
"จี๋ สุทธิรักษ์" จากนักแสดงสู่ "นักลงทุนสร้างแบรนด์": มองขาดในสมรภูมิสุขภาพ
"จี๋ สุทธิรักษ์" จากนักแสดงสู่ "นักลงทุนสร้างแบรนด์": มองขาดในสมรภูมิสุขภาพ / PR News จากลงทุนแมน
.
“จี๋-สุทธิรักษ์ ทรัพย์วิจิตร” นักแสดงหนุ่มที่คุ้นเคยกับการอยู่หน้ากล้อง วันนี้ได้เปลี่ยนบทบาทอย่างน่าสนใจสู่ "ผู้ร่วมก่อตั้งธุรกิจสุขภาพ" กับแบรนด์ BioActive+ การก้าวกระโดดครั้งนี้ไม่ได้มาจากความปรารถนาที่จะเป็นแค่คนดังทำสินค้า แต่มาจาก Mindset แบบนักลงทุน ที่มองเห็น “โอกาส” และ “ความยั่งยืน” ในตลาดใหม่
.
.
จุดเปลี่ยน: มองเห็น "New Economy" ของคนรุ่นใหม่
.
จี๋เริ่มต้นจากการสังเกต โมเดลธุรกิจสุขภาพในต่างประเทศ ที่ผสานวิทยาศาสตร์ นวัตกรรม และไลฟ์สไตล์เข้าด้วยกันอย่างลงตัว เขาไม่ได้มองเห็นแค่ "เทรนด์" แต่เห็นว่า ธุรกิจสุขภาพกำลังจะกลายเป็น New Economy ที่คนรุ่นใหม่ต้องการการลงทุนในตัวเองอย่างจริงจัง จากจุดนี้ เขาจึงตัดสินใจร่วมลงทุนและก่อตั้ง บริษัท ไบโอแอคทีฟ เอ็นแซต 1984 จำกัด ร่วมกับ ดร.วาสนา อินทะแสง
.
.
กลยุทธ์: ลงทุนในสิ่งที่คนอื่นมองข้าม
.
แทนที่จะเน้นการตลาดแบบฉาบฉวย จี๋เลือก "ลงทุนในพื้นฐาน" ที่แข็งแกร่งที่สุด:
• Product Innovation คือหัวใจ: เขาเชื่อว่าความยั่งยืนมาจากผลิตภัณฑ์ที่ดีจริง และการตลาดจะตามมาเอง
• การลงทุนต้นทาง: BioActive+ เลือกจับมือกับโรงงานที่ดีที่สุด เพื่อให้ได้วัตถุดิบคุณภาพสูง เช่น Astaxanthin จาก AstaReal ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระระดับพรีเมียม
• นวัตกรรมที่เปลี่ยนพฤติกรรม: ลงทุนในการออกแบบ “Drop & Drink” ที่ทำให้การดูแลสุขภาพเป็นเรื่องง่าย พกง่าย และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบ
.
.
Smart Business Partnership: พลังแห่งการรวมความรู้
.
สิ่งที่ทำให้จี๋แตกต่างจากคนดังที่ทำแบรนด์ทั่วไปคือแนวคิด "Smart Partnership" เขามองว่านี่คือการ "เอาความรู้ไปสร้างระบบธุรกิจร่วมกัน" โดยการเลือกพาร์ทเนอร์อย่าง ดร.วาสนา อินทะแสง เพราะความสามารถและความเข้าใจตลาดเชิงลึก
.
การผสานพลังระหว่าง "Brand Strategy x Health Science" ทำให้ BioActive+ เติบโตอย่างรวดเร็ว จี๋เรียกสิ่งนี้ว่า "Potential Partnership" คือการจับมือกับผู้ที่มีศักยภาพในด้านที่ตนเองไม่มี แล้วผลักดันกันให้ถึงเป้าหมายเดียวกัน
.
.
จากนักแสดงสู่เป้าหมาย 1,500 ล้าน
.
เพียง 5 เดือนแรก BioActive+ ก็สามารถสร้างภาพจำว่า "ของดีต้องเห็นผล" ด้วยผลิตภัณฑ์ที่สร้างความแตกต่างอย่างชัดเจน และตั้งเป้ารายได้สิ้นปี 2568 ไว้ที่ 1,500 ล้านบาท
จี๋ไม่ได้เรียกตัวเองว่า "เจ้าของแบรนด์" แต่คือ "นักลงทุนที่สร้างแบรนด์อย่างเข้าใจ" เพราะทุกการกระทำของเขามีการวิเคราะห์ตลาด การวางระบบผลิต และการเลือกพาร์ทเนอร์อย่างรอบคอบ ทั้งหมดนี้คือ Mindset แบบมืออาชีพ ที่มุ่งหวัง “คุณค่าและความยั่งยืนของธุรกิจ” มากกว่าแค่กำไรระยะสั้น
.
.
สำหรับเขา “การลงทุนที่ดีที่สุด อาจไม่ใช่ในหุ้น หรืออสังหาฯ แต่คือการลงทุนในแบรนด์ที่เราเชื่อจริงๆ” ซึ่งกำลังทำให้ จี๋ สุทธิรักษ์ กลายเป็นหนึ่งในกรณีศึกษาธุรกิจที่น่าจับตาที่สุดของปีนี้
.
