เจาะลึกหุ้น Salesforce แพลตฟอร์มเจ้าพ่อบริหารลูกค้า ผู้อยู่เบื้องหลังโปรโมชัน ของบริษัทต่าง ๆ

เจาะลึกหุ้น Salesforce แพลตฟอร์มเจ้าพ่อบริหารลูกค้า ผู้อยู่เบื้องหลังโปรโมชัน ของบริษัทต่าง ๆ

เจาะลึกหุ้น Salesforce แพลตฟอร์มเจ้าพ่อบริหารลูกค้า ผู้อยู่เบื้องหลังโปรโมชัน ของบริษัทต่าง ๆ /โดย ลงทุนแมน
- เชนร้านอาหารดัง ที่ออกเมนูมาใหม่ แล้วดึงลูกค้าเข้ามาทานในร้านได้มากขึ้น
- ห้างสรรพสินค้า ที่บริหารสต๊อกได้แม่นยำ จัดโปรโมชันได้ตรงใจลูกค้า
- บริษัทอสังหาริมทรัพย์ สามารถจับอินไซต์ของลูกค้าได้ ผ่านการเข้าชมเว็บไซต์ คลิกโฆษณา หรือการเข้าดูโครงการเสมือนจริง เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับทำการตลาด
แน่นอนว่า เบื้องหลังการตลาดเหล่านี้ มีหนึ่งในซอฟต์แวร์ ที่โดดเด่นเรื่องการบริหารจัดการลูกค้าหลังบ้าน หรือ CRM
นั่นก็คือ Salesforce ที่มีมูลค่าบริษัท 7,400,000 ล้านบาท
เรื่องราว และเบื้องหลังของธุรกิจของ Salesforce เป็นอย่างไร
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
รู้หรือไม่ ? ว่าไอเดียของ Salesforce นั้นมาจากอดีตผู้บริหารของ Oracle ในวัย 26 ปี ชื่อ Marc Benioff
เขาได้ก่อตั้ง Salesforce ขึ้นในปี 1999
และตั้งใจให้ซอฟต์แวร์นี้สามารถแก้ Pain Point ของระบบการจัดการหลังบ้าน
โดยเฉพาะด้านการบริหารลูกค้าสัมพันธ์ ที่พนักงานดูแลลูกค้า หรือพนักงานฝ่ายขาย จะต้องคอยรับเรื่องหรือรับฟีดแบ็กต่าง ๆ จากลูกค้าเป็นจำนวนมาก
ซึ่ง Salesforce ก็ยังถือเป็นบริษัทแรกของโลก ที่พัฒนาซอฟต์แวร์ ให้ไปติดตั้งอยู่ในระบบคลาวด์ หรือที่เรียกว่า Software as a Service (SaaS)
แล้วนำซอฟต์แวร์ไปปล่อยให้ บริษัทหรือธุรกิจต่าง ๆ ได้เช่า
แล้วคิดค่าบริการหรือ Subscription เป็นรายเดือน รายปี นั่นเอง
โมเดลนี้ทำให้บริษัทต่าง ๆ ไม่จำเป็นต้องลงทุนสูงด้วยเงินก้อนเดียว
ด้วยความง่าย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ ทำให้โมเดล SaaS ของ Salesforce สามารถดึงดูดฐานลูกค้าได้กว้างขวาง ตั้งแต่บริษัทรายเล็ก กลาง ไปจนถึงบริษัทขนาดใหญ่
จนทำให้บริษัทขนาดใหญ่อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น Dynamics 365 ของ Microsoft,
Creative Cloud ของ Adobe รวมถึง SAP และ Oracle
ต้องเปลี่ยนโมเดลการขายซอฟต์แวร์ จากเดิมที่เป็นซอฟต์แวร์ติดตั้งบนฐานข้อมูลของบริษัท แล้วเก็บเงินจากลูกค้าก้อนใหญ่ทีเดียว ไปเป็นซอฟต์แวร์ในรูปแบบ SaaS ทั้งหมด
ปัจจุบัน Salesforce มีซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ที่มาช่วยสร้าง Ecosystem ให้กับบริษัททั้งหมด 5 กลุ่มด้วยกัน นั่นก็คือ
1. กลุ่ม Sales เป็นระบบ CRM หลัก ที่ช่วยให้ทีมขาย สามารถบอกได้ว่าดีลไหนของลูกค้าที่ควรปิดก่อน
และลูกค้ากลุ่มไหน น่าจะมาซื้อสินค้าและบริการของเรามากที่สุด
2. กลุ่ม Service เป็นระบบบริการลูกค้า ที่ฝ่าย Customer Service ของบริษัทต่าง ๆ ต้องใช้ เพื่อให้สามารถจัดการเคสลูกค้า เช่น คำร้องเรียนจากลูกค้า หรือปัญหาของลูกค้า
พร้อมให้บริการลูกค้าผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
3. กลุ่ม Platform and Other เป็นกลุ่มแพลตฟอร์มของนักพัฒนา เพื่อปรับแต่งระบบ สร้างเครื่องมือ และสร้างแอปพลิเคชันใหม่ ๆ
โดยกลุ่มธุรกิจนี้ จะมีซอฟต์แวร์ต่าง ๆ อยู่หลายตัว
