
หนึ่งปี หนึ่งบทเรียนที่สำคัญที่สุด ของลงทุนแมน
หนึ่งปี หนึ่งบทเรียนที่สำคัญที่สุด ของลงทุนแมน
มีเรื่องราว เหตุการณ์มากมาย เกิดขึ้นตลอดปีที่ผ่านมา
ถ้าให้ลงทุนแมน สรุปเหตุการณ์สำคัญ ๆ ใน 1 ปีที่ผ่านมา ก็อาจจะเล่าไม่หมด
ถ้าให้ลงทุนแมน สรุปเหตุการณ์สำคัญ ๆ ใน 1 ปีที่ผ่านมา ก็อาจจะเล่าไม่หมด
แต่ถ้าจะให้สรุปบทเรียนที่สำคัญที่สุด ที่ลงทุนแมน ตกผลึกได้ในปีนี้
นั่นคือคำว่า “Trust”
Trust ในที่นี้หมายถึง ความไว้วางใจ ความเชื่อใจ
ซึ่งสำคัญกว่าเงินทอง เป็นสิ่งที่พยุงและขับเคลื่อนตลาดทุน สังคม และเศรษฐกิจของมนุษย์ มาทุกยุค ทุกสมัย
Trust ทำให้ธุรกิจเติบโต รวมถึงรอดพ้นเมื่อเจอวิกฤติ
ซึ่งผู้บริโภคยอมจ่ายในแบรนด์สินค้าที่พวกเขา Trust มากกว่า แม้จะราคาสูงกว่าก็ตาม
ซึ่งผู้บริโภคยอมจ่ายในแบรนด์สินค้าที่พวกเขา Trust มากกว่า แม้จะราคาสูงกว่าก็ตาม
Trust ทำให้ธนาคารยอมปล่อยกู้ กับธุรกิจ เพื่อนำเงินไปขยายกิจการ จนเศรษฐกิจเติบโต
Trust ทำให้นักลงทุน กล้าลงเงินเดิมพัน กับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ที่มีวิสัยทัศน์ จนเปลี่ยนแปลงโลกให้ดีขึ้นได้
Trust เสมือนออกซิเจน ที่สังคม เศรษฐกิจ และอารยธรรมมนุษย์ ขาดไม่ได้
ทุกสิ่ง ทุกอย่าง หากทำให้คนสงสัย หรือขาด Trust
เวลาจะทำอะไรก็ติดขัด หรือผิดพลาดไปหมด
เวลาจะทำอะไรก็ติดขัด หรือผิดพลาดไปหมด
CEO หรือผู้นำประเทศ แม้เก่งแค่ไหน มีผลงานมามากมาย มีคอนเน็กชันเยอะ แต่ถ้าไม่มี Trust อย่างเช่น ขาดความซื่อสัตย์ ขาดธรรมาภิบาล เมื่อไร
ก็ยากที่จะพาให้ผู้คน เกิดความเต็มใจ หรือร่วมแรงร่วมใจอย่างเต็มที่ เพื่อพาองค์กร พาประเทศ ไปสู่จุดหมาย
หนักไปกว่านั้น คนที่ไม่มี Trust อาจเป็นคนทำลายองค์กรเสียเอง..
แบรนด์ไหน ดูมีพิรุธ ทำธุรกิจไม่โปร่งใส ลูกค้าก็พร้อมหันหลังให้
กิจการดูดี งบการเงินสวย รายได้ กำไร เติบโตต่อเนื่องตลอด แต่ถ้านักลงทุนสงสัยเรื่อง Trust ของผู้บริหารเมื่อไร ราคาหุ้นก็พร้อมดิ่งลงเหว ได้ทุกเมื่อ
ในแง่ของความสัมพันธ์ที่ขาด Trust ไม่ว่าจะมิติคู่รัก ครอบครัว เพื่อนฝูง หรือธุรกิจ ความสัมพันธ์ที่ดีและยืนยาว ก็เกิดขึ้นไม่ได้
ปัญหาอะไรหลาย ๆ อย่างในสังคมและเศรษฐกิจไทย แม้แต่ตลาดทุนไทย ที่ทำให้เราไม่ไปไหน ก็มาจากการขาด Trust
ประชาชนไม่เชื่อมั่นในรัฐบาล
ผู้คนไม่เชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจ
ผู้บริโภคไม่เชื่อใจแบรนด์ หรือองค์กรต่าง ๆ
ผู้บริหารทำให้นักลงทุน รู้สึกว่า ไม่น่าไว้วางใจ
ลูกจ้าง รู้สึกไม่ไว้ใจ นายจ้าง
คนรุ่นเก่า และคนรุ่นใหม่ ต่างขาด Trust ซึ่งกันและกัน
ผู้คนไม่เชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจ
ผู้บริโภคไม่เชื่อใจแบรนด์ หรือองค์กรต่าง ๆ
ผู้บริหารทำให้นักลงทุน รู้สึกว่า ไม่น่าไว้วางใจ
ลูกจ้าง รู้สึกไม่ไว้ใจ นายจ้าง
คนรุ่นเก่า และคนรุ่นใหม่ ต่างขาด Trust ซึ่งกันและกัน
สิ่งเหล่านี้ ล้วนมีต้นทุนมหาศาลที่ต้องจ่าย และฉุดรั้งไม่ให้เราเดินไปข้างหน้า หรือสร้างอนาคต ได้อย่างเต็มที่
นอกจากนี้ ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เช่น สแกมเมอร์, ทุนเทา
ก็อาจซ้ำเติมเรื่อง Trust ทำให้ไทยขาดความเชื่อมั่นในสายตาชาวโลก
ก็อาจซ้ำเติมเรื่อง Trust ทำให้ไทยขาดความเชื่อมั่นในสายตาชาวโลก
ต้องบอกว่า การทำลาย Trust สร้างความเจ็บปวดเสมอ..
