
เงินเฟ้อติดลบ 8 เดือนติด ทำไมไทย ยังไม่เข้าภาวะเงินฝืด ?
เงินเฟ้อติดลบ 8 เดือนติด ทำไมไทย ยังไม่เข้าภาวะเงินฝืด ? /โดย ลงทุนแมน
ประเทศไทย เป็นหนึ่งในประเทศที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำมากสุดของโลก โดยตัวเลขเงินเฟ้อติดลบต่อเนื่องมาแล้วถึง 8 เดือน
ประเทศไทย เป็นหนึ่งในประเทศที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำมากสุดของโลก โดยตัวเลขเงินเฟ้อติดลบต่อเนื่องมาแล้วถึง 8 เดือน
เงินเฟ้อที่ต่ำมาก ๆ จนติดลบนั้น ทำให้ไทยเข้าข่ายเป็นประเทศที่กำลังเผชิญกับ “ภาวะเงินฝืด”
แต่เรื่องนี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงพาณิชย์ ปฏิเสธตรงกันว่า ไทยไม่ได้เข้าสู่ภาวะเงินฝืด แม้เงินเฟ้อติดลบมาระยะหนึ่งแล้วก็ตาม
อะไรเป็นเส้นแบ่งระหว่าง ภาวะเงินเฟ้อ และเงินฝืด ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
เมื่อเราต้องใช้เงินซื้อสินค้าเท่าเดิม ด้วยจำนวนเงินที่มากขึ้น เรามักจะรู้สึกว่า สิ่งนี้คือ “เงินเฟ้อ”
แต่บางครั้งในเศรษฐกิจเรา ก็มีทั้งสินค้าที่ราคาเพิ่มขึ้น และราคาลดลง เราจึงมีการสร้างตะกร้าสินค้าและบริการ เพื่อใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของสินค้าโดยรวมในเศรษฐกิจ
ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เรียกว่า “อัตราเงินเฟ้อ”
อย่างไรก็ดี เมื่ออัตราเงินเฟ้อลดลงจนต่ำกว่า 0 หรือที่เรียกว่า อัตราเงินเฟ้อติดลบ ซึ่งหลายคนอาจรู้สึกว่า สิ่งนี้ไม่น่าใช่ความหมายของเงินเฟ้อ แต่เป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกัน นั่นคือ เงินฝืด
ในปัจจุบัน อัตราเงินเฟ้อไทยรายเดือน ก็ออกมาต่ำกว่า 0 ติดต่อกันถึง 8 เดือน
อย่างในเดือนตุลาคม ปี 2025 เงินเฟ้อ -0.76%
และเดือนพฤศจิกายน ปี 2025 เงินเฟ้อ -0.49%
อย่างในเดือนตุลาคม ปี 2025 เงินเฟ้อ -0.76%
และเดือนพฤศจิกายน ปี 2025 เงินเฟ้อ -0.49%
ทำให้หลายคนเกิดคำถามว่า ไทยกำลังเข้าสู่ “ภาวะเงินฝืด” ใช่หรือไม่
ในทางวิชาการแล้ว อัตราเงินเฟ้อที่ติดลบ อาจยังไม่เพียงพอ ในการเข้าสู่ภาวะเงินฝืด
จากรายงานของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ระบุว่า เกณฑ์การเข้าสู่ “ภาวะเงินฝืดแบบเต็มที่” (Outright Deflation) ในเชิงประจักษ์ ประกอบด้วย
1) อัตราเงินเฟ้อรายปี (Annual Inflation) ติดลบ เป็นระยะเวลานาน
2) ราคาสินค้าและบริการลดลงเป็นวงกว้าง หรือลดลงพร้อมกันในหลายหมวด
3) คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อระยะยาว (Longer-Term Inflation Expectations) หลุดกรอบเป้าหมาย
4) การเติบโตทางเศรษฐกิจ อยู่ในระดับต่ำหรือหดตัวลงอย่างต่อเนื่อง
ตัวอย่างประเทศที่เคยเข้าสู่ภาวะเงินฝืดแบบเต็มที่ คือ สหรัฐฯ ในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ หรือ Great Depression ปี 1929 ซึ่งระยะของภาวะเงินฝืดแบบเต็มที่ กินเวลาราว 4 ปี
ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ
ปี 1929 : 0.0% (Great Depression)
ปี 1930 : -2.7%
ปี 1931 : -8.9%
ปี 1932 : -10.3%
ปี 1933 : -5.2%
ปี 1930 : -2.7%
ปี 1931 : -8.9%
ปี 1932 : -10.3%
ปี 1933 : -5.2%
ข้อมูล Real GDP ของสหรัฐฯ
ปี 1929 : 2.3%
ปี 1930 : -8.5%
ปี 1931 : -6.4%
ปี 1932 : -12.9%
ปี 1933 : -1.2%
ปี 1930 : -8.5%
ปี 1931 : -6.4%
ปี 1932 : -12.9%
ปี 1933 : -1.2%
