่างคล่องแคล่ว ซึ่งเป็นรากฐานของการทำงาน ในฐานะผู้จัดการกองทุนในเวลาต่อมา
แม้จะไม่ได้จบสายการเงินการลงทุนมาโดยตรง
แต่คุณ Geritz ก็ชื่นชอบและอยากเป็นนักลงทุนอาชีพ และชอบอ่านหนังสือพิมพ์ The Wall Street Journal ทุกวัน
โดยคุณ Geritz เริ่มชีวิตการลงทุน จากการได้เข้าทำงานในตำแหน่งตัวแทนนักลงทุนสัมพันธ์ที่ American Century Investments ในปี 1997 ก่อนที่จะได้มีโอกาสเป็นนักวิเคราะห์ในทีมลงทุนของบริษัทในปี 1999
หลังจากนั้นก็ได้ย้ายไปทำงานที่ Wasatch Global Investors เป็นเวลา 10 ปี
ซึ่งที่นี่เองที่คุณ Geritz ได้ฉายแววเป็นผู้จัดการกองทุน ที่เชี่ยวชาญในตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) และตลาดชายขอบ (Frontier Markets) ซึ่งส่วนมากเป็นประเทศที่อยู่ในเอเชีย
ในปี 2016 คุณ Geritz ก็ได้ออกมาตั้งบริษัทของตัวเอง ชื่อว่า Rondure Global Advisors โดยกองทุนของ Rondure จะเน้นการลงทุนนอกสหรัฐอเมริกา
ในแต่ละปี คุณ Geritz จะออกเดินทางไปยังประเทศต่าง ๆ เพื่อมองหาบริษัทชั้นยอด ที่ยังคงถูกเมินจากบรรดาผู้จัดการกองทุนส่วนใหญ่
คุณ Geritz เคยเดินทางไปทั้งรัสเซีย ตุรกี เกาหลีใต้ ไทย สิงคโปร์ และอีกหลาย ๆ ประเทศ
และเช่าที่พักราคาถูกในประเทศเหล่านั้น นานเป็นสัปดาห์ เพื่อค้นหาและศึกษาธุรกิจที่น่าสนใจ ในแต่ละประเทศ ด้วยตัวเอง
ในขณะเดียวกันก็เรียนรู้วัฒนธรรม และสังเกตวิถีชีวิตของผู้คนในประเทศเหล่านั้นไปด้วย
และถ้าหากพูดถึงแนวทางการลงทุนของคุณ Geritz
เริ่มจากคัดเลือกบริษัทที่มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 48,700 ล้านบาท ต่อด้วยการกรองทั้งเรื่องคุณภาพ และตัวเลขทางการเงิน
ซึ่งบริษัทที่จะเข้าตาคุณ Geritz นั้น จะต้องมีคุณสมบัติที่เข้าเกณฑ์ “CGP”
- Club อยู่ในธุรกิจที่คู่แข่งหน้าใหม่ เข้ามาแข่งได้ยาก
- Glue ลูกค้ามี Brand Loyalty หรือมี Switching Cost สูง
- Platform เป็นธุรกิจตัวเชื่อมหรือตัวกลาง ที่มี Network Effect
นอกจากนี้ บริษัทจะต้องมีงบดุลที่แข็งแกร่ง มีกำไรเติบโตสม่ำเสมอ และที่สำคัญคือ ธุรกิจต้องสามารถสร้างกำไรเงินสดได้จริง ๆ
ด้วยความที่ประเทศเป้าหมาย เป็นตลาดเกิดใหม่และตลาดชายขอบ ที่มักมีความเสี่ยงและความผันผวนสูง
คุณ Geritz จึงพยายามจำกัดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุน โดยการมองหาบริษัทที่ซื้อขายกันที่ราคาหุ้นถูกมาก ๆ (Margin of Safety)
รวมถึงดูเงินสดที่บริษัทนั้น ๆ ครอบครองอยู่ ว่ามากเพียงพอที่จะพาให้บริษัทอยู่รอดหรือไม่ หากต้องเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจหรือช่วงเวลาที่ยากลำบาก
จะเห็นว่าหลักการลงทุนของคุณ Geritz คล้ายกับบรรดานักลงทุนระดับโลกมากมาย
แต่สิ่งที่แตกต่างคือ คุณ Geritz เลือกที่จะหาบริษัทเกรด A ในประเทศที่แฝงไปด้วยความเสี่ยง ซึ่งทำให้บริษัทในประเทศเหล่านี้ ถูกเมินจากนักลงทุนส่วนใหญ่ แต่เป็นโอกาสทองและขุมทรัพย์ที่รอเธอไปขุดให้เจอ
มาถึงตรงนี้เราคงจะเห็นแล้วว่า สไตล์การลงทุนของคุณ Geritz นั้น อาจมีความแหวกแนวจากผู้จัดการกองทุนส่วนใหญ่
โดยคุณ Geritz ใช้วิธีเดินทางท่องโลก เพื่อหาโอกาสการลงทุน ผ่านการเข้าไปศึกษาธุรกิจ ตลอดจนผู้คนในประเทศเหล่านั้นเอง เพื่อให้มีข้อมูลในมือสำหรับลงทุนมากที่สุด
และสร้างผลตอบแทนจากบริษัท ที่กำลังถูกเมินอยู่ หรือเป็นธุรกิจที่ “คมในฝัก” นั่นเอง..
© 2025 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon