BITEC จากศูนย์แสดงสินค้าแห่งแรกของไทย สู่แม่เหล็กดึงเงินสำคัญ เข้าประเทศ

BITEC จากศูนย์แสดงสินค้าแห่งแรกของไทย สู่แม่เหล็กดึงเงินสำคัญ เข้าประเทศ

BITEC จากศูนย์แสดงสินค้าแห่งแรกของไทย สู่แม่เหล็กดึงเงินสำคัญ เข้าประเทศ / ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง x BITEC
ถ้านึกภาพว่าชาวต่างชาติจะมาเที่ยวอะไรในประเทศไทย คำตอบก็คงเป็นแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติอย่างเกาะ ทะเล ภูเขา หรือแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เช่น วัดวาอารามหรือโบราณสถานต่าง ๆ
แต่จริง ๆ แล้ว ประเทศไทยยังมีอีกหนึ่งประตูบานใหญ่ที่รองรับชาวต่างชาติได้ต่อเนื่องตลอดปี นั่นคือ ศูนย์แสดงสินค้า เช่น BITEC ที่เป็นพื้นที่จัดแสดงสินค้า ไปจนถึงพื้นที่จัดแสดงคอนเสิร์ตที่สร้างรายได้เข้าประเทศอีกมากมาย
และไม่ใช่แค่รายได้ทางตรงที่เข้ามาใน BITEC แค่อย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึงรายได้ทางอ้อมอื่น ๆ จากการที่ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมนี้อีกด้วย
การมีศูนย์แสดงสินค้าอย่าง BITEC ช่วยดึงเงินเข้าประเทศอย่างไรบ้าง ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ปัจจุบัน การเดินทางของชาวต่างชาติเข้ามาในประเทศไทย ถ้าไม่เป็นเรื่องการท่องเที่ยว ก็เป็นเรื่องการเข้ามาเพื่อติดต่อธุรกิจอะไรบางอย่าง เช่น การประชุม, การดูงาน, เข้าร่วมงานแสดงสินค้า หรืออะไรอื่น ๆ แบบนี้แทน
ซึ่งในการเดินทางเข้ามาเพื่อติดต่อธุรกิจเหล่านี้ เราเรียกรวม ๆ ในอุตสาหกรรมนี้ว่า MICE
คำนี้ย่อมาจากตัวอักษรแรกของคำ 4 คำ นั่นคือ
- M คือ Meeting หรือการจัดการประชุมองค์กรหรือหน่วยงานต่าง ๆ
- I คือ Incentive หรือการท่องเที่ยวและจัดกิจกรรมเป็นรางวัลสร้างแรงจูงใจขององค์กรต่าง ๆ
- C คือ Convention หรือการประชุม
- E คือ Exhibition หรืองานแสดงสินค้า
MICE เป็นอุตสาหกรรมที่คนส่วนใหญ่อาจจะไม่ได้สนใจกัน แต่จริง ๆ แล้ว นี่เป็นอีกประตูบานใหญ่ที่สามารถดึงเม็ดเงินเข้าประเทศได้มหาศาล เพราะเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนต่าง ๆ ก็สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศไทยได้มหาศาลถึงหลักแสนล้านบาทอยู่แล้ว
นอกจากนี้อุตสาหกรรม MICE อาจเป็นสิ่งที่ใหม่สำหรับสังคมไทยพอสมควร เพราะจริง ๆ แล้วประเทศไทยเพิ่งมีพื้นที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมก็ตอนปี พ.ศ. 2540 ที่ผ่านมานี้เอง
ทำให้ถ้านับถึงปีปัจจุบันนี้ ประเทศไทยเพิ่งตั้งไข่อุตสาหกรรมนี้แค่เกือบ 30 ปีเท่านั้น
ซึ่งการเกิดขึ้นของศูนย์นิทรรศการและการประชุมขนาดใหญ่ในปี พ.ศ. 2540 นั้น ก็คือ BITEC ศูนย์แสดงสินค้าที่ออกแบบมาโดยเฉพาะแห่งแรกของไทย โดยมีการสร้างและบริหารสถานที่จากกลุ่มบริษัทภิรัชบุรี
ที่เป็นผู้ประกอบกิจการ พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2529
ในช่วงเวลานั้น เศรษฐกิจไทยมีอัตราการเติบโตที่สูงมาก สูงมากแบบคนที่เกิดยุคหลัง ๆ ไม่เคยได้สัมผัสว่ามันเติบโตมากแค่ไหน เพราะระหว่างปี พ.ศ. 2537-2539 นั้น GDP เติบโตเฉลี่ย 7.3% ต่อปี
แม้เศรษฐกิจไทยจะเติบโตแบบร้อนแรงในช่วงนั้นมากแค่ไหน แต่สิ่งที่หายไปจากเศรษฐกิจไทยในตอนนั้น คือ ศูนย์นิทรรศการขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับการแสดงสินค้า หรือเป็นที่พบปะทางธุรกิจได้เลย ทำให้กลุ่มบริษัทภิรัชบุรีมองเห็นโอกาส และสร้างโครงการ BITEC ที่บางนาขึ้นมา
จากวันแรกที่ BITEC ก่อตั้งขึ้นมา อุตสาหกรรมที่เรียกว่า MICE ก็ค่อย ๆ เติบโตเคียงข้างไปด้วยกัน จนอาจพูดได้ว่า BITEC ช่วยวางรากฐานอุตสาหกรรมนี้ให้ประเทศไทยก็คงไม่ผิดนัก
แล้วที่ผ่านมา อุตสาหกรรม MICE ในไทย เติบโตขึ้นแค่ไหน ?
