เฮนรี ฟอร์ด ความสำเร็จมักเกิดจากความล้มเหลว

เฮนรี ฟอร์ด ความสำเร็จมักเกิดจากความล้มเหลว

15 มิ.ย. 2018
เฮนรี ฟอร์ด ความสำเร็จมักเกิดจากความล้มเหลว / โดย ลงทุนแมน
ทุกคนคงรู้จักรถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด
รู้ไหมว่าบริษัทนี้ก่อตั้งโดย เฮนรี ฟอร์ด
และฟอร์ดถือเป็นจุดเริ่มต้นของยุคอุตสาหกรรมสมัยใหม่ ซึ่งใช้เทคนิคการผลิตที่เรียกว่า “Assembly Line”
ในช่วงแรกที่ฟอร์ดเริ่มทำการทดลองเกี่ยวกับเครื่องยนต์นั้น โทมัส เอดิสัน นักประดิษฐ์ชื่อก้องโลกก็เป็นหนึ่งในผู้ให้การสนับสนุนด้วย
แต่ใครจะคิดว่าฟอร์ดก็ล้มเหลวหลายครั้ง จนกว่าจะประสบความสำเร็จ
เรื่องนี้น่าสนใจอย่างไร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

เฮนรี ฟอร์ด เกิดเมื่อปี 1863 ในสมัยเด็กเขาเกิดขึ้นมาในครอบครัวที่ยากจนโดยมีพ่อแม่เป็นชาวไร่
วันหนึ่งสมัยที่ฟอร์ดเป็นวัยรุ่น พ่อของเขาได้ให้ของขวัญเป็นนาฬิกาข้อมือ
นั่นถือเป็นจุดเริ่มต้นในความเชี่ยวชาญเรื่องการผลิตของเขา
เขามักจะรื้อและประกอบนาฬิกาของเขาและของเพื่อน เพื่อมาซ่อมหลายครั้ง จนทำให้เขามีชื่อเสียงในด้านการซ่อมนาฬิกาอย่างมาก

เมื่อเขาอายุ 13 ปี แม่ของฟอร์ดจากไป เหตุการณ์นี้ทำให้เขาเสียใจมาก
พ่อของเขาหวังจะให้เขามาดูแลฟาร์มต่อ แต่เขาปฏิเสธ และบอกว่า เขาไม่ได้รักอาชีพการทำไร่ แต่ที่เขาช่วยทำงานในไร่ เพราะเขารักแม่ของเขา

ตอนอายุ 16 ปี เขาออกเดินทางไปเมืองดีทรอยต์ โดยทำงานเป็นช่างยนต์
ต่อมาอายุ 28 ปี เขาได้ทำงานเป็นวิศวกรที่บริษัท เอดิสัน อิลมูนิเนทติ้ง ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าของโทมัส เอดิสัน

ทำงานมาสักพัก เขาเริ่มมีเวลาและมีเงินเก็บ ทำให้เขาเริ่มทำการทดลองเครื่องยนต์เบนซิน ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาสนใจ
ตอนอายุ 36 ปี หรือปี 1899 ฟอร์ดลาออกจากบริษัทของเอดิสัน เพื่อก่อตั้ง บริษัท ดีทรอยต์ ออโต้โมบิล
เขาเป็นคนออกแบบและผลิตรถยนต์ แต่รถที่นำออกมาขาย กลับไม่ได้ความนิยม ทั้งคุณภาพที่ไม่ดีและราคาสูงไป ทำให้บริษัทต้องล้มละลายใน 1 ปีต่อมา

ตอนอายุ 38 ปี หรือปี 1901 เขาไม่ยอมแพ้ จนมาตั้งบริษัทที่ชื่อว่า “เฮนรี ฟอร์ด” อีกครั้ง
แต่ไม่นานนัก บริษัทแห่งนี้ก็ถูกยุบอีก และฟอร์ดก็ต้องออกจากบริษัท หลังมีความเห็นไม่ตรงกันกับผู้สนับสนุนทางการเงินของบริษัท

ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะล้มเลิกหรือถอดใจไปแล้ว เพราะต้องเจอกับความล้มเหลวในเวลาไม่ห่างกันเท่าไร
..แต่คงไม่ใช่สำหรับชายที่ชื่อ เฮนรี ฟอร์ด..

