TOA กับวิธี “รีโนเวท” ความคิดเจ้าของบ้านยุคนี้ ผ่านแคมเปญ “No More Excuse เรื่องบ้านข้ออ้างไม่มี” | ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง x TOA

หลายคนคงเคยวางแผนรีโนเวทบ้านครั้งใหญ่ แต่ก็ต้องต่อสู้กับสารพัดข้ออ้างในใจ เช่น
“บ้านเก่าแล้วจะซ่อมทำไม”
“ไว้ก่อน เดี๋ยวค่อยทำ”
“ของเดิมยังใช้ได้อยู่ ก็ใช้ไปเหมือนเดิมแล้วกัน”

ทั้ง ๆ ที่บ้านเป็นที่พักกายพักใจให้ได้ใช้ชีวิตกับคนที่เรารักอย่างมีความสุขในทุกวัน แต่ทำไมกลับเลือกใช้ข้ออ้างเล็ก ๆ เหล่านี้ลดคุณค่าสถานที่ ทั้งแบบตั้งใจหรือมองข้ามไปอย่างไม่รู้ตัว

ความน่าสนใจก็คือ ใครจะคิดว่าแบรนด์สีอันดับหนึ่งที่อยู่คู่กับคนไทยมานานกว่า 60 ปี อย่าง TOA จะหยิบนำ Insight เรื่องนี้มากระตุ้นให้คนไทยทั่วประเทศหันมาดูแลบ้านตัวเองอย่างไม่มีข้ออ้างผ่านแคมเปญ “No More Excuse เรื่องบ้านข้ออ้างไม่มี”

ทำไมแคมเปญนี้ถึงเป็นเรื่องใกล้ตัวและเกี่ยวข้องกับทุกคน ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

รู้หรือไม่ เบื้องหลังที่มาของแคมเปญนี้ เกิดจากการที่ TOA ทำธุรกิจมานานกว่า 60 ปี และได้สังเกตเห็นพฤติกรรมซ้ำ ๆ ของเจ้าของบ้านทุกคนที่ “อยากให้บ้านดีขึ้น”

แต่สุดท้ายก็มักจะมีสารพัดข้ออ้างให้ตัวเอง ผลลัพธ์ที่ตามมาคือ บ้านดูเก่าทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ทั้งที่จริง “บ้าน” ควรเป็นสถานที่น่าอยู่ที่สุด เพราะเป็น “ จุดพักกายและใจในการใช้ชีวิตแต่ละวัน”

ต้องยอมรับว่า “ข้ออ้าง” สารพัดเปรียบเสมือนกำแพงที่ให้เจ้าของบ้านเลือกจะนิ่งเฉยในการดูแลบ้าน

ตรงนี้เอง ที่ทำให้ TOA ตกผนึกทางไอเดียเป็นแคมเปญที่ไม่ได้พูดถึงการขายสินค้า แต่เลือกจะ “กระตุกความคิด” คนไทยให้กลับมาดูแลบ้านอย่างตั้งใจ โดยใช้ชื่อแคมเปญเข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อนแต่ทรงพลัง “เรื่องบ้านข้ออ้างไม่มี”

โดยเฉพาะการใช้โฆษณาชุด “โลกไม่แตก...” ที่หยิบ Insight เจ้าของบ้านมาเล่าเรื่องในโทนเสียดสีและอารมณ์ขัน ผ่านฉาก “วันสิ้นโลก” ที่มีอุกกาบาตตกกลางกรุงเทพฯ ยานอวกาศบุกเมือง ผู้คนวิ่งหนีอลหม่าน

ท่ามกลางหายนะนั้น โฆษณากลับตั้งคำถามง่าย ๆ แต่ดูแล้วแทงใจ

“แล้วถ้าโลกไม่แตก… เราจะยังมีข้ออ้างอะไรที่จะไม่ดูแลบ้านให้ดีที่สุดอีกเหรอ?”

เป็นการสมมติเชิงเปรียบเทียบ ข้ออ้างต่าง ๆ ที่เจ้าของบ้าน มักใช้เลี่ยงลงมือดูแลบ้านให้น่าอยู่ เพราะคิดว่ายังไม่ถึงเวลา แต่โฆษณาชิ้นนี้กำลังบอกความจริงที่ว่า

“โลกไม่จำเป็นต้องพัง บ้านถึงจะได้ซ่อม”

เป็นการใช้ “ความจริงใกล้ตัว” มาเล่าเรื่องอย่างเฉียบคม สนุก ดูแล้วสะดุ้งทางความคิด เพราะเป็นการหยิบ Insight จริง ๆ ของคนไทยมาสะท้อนเป็นคอนเทนต์ที่เล่นกับ “ข้ออ้างยอดฮิต” ที่เจ้าของบ้านชอบอ้างเหมือนผ่านประโยค เช่น บ้านเก่าแล้วซ่อมทำไม, เลือกไม่ถูก เอาง่าย ๆ พอ, เสียดายตังค์ ไว้ก่อนละกัน

เชื่อว่าพอดูโฆษณานี้จนจบ หลายคนน่าจะเกิดคำถามในใจ
“เรากำลังเป็นคนชอบอ้างแบบในแคมเปญนี้หรือเปล่า ?”