มี Data Cloud ที่ปล่อยให้ธุรกิจเช่า
และมี Agentforce ซึ่งเป็น Agentic AI ที่เข้ามาช่วยลดโหลดงานจากพนักงาน ให้สามารถทำงานได้โดยไม่ต้องสั่งการ
แถมยังสามารถนำ Agentforce มาฝังไว้ในแอปพลิเคชันของธุรกิจ เพื่อให้บริการลูกค้าได้อีกด้วย
ซึ่งกลุ่มนี้จะมาช่วยพัฒนาระบบหลังบ้านของธุรกิจ ด้วยการลดต้นทุน ลดเวลาการทำงาน และเพิ่มประสิทธิภาพให้ธุรกิจมากยิ่งขึ้น
4. กลุ่ม Marketing and Commerce Cloud เป็นเครื่องมือหลังบ้านของทีมการตลาด
ที่ใช้สร้างและจัดการแคมเปญออนไลน์ต่าง ๆ
ซึ่งซอฟต์แวร์กลุ่มนี้ คือเครื่องมือที่ทำให้ทีมการตลาดได้รู้ว่า
- ร้านอาหาร ควรออกโปรโมชันช่วงเวลาไหน หรือควรออกเมนูอะไรเพิ่ม เพื่อให้ลูกค้าเข้ามานั่งทานในร้านมากขึ้น
- ห้างสรรพสินค้าควรจัดโปรโมชัน ให้เหมาะสมกับสมาชิกแต่ละคนได้อย่างไร
และทำให้รู้ว่าแต่ละสาขา ควรสต๊อกสินค้าอย่างไร ให้เพียงพอกับคนในพื้นที่นั้น
- สามารถจับพฤติกรรมของลูกค้า ที่เข้ามาดูโครงการบ้าน หรือคอนโดมิเนียม ผ่านเว็บไซต์ แล้วสามารถนำไปทำการตลาดกับกลุ่มลูกค้าได้อย่างแม่นยำ
5. กลุ่ม Integration and Analytics กลุ่มนี้จะเก่งเรื่องการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเชิงลึก ซึ่งมีทั้งระบบเชื่อมโยงข้อมูล อย่าง MuleSoft ที่เปรียบเสมือนท่อส่งข้อมูล ไปยังทุกระบบขององค์กร
ไปจนถึง Tableau ที่เปรียบเสมือนแพลตฟอร์มสำหรับวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก
โดยเป็นคู่แข่งกับ Power BI ของ Microsoft นั่นเอง
จะเห็นได้ว่า ซอฟต์แวร์ทั้ง 5 กลุ่มของ Salesforce
ล้วนเป็นซอฟต์แวร์ที่องค์กรขนาดใหญ่ อย่างแบรนด์ระดับโลก และบริษัทระดับประเทศ จำเป็นต้องใช้
และซอฟต์แวร์ของ Salesforce ก็ได้ครอบคลุมการทำงานของทุก ๆ แผนกขององค์กร ไม่ว่าจะเป็น
- Sales ที่ตอบโจทย์ฝ่ายขายขององค์กร
- Service ที่เป็นฐานข้อมูลลูกค้าหลังบ้านของ Customer Service
- Platform ต่าง ๆ สำหรับ Dev หรือนักพัฒนา ที่จะเอา Agentforce มาเป็นผู้ช่วย AI ในแอปพลิเคชันของธุรกิจ
- Marketing and Commerce Cloud เครื่องมือหลังบ้าน ที่นักการตลาดของธุรกิจขนาดใหญ่จำเป็นต้องใช้
- Integration and Analytics ที่ฝ่าย Data Engineer หรือแม้กระทั่งผู้บริหาร ก็จำเป็นต้องใช้เพื่อวิเคราะห์ธุรกิจ
โดยทุก ๆ กลุ่มซอฟต์แวร์ ก็จะมี AI ชื่อ Einstein (ไอน์สไตน์) ที่เป็นผู้ช่วย คอยวิเคราะห์ข้อมูล และแนะนำการตัดสินใจแบบอัตโนมัติ ให้กับผู้ใช้งานในแต่ละฝ่ายขององค์กรนั่นเอง
ทั้งหมดนี้ ก็เป็นตัวอย่างผลิตภัณฑ์ และการพัฒนาของ Salesforce
ปัจจุบันมีลูกค้าใช้บริการแพลตฟอร์มของ Salesforce มากกว่า 150,000 รายทั่วโลก
รวมถึงลูกค้าแบรนด์ดังจากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น Apple, Amazon, JPMorgan Chase, Coke, FILA, Nike, Gucci, Benz, Ford, Toyota, Spotify, IHG และ Marriott
หรือแม้แต่ธุรกิจขนาดใหญ่ของไทย อย่างเช่น Lotus’s, MAGURO Group, MINOR, Sansiri, เดอะมอลล์ กรุ๊ป, WARRIX, รู้ใจประกันภัย
ซึ่งธุรกิจต่าง ๆ ที่ว่านี้ ต่างก็มาจากธุรกิจหลากหลายประเภท แต่จำเป็นต้องใช้แพลตฟอร์ม Salesforce เพื่อบริหารลูกค้าของตัวเองแบบครบวงจร
สำหรับธุรกิจระบบหลังบ้าน ป้อมปราการก็คือในเรื่องของ Switching Cost ที่สูง
ซึ่ง Switching Cost ที่สูง ก็ต้องเกิดจากความเชื่อใจของลูกค้า