ทั้งความรู้สึกของผู้คน กลไกทางสังคม และความเสียหายทางเศรษฐกิจ
กลับกัน
การฟื้นฟู และบ่มเพาะ Trust เช่น
การสร้างความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ นักลงทุน
การสร้างกฎระเบียบของตลาดให้ซื่อสัตย์ เป็นธรรม
การสร้างความโปร่งใส ในนโยบายและการใช้จ่ายของภาครัฐ
ฯลฯ
การฟื้นฟู และบ่มเพาะ Trust เช่น
การสร้างความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการ นักลงทุน
การสร้างกฎระเบียบของตลาดให้ซื่อสัตย์ เป็นธรรม
การสร้างความโปร่งใส ในนโยบายและการใช้จ่ายของภาครัฐ
ฯลฯ
หรือในชีวิตประจำวัน อย่างการทำตามในสิ่งที่เคยพูดไว้
การซื่อสัตย์ต่อกันระหว่างผู้คน
การซื่อสัตย์ต่อกันระหว่างผู้คน
แม้การสร้าง Trust เป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้โดยตรงทันที และต้องใช้เวลา แต่อะไรที่ได้มายาก ย่อมมีคุณค่าเสมอ
เพราะในระยะยาว มันจะหล่อเลี้ยงผู้คน สังคม และเศรษฐกิจของเรา ให้แข็งแรง และรุ่งเรือง กว่าที่เคย
ปัจจุบัน คนเรามักจะทุ่มเท และขวนขวาย เพื่อสะสมเงินทอง สะสมทรัพย์สิน เพิ่มพูนความรู้ ความสามารถ
สะสมชื่อเสียง และคอนเน็กชัน
สะสมชื่อเสียง และคอนเน็กชัน
ซึ่งต่างเป็นสิ่งที่ดี
แต่สิ่งสำคัญอีกอย่าง ที่เรามักหลงลืม หรือมองข้ามไป
ซึ่งเป็นสิ่งที่คุ้มค่ากับการลงทุน
เพราะช่วยให้เส้นทางการเติบโต ความสัมพันธ์ และคุณภาพชีวิต ของเราดีขึ้นได้
ซึ่งเป็นสิ่งที่คุ้มค่ากับการลงทุน
เพราะช่วยให้เส้นทางการเติบโต ความสัมพันธ์ และคุณภาพชีวิต ของเราดีขึ้นได้
นั่นก็คือ การสร้างและสะสม Trust..
คุณวอร์เรน บัฟเฟตต์ เคยบอกไว้ว่า
“Trust is like the air we breathe – when it’s present, nobody really notices
when it’s absent, everybody notices.”
“Trust is like the air we breathe – when it’s present, nobody really notices
when it’s absent, everybody notices.”
หรือหมายความว่า
“Trust นั้นก็เหมือนอากาศที่เราหายใจ
เวลามีอยู่ เราแทบไม่รู้สึก แต่พอขาดหายไป ทุกคนรู้สึกได้”
“Trust นั้นก็เหมือนอากาศที่เราหายใจ
เวลามีอยู่ เราแทบไม่รู้สึก แต่พอขาดหายไป ทุกคนรู้สึกได้”
นี่คือบทเรียนสำคัญ ที่ลงทุนแมน ตกผลึกได้ในปีนี้
ก่อนจะจบปี บทเรียนที่สำคัญที่สุดของคุณ ที่ได้มาในช่วงปีที่ผ่านมา คืออะไร ?
และปีหน้า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
ก็คงมี “บทเรียนชีวิต” บทใหม่ ให้เราเรียนรู้ และเติบโต เป็นคนที่ดีขึ้น อีกเหมือนกัน..
ก็คงมี “บทเรียนชีวิต” บทใหม่ ให้เราเรียนรู้ และเติบโต เป็นคนที่ดีขึ้น อีกเหมือนกัน..
“Happy New Year 2026 ครับ”