AI บ่อน้ำมันใหม่ ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ /โดย ลงทุนแมน
หลายทศวรรษที่ผ่านมา ถ้าพูดถึง สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ “ยูเออี” หลายคนคงนึกถึงภาพประเทศที่ร่ำรวยจากการขายน้ำมัน

แต่วันนี้ ยูเออี กำลังเดินเกมใหญ่ที่เดิมพันด้วยทิศทางเศรษฐกิจของตัวเองในอนาคต

นั่นคือ การผลักดันประเทศไปสู่การเป็นศูนย์กลาง “AI” ของโลก

ซึ่งเราได้เริ่มเห็นยูเออี เข้าไปร่วมลงทุนกับบริษัทเทคโนโลยีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Microsoft, Nvidia, OpenAI หรือกระทั่ง TikTok

แล้วยุทธศาสตร์ด้าน AI ที่ยูเออีวางไว้เป็นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

ยูเออี เป็นประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง ปัจจุบันมีมูลค่า GDP ประมาณ 17.3 ล้านล้านบาท ใกล้เคียงกับประเทศไทย

แต่ถ้าดูรายได้ต่อหัวประชากรจะเฉลี่ยอยู่ที่ราว 1.38 ล้านบาทต่อปี สูงกว่าไทยถึง 6 เท่า

สาเหตุหลักคงหนีไม่พ้น การมีแหล่งทรัพยากรพลังงานจำนวนมาก โดยรายได้จากน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ คิดเป็นสัดส่วนกว่า 30% ของมูลค่า GDP เลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยูเออีก็ตระหนักถึงความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาพลังงาน จึงต้องการหาเสาหลักเศรษฐกิจต้นใหม่ขึ้นมาแทน นั่นก็คือ อุตสาหกรรม AI

ในปี 2019 รัฐบาลยูเออี ประกาศแผนยุทธศาสตร์ชาติว่าจะต้องเป็นหนึ่งในผู้นำด้าน AI ของโลกให้ได้ ภายในปี 2031

ซึ่งก็ได้มีการตั้งกระทรวง AI ขึ้นมาเป็นชาติแรกของโลก เพื่อขับเคลื่อนวิสัยทัศน์อย่างเป็นระบบ พร้อมกำหนดเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนมูลค่าอุตสาหกรรม AI ต่อ GDP จากปัจจุบัน 9% เป็น 45%

โดยมีแผนจะใช้ AI ในหลายภาคส่วน ทั้งหน่วยงานรัฐที่ปรับบริการเป็นรูปแบบ Smart Government รวมทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพของอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่าง พลังงาน, โลจิสติกส์ และการท่องเที่ยว

ที่น่าสนใจคือ พวกเขาไม่ได้มองแค่การเป็นผู้ใช้งาน AI เท่านั้น แต่จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งระบบ ตั้งแต่ชิป ดาตาเซนเตอร์ ไปจนถึงซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ด้วย

จึงพยายามสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อสตาร์ตอัป และดึงดูดบุคลากรหัวกะทิเข้ามาด้วยโครงการ Golden Visa ที่ให้พำนักและทำงานระยะยาวในประเทศได้

แต่ท่าไม้ตายเด็ด ที่ทำให้ยูเออีเดินเกมนี้ได้เร็ว คือ การตั้งบริษัทลงทุนระดับประเทศ

ในปี 2024 ยูเออี ก่อตั้งบริษัทบริหารจัดการการลงทุนชื่อว่า MGX ซึ่งหนุนหลังโดย Mubadala กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของรัฐอาบูดาบี

โดยตั้งเป้าหมายมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การจัดการไว้อยู่ที่ราว 3.2 ล้านล้านบาท เพื่อเป็นแกนกลางในการลงทุนเทคโนโลยี AI ทั่วโลก

เรามาดูตัวอย่างดีลที่สำคัญของ MGX

กลุ่มธุรกิจที่ MGX ทุ่มเงินลงไปเยอะมาก เพราะเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักของอุตสาหกรรม AI ก็คือ ดาตาเซนเตอร์ อาทิ