เพราะหากลูกค้าเดินมาหาเราแล้ว ก็จะเท่ากับว่า พวกเขายินยอมจะฝากข้อมูลเอาไว้บนแพลตฟอร์มของเราด้วย
หากเรารักษามาตรฐาน และตอบโจทย์ลูกค้าได้ดี การที่ลูกค้าจะย้ายฐานข้อมูลไปใช้บริการเจ้าอื่น
หรือหันไปพัฒนาระบบของตัวเอง จะแทบเป็นไปได้ยาก
ถ้าไปดูผลประกอบการของ Salesforce
ปี 2023 (รอบบัญชี กุมภาพันธ์ 2022 - มกราคม 2023)
- มีรายได้ 1,015,000 ล้านบาท
- กำไร 6,700 ล้านบาท
ปี 2024 (รอบบัญชี กุมภาพันธ์ 2023 - มกราคม 2024)
- มีรายได้ 1,129,000 ล้านบาท
- กำไร 134,000 ล้านบาท
ปี 2025 (รอบบัญชี กุมภาพันธ์ 2024 - มกราคม 2025)
- มีรายได้ 1,226,000 ล้านบาท
- กำไร 201,000 ล้านบาท
จะเห็นว่า 3 ปีที่ผ่านมา Salesforce มีอัตราการเติบโตของรายได้โดยเฉลี่ย 10% ต่อปี
ทีนี้ เราลองไปดูการเติบโตของไตรมาสล่าสุด เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้วกันบ้าง
ในไตรมาส 2 ปี 2026 (รอบบัญชี พฤษภาคม - กรกฎาคม 2025)
มีการเติบโตของรายได้เฉลี่ย 9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยกลุ่ม Platform เป็นกลุ่มที่มีการเติบโตมากที่สุดถึง 16%
ด้วยแรงหนุนจากลูกค้าองค์กร ที่หันมาใช้ Agentforce ซึ่งเป็น Agentic AI ของ Salesforce มากขึ้น
ทั้งหมดนี้ ก็เป็นสรุปภาพรวมของธุรกิจ Salesforce
หนึ่งในบริษัทผู้ให้บริการ Software as a Service รายใหญ่มูลค่า 7,400,000 ล้านบาท ที่ธุรกิจขนาดใหญ่ และธุรกิจขนาดเล็กทั่วโลก จำเป็นต้องใช้
ซึ่ง Salesforce ก็เป็น 1 ใน 10 หุ้น ที่ถูกเลือกไปลงทุนในกองทุน MEGA10CYBER
กองทุนที่เน้นลงทุนในด้านบริษัทซอฟต์แวร์ระดับโลก
และมี Switching Cost สูง ที่ผู้ใช้งานจะไม่เปลี่ยนไปใช้เจ้าอื่นได้ง่าย ๆ
—----------------------------
MEGA10CYBER ร่วมเป็นเจ้าของกับ 10 บริษัทเทคโนโลยี ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ (Cybersecurity) และซอฟต์แวร์องค์กร (Enterprise Software)
- กองทุนเปิด MEGA 10 CYBERSECURITY AND ENTERPRISE SOFTWARE ชนิดสะสมมูลค่า (MEGA10CYBER-A) และ กองทุนเปิด MEGA 10 CYBERSECURITY AND ENTERPRISE SOFTWARE เพื่อการเลี้ยงชีพ (MEGA10CYBERRMF) จะเข้าไปลงทุนในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology) ทั้งการพัฒนาและการให้บริการที่ถูกจัดกลุ่มอยู่ในหมวดอุตสาหกรรม Information Technology ในกลุ่มอุตสาหกรรม (Industry Group) ประเภทซอฟต์แวร์และบริการ (Software & Services) ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (New York Stock Exchange: NYSE) หรือ ตลาดหลักทรัพย์แนสแด็ก (Nasdaq Stock Market: NASDAQ)

กองทุนจะเลือกลงทุนในตราสารทุนของบริษัทข้างต้นในกลุ่มอุตสาหกรรมย่อย (Sub-Industry) ดังนี้

- บริการอินเทอร์เน็ตและโครงสร้างพื้นฐาน (Internet Services & Infrastructure)
- ซอฟต์แวร์แอปพลิเคชัน (Application Software)
- ซอฟต์แวร์ระบบ (Systems Software)
จากนั้นจะนำมาคัดเลือกบริษัทที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) สูงสุดจากการเรียงลำดับ และสภาพคล่องสูง
ดังนั้น กองทุนจึงมีการลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม Information Technology
ตัวอย่างบริษัทที่คาดว่า MEGA10CYBER-A และ MEGA10CYBERRMF จะเข้าไปลงทุน เช่น
