ฮิวแมนซอฟท์ x ลงทุนแมน

“เวลา” มีความสำคัญอย่างมากในการทำงานสำหรับทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ “เจ้าของกิจการ” เป็นที่รู้กันดีว่า เจ้าของกิจการนั้นมักจะมีงานรัดตัวให้ยุ่งอยู่ตลอด เพราะไม่ใช่แค่การดูแลธุรกิจเท่านั้น แต่ยังต้องบริหารจัดการในทุกส่วนของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น การบริหารทรัพยากรบุคคลที่ต้องดูแลและบริหารพนักงาน การบริหารจัดการต้นทุน การดูแลการตลาด และต้องปรับกลยุทธ์ของธุรกิจเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ จะเห็นได้ว่างานของเจ้าของธุรกิจนั้นรัดตัวจนแทบไม่มีเวลา แล้วแบบนี้เจ้าของกิจการมีวิธีจัดการเวลายังไง? ให้ชีวิตและการทำงานบาลานซ์ได้

เคล็ดลับจัดการเวลาสำหรับคนทำธุรกิจ
การบริหารจัดการเวลาสำหรับเจ้าของกิจการนับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นอย่างมาก นักธุรกิจหรือผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่มักมีการจัดสรรเวลาที่ดี สามารถจัดการทั้งเวลาทำงานและเวลาส่วนตัวได้เป็นอย่างดี ซึ่งวิธีการบริหารเวลาที่ใช้ มักจะมีดังนี้ คือ จัดลำดับความสำคัญ ปรับมุมมองที่มีต่อเวลา คำนึงถึงความคุ้มค่าของพลังงานและเวลาที่ใช้ และใช้เครื่องมือเพื่อช่วยลดเวลาทำงาน ดังนี้

1.การจัดลำดับความสำคัญ
การจัดลำดับความสำคัญก่อน–หลัง ถือเป็นหัวใจสำคัญของการทำงาน โดยเฉพาะสำหรับเจ้าของกิจการที่ต้องรับผิดชอบหลายด้านพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นการบริหารคน การจัดการต้นทุน การตลาด หรือการวางกลยุทธ์ระยะยาว หากไม่มีการจัดลำดับความสำคัญ ว่างานไหนเป็นงานที่เร่งด่วน งานไหนสามารถรอได้ ก็อาจทำให้เสียเวลาไปกับเรื่องเล็กน้อยจนละเลยสิ่งที่มีผลต่อธุรกิจจริง ๆ การจัดลำดับความสำคัญจึงช่วยให้เจ้าของกิจการสามารถใช้เวลาได้คุ้มค่า และทำให้ผลลัพธ์ของงานออกมาดีอีกด้วย

2.การปรับมุมมองที่มีต่อเวลา
การปรับมุมมองที่มีต่อเวลา เป็นการเปลี่ยนวิธีคิดว่าเวลาไม่ใช่แค่สิ่งที่มีไว้ใช้ไปวัน ๆ แต่เป็น ทรัพยากรที่มีค่าที่สุด และเราต้องเลือกใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด หลายครั้งที่คนเรารู้สึกว่า “ไม่มีเวลา” ทั้งที่จริงแล้ว เวลาเท่ากันทุกคน เพียงแต่ว่าเราอาจใช้ไปกับสิ่งที่ไม่ได้สำคัญจริง ๆ การปรับมุมมองนี้จะทำให้เราเห็นว่า ทุกนาทีคือการลงทุน เวลาทุกนาทีเป็นสิ่งมีค่า เราควรถามตัวเองเสมอว่า “สิ่งที่กำลังทำอยู่คุ้มค่ากับเวลาที่เสียไปหรือไม่?” โดยเฉพาะเจ้าของกิจการ หากมองเวลาเป็นทรัพยากร จะเลือกโฟกัสกับงานที่สร้างคุณค่าต่อธุรกิจและชีวิตมากกว่าเรื่องเล็กน้อย ทำให้ใช้เวลาได้คุ้มค่าและมีสมดุลมากขึ้น