ทั้งนี้ ช่วงเริ่มต้นของวิกฤติในปี 1929 ผู้คนบางส่วนยังเชื่อว่า ราคาสินค้าและบริการที่ลดลง คงเป็นเพียงสถานการณ์ชั่วคราว จึงถูกมองว่าเป็นจังหวะในการซื้อของถูก
แต่เมื่อเวลาผ่านไป เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงติดกับตัวเลขเงินเฟ้อติดลบ ก็ทำให้ผู้คนเริ่มเปลี่ยนการคาดการณ์เกี่ยวกับเงินเฟ้อ (Inflation Expectations) โดยเชื่อว่า ราคาสินค้าและบริการยังคงปรับตัวลงต่อไป
ซึ่งการเปลี่ยนแปลงมุมมองดังกล่าว ยิ่งซ้ำเติมเศรษฐกิจสหรัฐฯ เพราะเมื่อคนปรับมุมมองต่อทิศทางเงินเฟ้อ สิ่งนี้จะเปลี่ยนพฤติกรรมทั้งของผู้บริโภคและผู้ผลิต
โดยผู้บริโภค ก็ตัดสินใจชะลอการใช้จ่ายออกไป เพราะคิดว่า สามารถซื้อของราคาถูกกว่านี้ได้ในอนาคต
ขณะที่ผู้ผลิต ก็เลือกที่จะชะลอการผลิตและการลงทุนออกไป เพราะประเมินว่า ผู้บริโภคมีการชะลอการใช้จ่าย
เมื่อไม่มีทั้งการบริโภคและการลงทุน การจ้างงานและรายได้ของผู้คนก็ไม่เติบโต ทำให้ยิ่งชะลอการบริโภคออกไป
สถานการณ์ข้างต้นนี้ เรียกว่า Deflationary Spiral หรือ วงจรเงินฝืด ซึ่งไม่ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ
อย่างที่เราทราบกันดีว่า แรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจ คือการบริโภคและการลงทุนจากภาคเอกชน ดังนั้น เมื่อเกิดวงจรเงินฝืดขึ้น จึงมีส่วนให้สหรัฐฯ ติดอยู่กับภาวะเศรษฐกิจถดถอย จนถึงปี 1933
ย้อนกลับมาที่เศรษฐกิจไทย โดยข้อมูลคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อระยะ 5 ปี พบว่า ยังคงอยู่ในกรอบเป้าหมาย 1-3% ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
และเมื่อพิจารณาจากเกณฑ์ภาวะเงินฝืดของ ECB อาจบอกได้ว่า เศรษฐกิจไทยยังคงไม่เข้าสู่ภาวะเงินฝืดแบบเต็มที่ เพราะเงื่อนไขยังไม่เข้าทุกองค์ประกอบ
ทว่าแม้เศรษฐกิจไทยยังไม่เกิดภาวะเงินฝืด ตามคำนิยาม แต่ด้วยตัวเลขเงินเฟ้อที่เริ่มติดลบอย่างต่อเนื่อง ก็เสี่ยงทำให้ไทยเผชิญกับวงจรเงินฝืด ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ ที่กำลังเติบโตต่ำกว่าศักยภาพแบบไทย
ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาจต้องจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อดำเนินนโยบาย ที่ป้องกันไม่ให้เกิดวงจรเงินฝืดขึ้น จนซ้ำเติมเศรษฐกิจไทย..
References
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
- สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.)
- Deutsche Bundesbank
- European Central Bank (ECB)
- Federal Reserve Bank of Minneapolis
- Investopedia
- KOF Swiss Economic Institute
- Statista
- The George Washington University, (Gabriel Mathy and Herman O. Stekler)
- Trading Economics
- The Standard Wealth
- The Swiss Journal of Economics and Statistics, (Jean-Marc Natal)
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
- สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.)
- Deutsche Bundesbank
- European Central Bank (ECB)
- Federal Reserve Bank of Minneapolis
- Investopedia
- KOF Swiss Economic Institute
- Statista
- The George Washington University, (Gabriel Mathy and Herman O. Stekler)
- Trading Economics
- The Standard Wealth
- The Swiss Journal of Economics and Statistics, (Jean-Marc Natal)