จากข้อมูลสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) ในช่วงก่อนที่เศรษฐกิจจะล็อกดาวน์พบว่า อุตสาหกรรมนี้สามารถทำเงินให้ประเทศไทยได้เกือบหลักแสนล้านบาท จากผู้เดินทางที่เข้ามาหลักล้านคนต่อปี
ปี พ.ศ. 2561
- จำนวนผู้เข้าร่วม 2,053,000 คน
- จำนวนงาน 8,626 งาน
- รายได้จากการจัดงาน 128,000 ล้านบาท
ปี พ.ศ. 2562
- จำนวนผู้เข้าร่วม 1,773,000 คน
- จำนวนงาน 7,419 งาน
- รายได้จากการจัดงาน 96,000 ล้านบาท
อุตสาหกรรมนี้ สามารถทำเงินให้ประเทศได้เกือบหลักแสนล้านบาท จากจำนวนงานหลักพันและผู้เข้าร่วมงานที่เดินทางเข้ามาในไทยหลักล้านคนต่อปี
ซึ่งในปีล่าสุดอย่างปี พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมา แม้จำนวนงานลดลงเหลือเพียง 2,823 งาน แต่ก็มีผู้เข้าร่วมงานมากถึง 1,699,000 คน และสร้างรายได้จากการจัดงานถึง 94,000 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงปี พ.ศ. 2562
นอกจากรายได้จากการจัดงานแล้ว ลองนึกภาพตามว่าผู้เข้าร่วมงานนิทรรศการหรือการประชุมในไทย ก็ต้องเดินทางไปท่องเที่ยวหรือพักผ่อนตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในไทยเพิ่มเติม สร้างรายได้ให้กับโรงแรม ร้านอาหาร ภัตตาคาร สปา ห้างสรรพสินค้า แท็กซี่ หรืออุตสาหกรรมท่องเที่ยวอื่น ๆ ตามมาด้วย
ดังนั้น รายได้จากการท่องเที่ยวในไทยจำนวนมหาศาลในทุก ๆ ปี ส่วนหนึ่งก็อาจมาจากรายได้ทางอ้อมจากผู้เดินทางที่เข้ามาในไทยเพื่อร่วมงานนิทรรศการหรือการประชุม ที่จับจ่ายใช้สอยไปกับเรื่องพวกนี้ไม่มากก็น้อย
โดยปัจจุบัน BITEC ก็ได้เป็นส่วนหนึ่งให้กับอุตสาหกรรม MICE ด้วยการขยายพื้นที่ของตัวเองให้มากขึ้น ทำให้ตอนนี้มีพื้นที่จัดแสดงกว่า 70,000 ตารางเมตร
ซึ่งมีพื้นที่รองรับการจัดงานได้หลากหลายรูปแบบ ไล่ตั้งแต่ Exhibition, Meeting and Convention, Entertainment และ Special event เพื่อตอบโจทย์ผู้จัดงานทั้งในไทยและต่างประเทศ
การมีพื้นที่รองรับรูปแบบงานที่หลากหลายแบบครบวงจร ทำให้ BITEC รองรับงานแสดงสินค้าระดับประเทศและนานาชาติ 70% ตามมาด้วยอิเวนต์พิเศษ 20% การประชุม 5% และเอนเทอร์เทนเมนต์ 5%
ที่น่าสนใจก็คือว่า ปัจจุบัน BITEC ไม่ได้รองรับอุตสาหกรรม MICE อย่างการแสดงสินค้าและการประชุม แบบเดิมอย่างเดียวอีกต่อไป แต่ยังรุกไปในอุตสาหกรรมใหม่อย่างคอนเสิร์ตและเอนเทอร์เทนเมนต์เพิ่มเติม
ด้วยการสร้างพื้นที่ใหม่ที่เรียกว่า BITEC Live ที่เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2567 ที่ผ่านมานี้เอง โดยมีตัวอย่างงานที่โดดเด่นก็เช่น DENTISTE’ Presents: LISA Fan Meetup in Asia 2024 ที่มีศิลปินคนไทยระดับโลกชื่อดังอย่างลิซ่า ที่จัดงานแฟนมีตติ้งเดี่ยวครั้งแรกในประเทศไทย
โดยมีความจุของฮอลล์ที่สูงสุดถึง 10,000 คน และรองรับที่นั่งได้ถึง 7,000 คน ทำให้ BITEC ในอนาคตจะสามารถสร้างโอกาสให้ประเทศในการรองรับคอนเสิร์ตและงานเอนเทอร์เทนเมนต์ได้มากขึ้นต่อจากนี้
การเติบโตของ BITEC ก็ยังคงพัฒนาไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง จากการมีพื้นที่รองรับคอนเสิร์ตและเอนเทอร์เทนเมนต์ที่รองรับให้ไทยพร้อมสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับเศรษฐกิจของประเทศ
ซึ่งพื้นที่บางนา สามารถเดินทางเชื่อมต่อได้สะดวกไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า BTS หรือรถยนต์ ก็ยิ่งเสริมพลังให้กับ BITEC เป็นศูนย์นิทรรศการและการประชุมของไทย ที่มีความพร้อมรองรับผู้เดินทางเข้าร่วมจากทั่วโลกได้อย่างสะดวกแบบนี้ไปเรื่อย ๆ
และทำให้ BITEC ไม่ใช่แค่ศูนย์แสดงสินค้าเท่านั้น แต่คือประตูบานใหญ่ที่ดึงเม็ดเงินเข้าสู่ประเทศไทย..
References
-เอกสารประชาสัมพันธ์ BITEC
-https://datahub.tceb.or.th/dashboard/mice-statistics-performance
© 2025 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.
Blockdit Icon