- ร่วมมือกับ Nvidia, Microsoft, BlackRock และ xAI ซื้อกิจการ Aligned Data Centers ผู้ให้บริการดาตาเซนเตอร์รายใหญ่ในทวีปอเมริกาเหนือ ด้วยเงินมูลค่า 1.3 ล้านล้านบาท

- ร่วมมือกับ OpenAI, Oracle และ SoftBank ลงทุนในโครงการชื่อว่า Stargate ด้วยเงินมูลค่า 16 ล้านล้านบาท เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน AI ในสหรัฐฯ

- ร่วมมือกับ Silver Lake บริษัทกองทุนสัญชาติอเมริกัน ซื้อหุ้นสัดส่วน 51% ของ Altera หน่วยผลิตชิปของบริษัท Intel คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.44 แสนล้านบาท

ถัดมาคือ การลงทุนโดยตรงในบริษัทผู้พัฒนาบริการแช็ตบอต AI ที่เราคุ้นเคยกัน ไม่ว่าจะเป็น

- ลงทุนใน OpenAI เจ้าของ ChatGPT ในรอบระดมทุนล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2025 ซึ่งทำให้บริษัทถูกประเมินมูลค่าเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 16 ล้านล้านบาท

- ลงทุนในบริษัทเทคโนโลยี Generative AI อีกหลายแห่ง เช่น Anthropic เจ้าของ Claude ที่มี Amazon และ Google หนุนหลัง, xAI เจ้าของ Grok ที่ก่อตั้งโดยคุณอีลอน มัสก์

นอกจากนั้น MGX ยังเข้าไปลงทุนในแอปพลิเคชันที่โด่งดังในเรื่องอัลกอริทึม AI และเข้าถึงฐานผู้บริโภคจำนวนมากอย่าง TikTok ด้วย

โดยขณะนี้ อยู่ระหว่างร่วมมือกับ Oracle และ Silver Lake เจรจาตกลงซื้อหุ้นสัดส่วน 45% ของธุรกิจ TikTok ในสหรัฐฯ ซึ่งจะทำให้แอปพลิเคชันไม่ถูกแบนในสหรัฐฯ

รวมทั้งก้าวไปในวงการคริปโทเคอร์เรนซี ที่สะท้อนถึงแนวคิดของยูเออีว่า AI และสินทรัพย์ดิจิทัล เป็นสิ่งที่มีความเชื่อมโยงกันในอนาคต

โดยลงทุนในแพลตฟอร์มซื้อขายเจ้าใหญ่อย่าง Binance ด้วยเงินมูลค่า 6.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งมีการชำระเงินด้วยเหรียญ USD1 ของบริษัท World Liberty Financial ที่ก่อตั้งโดยครอบครัวของคุณโดนัลด์ ทรัมป์

จากความเคลื่อนไหวของยูเออีทั้งหมดนี้ จะเห็นได้ว่า
พวกเขากำลังคาดหวังสูงถึงขนาดที่จะเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรม AI แบบครบวงจรให้ได้

ซึ่งต้องบอกว่า จากการที่ยูเออีมีการตั้งนโยบายและเป้าหมายที่ชัดเจน ทำให้หน่วยงานต่าง ๆ ดำเนินการตามแผนได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง

ประกอบกับประเทศมีรายได้มหาศาลจากทรัพยากรพลังงาน ส่งผลให้นำมันมาใช้ลงทุนต่อยอดในอุตสาหกรรม AI ผ่านบริษัท MGX ได้

ดังนั้น การมีส่วนร่วมในระบบนิเวศ AI หลายภาคส่วนตั้งแต่วันนี้ คงสร้างโอกาสและข้อได้เปรียบให้กับเศรษฐกิจยูเออีไม่มากก็น้อย เพราะนี่คือเกมที่ต้องเล่นกันยาวไปอีกหลายสิบปี

ก็ไม่แน่ว่า ภายในทศวรรษนี้ เราอาจได้เห็น ยูเออี กลายเป็นหนึ่งในประเทศที่มีบทบาทสามารถกำหนดทิศทางของโลกยุค AI ก็เป็นได้..