3.คำนึงถึงความคุ้มค่าของพลังงานและเวลาที่ใช้
การบริหารจัดการเวลาที่ดีควรต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าของพลังงานและเวลาที่ใช้ หรือก็คือการใส่ใจว่าเวลาที่เราใช้ไปกับงานหรือกิจกรรมต่าง ๆ คุ้มค่ากับผลลัพธ์ที่ได้ไหม ไม่ใช่แค่ทำไปเรื่อย ๆ จนหมดทั้งวันแต่ไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เพราะเวลาและพลังงานของเรามีจำกัด ยิ่งสำหรับเจ้าของกิจการที่ต้องทำหลายอย่างพร้อมกัน ยิ่งต้องเลือกใช้อย่างชาญฉลาด เช่น ถ้าใช้เวลา 3 ชั่วโมงไปกับการทำงานเล็ก ๆ ที่มีผลน้อยต่อธุรกิจ อาจจะไม่คุ้มเท่ากับใช้เวลา 1 ชั่วโมงไปเจอลูกค้าสำคัญที่สามารถสร้างรายได้หลักให้บริษัท หรือเลือกใช้พลังงานกับการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์มากกว่าการแก้ปัญหาย่อย ๆ ที่ทีมงานทำแทนได้ แนวคิดนี้ช่วยให้เรารู้จักจัดลำดับงาน เลือกทำสิ่งที่ให้ “ผลลัพธ์สูงสุด” เมื่อเทียบกับเวลาและพลังที่ใช้ไป

4.ใช้เครื่องมือเพื่อช่วยลดเวลาทำงาน
ทั้งนี้ในแง่ของการทำงานการใช้เครื่องมือเพื่อลดเวลาทำงาน จะช่วยทำให้คุณมีเวลาเหลืออีกมากที่จะสามารถนำไปทำประโยชน์หรือพักผ่อนได้ การใช้เครื่องมือหรือเทคโนโลยีช่วยทำงาน ยกตัวอย่างเช่น คุณเลือกใช้เทคโนโลยีหรือโปรแกรมต่าง ๆ เข้ามาช่วยบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล แทนการทำงานแบบแมนนวล เพราะนอกจากจะช่วยลดภาระงานที่ยุ่งเหยิงแล้วยังช่วยเพิ่มความแม่นยำและรวดเร็วอีกด้วย

ไม่เพียงเท่านั้น การที่คุณเป็นเจ้าของธุรกิจคุณต้องดูแลพนักงานของคุณ ยิ่งพนักงานมากการบริหารจัดการยิ่งมากตามไปด้วย ไม่ใช่เพียงงานเอกสาร แต่งานเงินเดือนก็ยุ่งยากไม่แพ้กัน ดังนั้นคุณสามารถลดความยุ่งยากนี้ด้วยการใช้โปรแกรมเงินเดือน หรือบริการรับทำเงินเดือนเพื่อช่วยลดภาระงาน เพิ่มเวลา ซึ่งจะช่วยให้คุณมีเวลาว่างมากขึ้น สามารถเอาเวลาเหล่านั้นไปทำสิ่งที่เป็นประโยชน์อื่น ๆ เช่น เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ทำงานอดิเรก หรือใช้เวลาพักผ่อนให้ร่างกายและจิตใจได้พักเต็มที่

อย่างไรก็ตาม อย่าลืมที่จะจัดแบ่งเวลาไว้สำหรับการฟื้นฟูพลังงานด้วย เพราะการฟื้นฟูพลังงานสำคัญมากกว่าที่คิด การทำงานตลอดเวลาไม่ได้แปลว่าคุณมีประสิทธิภาพ แต่เป็นสัญญาณอันตรายว่าคุณกำลังจะหมดไฟในไม่ช้า เจ้าของกิจการที่ชาญฉลาดจึงต้อง จัดตารางพักผ่อน ให้เป็นวาระสำคัญที่ยกเลิกไม่ได้ไม่ต่างจากการประชุมกับลูกค้า เช่น กำหนดเวลาออกกำลังกาย หรือใช้เวลากับครอบครัวอย่างชัดเจน นอกจากนี้ ควรกำหนดเวลาสั้น ๆ ในช่วงปลายสัปดาห์เพื่อทบทวนกลยุทธ์ หรือ สะท้อนความคิด ถึงสิ่งที่ทำไปแล้วและวางแผนงานสำหรับสัปดาห์ถัดไป การกระทำเหล่านี้จะช่วยให้คุณรักษาระดับพลังงาน สามารถจัดการทิศทางธุรกิจได้ดีขึ้น และป้องกันภาวะหมดไฟได้