.
#geesutthirak #จี๋สุทธิรักษ์
#BioActivePlus #BioActiveTH
.
“จี๋-สุทธิรักษ์ ทรัพย์วิจิตร” นักแสดงหนุ่มที่คุ้นเคยกับการอยู่หน้ากล้อง วันนี้ได้เปลี่ยนบทบาทอย่างน่าสนใจสู่ "ผู้ร่วมก่อตั้งธุรกิจสุขภาพ" กับแบรนด์ BioActive+ การก้าวกระโดดครั้งนี้ไม่ได้มาจากความปรารถนาที่จะเป็นแค่คนดังทำสินค้า แต่มาจาก Mindset แบบนักลงทุน ที่มองเห็น “โอกาส” และ “ความยั่งยืน” ในตลาดใหม่
.
.
จุดเปลี่ยน: มองเห็น "New Economy" ของคนรุ่นใหม่
.
จี๋เริ่มต้นจากการสังเกต โมเดลธุรกิจสุขภาพในต่างประเทศ ที่ผสานวิทยาศาสตร์ นวัตกรรม และไลฟ์สไตล์เข้าด้วยกันอย่างลงตัว เขาไม่ได้มองเห็นแค่ "เทรนด์" แต่เห็นว่า ธุรกิจสุขภาพกำลังจะกลายเป็น New Economy ที่คนรุ่นใหม่ต้องการการลงทุนในตัวเองอย่างจริงจัง จากจุดนี้ เขาจึงตัดสินใจร่วมลงทุนและก่อตั้ง บริษัท ไบโอแอคทีฟ เอ็นแซต 1984 จำกัด ร่วมกับ ดร.วาสนา อินทะแสง
.
.
กลยุทธ์: ลงทุนในสิ่งที่คนอื่นมองข้าม
.
แทนที่จะเน้นการตลาดแบบฉาบฉวย จี๋เลือก "ลงทุนในพื้นฐาน" ที่แข็งแกร่งที่สุด:
• Product Innovation คือหัวใจ: เขาเชื่อว่าความยั่งยืนมาจากผลิตภัณฑ์ที่ดีจริง และการตลาดจะตามมาเอง
• การลงทุนต้นทาง: BioActive+ เลือกจับมือกับโรงงานที่ดีที่สุด เพื่อให้ได้วัตถุดิบคุณภาพสูง เช่น Astaxanthin จาก AstaReal ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระระดับพรีเมียม
• นวัตกรรมที่เปลี่ยนพฤติกรรม: ลงทุนในการออกแบบ “Drop & Drink” ที่ทำให้การดูแลสุขภาพเป็นเรื่องง่าย พกง่าย และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบ
.
.
Smart Business Partnership: พลังแห่งการรวมความรู้
.
สิ่งที่ทำให้จี๋แตกต่างจากคนดังที่ทำแบรนด์ทั่วไปคือแนวคิด "Smart Partnership" เขามองว่านี่คือการ "เอาความรู้ไปสร้างระบบธุรกิจร่วมกัน" โดยการเลือกพาร์ทเนอร์อย่าง ดร.วาสนา อินทะแสง เพราะความสามารถและความเข้าใจตลาดเชิงลึก
.
การผสานพลังระหว่าง "Brand Strategy x Health Science" ทำให้ BioActive+ เติบโตอย่างรวดเร็ว จี๋เรียกสิ่งนี้ว่า "Potential Partnership" คือการจับมือกับผู้ที่มีศักยภาพในด้านที่ตนเองไม่มี แล้วผลักดันกันให้ถึงเป้าหมายเดียวกัน
.
.
จากนักแสดงสู่เป้าหมาย 1,500 ล้าน
.
เพียง 5 เดือนแรก BioActive+ ก็สามารถสร้างภาพจำว่า "ของดีต้องเห็นผล" ด้วยผลิตภัณฑ์ที่สร้างความแตกต่างอย่างชัดเจน และตั้งเป้ารายได้สิ้นปี 2568 ไว้ที่ 1,500 ล้านบาท
จี๋ไม่ได้เรียกตัวเองว่า "เจ้าของแบรนด์" แต่คือ "นักลงทุนที่สร้างแบรนด์อย่างเข้าใจ" เพราะทุกการกระทำของเขามีการวิเคราะห์ตลาด การวางระบบผลิต และการเลือกพาร์ทเนอร์อย่างรอบคอบ ทั้งหมดนี้คือ Mindset แบบมืออาชีพ ที่มุ่งหวัง “คุณค่าและความยั่งยืนของธุรกิจ” มากกว่าแค่กำไรระยะสั้น
.
.
สำหรับเขา “การลงทุนที่ดีที่สุด อาจไม่ใช่ในหุ้น หรืออสังหาฯ แต่คือการลงทุนในแบรนด์ที่เราเชื่อจริงๆ” ซึ่งกำลังทำให้ จี๋ สุทธิรักษ์ กลายเป็นหนึ่งในกรณีศึกษาธุรกิจที่น่าจับตาที่สุดของปีนี้
.
.
#geesutthirak #จี๋สุทธิรักษ์
#BioActivePlus #BioActiveTH