จะเห็นว่าแคมเปญนี้เป็นมากกว่าโฆษณาทั่วไป เพราะเป้าหมาย TOA คือ ต้องการสร้าง Movement ทางความคิด ชวนให้เจ้าของบ้านทั่วประเทศเริ่มต้นใส่ใจดูแลบ้านตัวเอง

อีกทั้งหากสังเกตแคมเปญโฆษณาชิ้นนี้ TOA ไม่ได้ยัดเยียดขายสินค้าแม้แต่น้อย แต่กล้าที่จะคิด กล้าที่จะพูด กระตุ้นความคิดคนไทยในเรื่องการดูแลบ้านตัวเอง ที่เชื่อมโยง “อารมณ์” กับ “เหตุผล” ได้อย่าง Impact ต่อความคิดผู้คนว่าการดูแลบ้านให้สวยงาม

เราไม่ต้องมี “ข้ออ้าง” แต่ควรลงมือทำตั้งแต่วันนี้

ที่สำคัญแคมเปญนี้ยังสะท้อนถึงบุคลิกแบรนด์ TOA ที่ถึงแม้จะมีอายุกว่า 60 ปี แต่กลับเป็นแบรนด์ที่มีความสดใหม่กล้าแสดงออกที่ตอบโจทย์ Insight ความคิดเจ้าของบ้านในมุมใหม่ๆ

อย่างไรก็ตาม TOA เบอร์หนึ่งในอุตสาหกรรมสีทาบ้านและอาคารในเมืองไทยที่ผู้บริโภคคนไทยรับรู้ว่า นี่คือแบรนด์สีที่มีนวัตกรรมคุณภาพ

“นวัตกรรม” คำนี้ TOA ไม่ได้จำกัดแค่ “เทคโนโลยีหรือคุณสมบัติผลิตภัณฑ์” ที่เหนือกว่าแบรนด์สีอื่น เพียงแต่ TOA ต้องการสื่อสารกับผู้บริโภคว่านวัตกรรมสีทาบ้านของ TOA ยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตผู้คนในบ้านผ่านผลิตภัณฑ์สีที่เราคุ้นเคยอย่างดี เช่น

- TOA 4 Seasons : สีน้ำอะคริลิคแท้ 100 % คุณภาพสูง ทนทานต่อทุกสภาพอากาศ
- TOA 201 Roofseal : สีอะคริลิคกันซึม ไร้รอยต่อ กันน้ำเข้าได้ 100%
- TOA Aqua Shield : สีเคลือบรวมรองพื้นสูตรน้ำ สำหรับหลากหลายพื้นผิว
- TOA PRO Expert : มีเทคโนโลยี Super Bonding Technology ช่วยให้ฟิล์มสียึดเกาะพื้นผิวดีเยี่ยม

และยังมีผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ก่อสร้างอื่น ๆ อีกมากมายที่ตอบโจทย์ทุกการดูแลบ้านให้เหมือนใหม่ เพราะสำหรับ TOA “นวัตกรรม” ไม่ได้อยู่แค่ในกระป๋องสี แต่อยู่ในทุกแนวคิดที่ทำให้บ้านเราดูดีขึ้น

จะเห็นว่าจริง ๆ แล้วแคมเปญนี้ทาง TOA ไม่ได้อยากให้เราเร่งรีบรีโนเวทบ้าน เพื่อจะได้ซื้อผลิตภัณฑ์สี TOA แต่ต้องการกระตุ้นว่าเราควร “เริ่มต้น” ตั้งใจรักษาดูแลบ้านที่เรารัก

เพราะทุกครั้งที่เราเหนื่อยล้าจากการทำงานและการใช้ชีวิต การมีบ้านสวยงามสบายตา ทำให้เราอยากกลับมาฟื้นฟูพลังกายและใจเพื่อเริ่มต้นใหม่ในทุกวัน

เพราะฉะนั้นการดูแลบ้านจึงไม่ควรมีสารพัดข้ออ้างเพราะมันคือ คุณภาพชีวิต สอดคล้องกับนิยามนวัตกรรมสีของ TOA คือ “ช่วยทำให้ชีวิตดีขึ้น” นั่นเอง

Reference :
- ข้อมูลประชาสัมพันธ์ บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)