ตอนอายุ 40 ปี หรือปี 1903 ด้วยใจที่รักเกี่ยวกับรถยนต์และความพยายามไม่ย่อท้อ ฟอร์ดกลับมาตั้งบริษัทเป็นครั้งที่ 3 โดยใช้ชื่อว่า “ฟอร์ด มอเตอร์”
ครั้งนี้ เขานำระบบสายพานมาใช้ในการผลิต โดยให้อุปกรณ์ไหลไปตามสายพานและให้คนงานประกอบรถยนต์ทีละส่วน หรือที่เราคุ้นเคยกันว่า Assembly Line

ด้วยระบบการผลิตนี้ ทำให้เขาสามารถออกแบบรถยนต์ที่มีราคาถูกและทนทาน จนรถยนต์ของฟอร์ดได้รับความนิยมไปทั่วอเมริกา โดยเฉพาะ Ford Model T ที่นับเป็นการปฏิวัติการเดินทางของมนุษย์
ลองนึกภาพก่อนหน้านั้น รถยนต์มีราคาแพง ดังนั้นรถยนต์จะมีใช้กันในเฉพาะกลุ่มคนรวยเท่านั้น คนส่วนใหญ่จะใช้รถม้าในการเดินทาง
เมื่อฟอร์ดสามารถผลิตรถยนต์ได้ในราคาถูก รถยนต์จึงค่อยๆ เข้ามาแทนที่รถม้าอย่างสิ้นเชิง
Ford Model T ถูกผลิตขึ้นในปี 1908 เรามาดูจำนวนม้าในสหรัฐอเมริกากัน..
ปี ค.ศ.1910 มีม้าประมาณ 24 ล้านตัว
ปี ค.ศ.1930 มีม้าประมาณ 18 ล้านตัว
ปี ค.ศ.1960 เหลือม้าเพียง 3 ล้านตัว

ที่น่าสนใจคือ แม้ฟอร์ดจะเป็นนักธุรกิจ แต่เขาไม่ได้มุ่งหวังเพียงผลกำไรเท่านั้น เขายังคำนึงสวัสดิการ ความเป็นอยู่ของแรงงาน
ฟอร์ดเป็นคนริเริ่มในการปรับค่าแรงขั้นต่ำ และลดชั่วโมงการทำงานให้แก่แรงงานของเขา

แต่แล้ว ในปี 1929 โลกได้เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่
คนอเมริกัน 1 ใน 4 ตกงาน
ทำให้อุตสาหกรรมรถยนต์ได้รับผลกระทบอย่างหนัก บริษัทรถยนต์จำนวนมากต้องปลดคนงานและปิดตัวลง
แต่บริษัทใหญ่ในอุตสาหกรรมรถยนต์ คือ ฟอร์ด มอเตอร์, เจเนอรัล มอเตอร์ และไครสเลอร์ คอร์ปอเรชั่น สามารถอยู่รอดได้ และในช่วงนั้นทั้ง 3 รายนี้ ครองส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ในอเมริกากว่า 80%

ปัจจุบัน ยอดขายรถของฟอร์ด มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 7% ในตลาดรถยนต์ทั่วโลก
ปี 2015 ฟอร์ดขายรถได้ 6.63 ล้านคัน
ปี 2016 ฟอร์ดขายรถได้ 6.65 ล้านคัน
ปี 2017 ฟอร์ดขายรถได้ 6.61 ล้านคัน

รายได้และกำไรของของบริษัท ฟอร์ด มอเตอร์
ปี 2015 รายได้ 4.80 ล้านล้านบาท กำไร 235,935 ล้านบาท
ปี 2016 รายได้ 4.86 ล้านล้านบาท กำไร 147,072 ล้านบาท
ปี 2017 รายได้ 5.02 ล้านล้านบาท กำไร 243,200 ล้านบาท
กำไรที่ลดลงในปี 2016 เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางบัญชี
แม้วันนี้เฮนรี ฟอร์ด จะจากโลกนี้ไปแล้ว แต่เชื่อว่าวันที่เขาก่อตั้งบริษัท แม้แต่ตัวเขาเองก็คงนึกไม่ถึงเหมือนกันว่า วันหนึ่งบริษัทเขาจะมียอดขายและกำไรมากเท่านี้
เฮนรี ฟอร์ด เป็นอีกตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า กว่าเราจะประสบความสำเร็จ ต้องผ่านเรื่องราวแย่ๆ มาก่อน
เขาต้องตั้งบริษัทแล้วเจ๊งถึงหลายครั้ง กว่าจะมาเป็นฟอร์ด มอเตอร์ ในปัจจุบัน
ถ้าวันนี้เรากำลังเจอความล้มเหลว ก็อย่าเพิ่งล้มเลิก
ขอให้นึกถึงคำพูดของฟอร์ดที่ว่า “ความสำเร็จกว่า 99% นั้น มักเกิดจากความล้มเหลวเสมอ”..
----------------------
หลายครั้งที่ความสำเร็จมักเกิดจากความล้มเหลว ติดตามเรื่องราวแรงบันดาลใจอื่น ๆ ได้ที่
-แอปลงทุนแมน blockdit.com/app
-อินสตาแกรม instagram.com/longtunman
-ทวิตเตอร์ twitter.com/longtunman
-ไลน์ line.me/R/ti/p/%40longtunman
-หนังสือลงทุนแมน 3.0 ที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ
----------------------
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.