- CrowdStrike เกี่ยวกับความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ให้บริการ แพลตฟอร์มป้องกันภัยคุกคามแบบคลาวด์ เพื่อป้องกัน ตรวจจับ และตอบสนองต่อการโจมตีทางไซเบอร์แบบเรียลไทม์
- Palo Alto Networks เกี่ยวกับด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ครบวงจร ทั้ง Firewall, Cloud Security และ Threat Intelligence
- AppLovin แพลตฟอร์มโฆษณาและการทำเงินจากแอปมือถือ ให้บริการ AI วิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้งานแบบเรียลไทม์
- Cadence บริษัทเทคโนโลยีที่ให้บริการ ซอฟต์แวร์ออกแบบวงจรรวม (Electronic Design Automation) และโซลูชันสำหรับ การจำลอง ออกแบบ และตรวจสอบชิปเซมิคอนดักเตอร์ ที่ใช้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลก
- Intuit ซอฟต์แวร์การเงินและภาษีสำหรับบุคคล และธุรกิจขนาดเล็ก
- ServiceNow ระบบ Workflow Automation ระดับองค์กร ช่วยจัดการเรื่องบุคลากร และการให้บริการลูกค้าอัตโนมัติ
- Microsoft บริษัทซอฟต์แวร์ขนาดใหญ่ เจ้าของผลิตภัณฑ์ เช่น Windows, Office, Azure และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน OpenAI เจ้าของ ChatGPT และมีธุรกิจโซลูชันที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย เช่น Microsoft Defender for Business, Microsoft Sentinel & Cloud Security และ Microsoft Purview
- Oracle เกี่ยวกับด้านฐานข้อมูลองค์กร ให้บริการระบบ ERP ใช้กันในองค์กรทั่วโลก และมีผลิตภัณฑ์กลุ่มความปลอดภัย เช่น Cloud Security Services และ Database & Infrastructure Security
- Salesforce มีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงด้านซอฟต์แวร์บริหารลูกค้าสัมพันธ์ และบริการคลาวด์ด้านการขาย และการตลาด
- Adobe มีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงด้านซอฟต์แวร์จัดทำคอนเทนต์ภาพนิ่ง และวิดีโอ
*บริษัทดังกล่าวสามารถปรับเปลี่ยนได้ ตามเกณฑ์การลงทุนและสภาวะการลงทุน ณ ขณะนั้น
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดและเริ่มต้นลงทุนได้ที่ บลจ.ทาลิส โทร. 02-0150215, 02-0150216, 02-0150222 หรือ www.talisam.co.th และผู้สนับสนุนการขายหลายราย
การลงทุนในกองทุนรวมตราสารแห่งทุนอาจมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหลักทรัพย์
กองทุนไม่ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน จึงอาจมีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
กองทุนมีการลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรม Information Technology จึงมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก
กองทุนรวมนี้มีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะ เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงของกองทุนรวมก่อนตัดสินใจลงทุน และควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนของกองทุน RMF
กรณีไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขทางภาษีของกรมสรรพากร ผู้ถือหน่วยลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี และจะต้องคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เคยได้รับภายในกำหนดเวลา นอกจากนี้จะต้องชำระเงินเพิ่ม และ/หรือเบี้ยปรับตามประมวลรัษฎากร
© 2025 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon