รายได้ของ สารัช มะขามจี๊ดจ๊าด / โดย ลงทุนแมน

ใครจะไปคิดว่า
ธุรกิจมะขามแปรรูปขนาดเล็กในครอบครัว
ซึ่งกำเนิดมาเมื่อ 40 ปีก่อน จากข้าราชการครูคู่หนึ่ง
มาวันนี้ธุรกิจนี้จะสร้างรายได้ให้แก่ครอบครัวกว่า 150 ล้านบาท

พวกเขาเริ่มมาได้อย่างไร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง

ก่อนอื่นถ้าเราพูดถึงมะขาม

ทุกคนต้องนึกถึงจังหวัดเพชรบูรณ์

ใช่แล้ว

เรื่องนี้ก็เริ่มต้นขึ้นที่จังหวัดนี้เช่นกัน

จุดเริ่มต้น เกิดจากคุณจินดา และคุณสุภาลักษณ์ กมลธรไท ซึ่งมีอาชีพเป็นข้าราชการครู ณ โรงเรียนประจำอำเภอแห่งหนึ่งในจังหวัดเพชรบูรณ์

จังหวัดเพชรบูรณ์ถือว่าเป็นจังหวัดที่มีผลผลิตมะขามมากที่สุดในประเทศไทย

ทั้งคู่หารายได้เสริมจากอาชีพครู โดยการนำมะขามมาแปรรูปในแบบต่างๆ เช่น มะขามแก้ว มะขามแช่อิ่ม โดยทั้งคู่และลูกชายจะช่วยกันทำ

หลังจากนั้นคุณจินดา ก็จะขับรถแล้วนำไปฝากขายตามท่ารถต่างๆ ซึ่งตอนนั้นมีรายได้เสริมเฉลี่ยเดือนละ 10,000 บาท

วันหนึ่งครอบครัวกมลธรได้ไปออกงานเกษตรแฟร์และงานนิทรรศการสวนอัมพร ซึ่งเป็นงานที่คุณสารัช กมลธรไท ลูกชาย เห็นพ่อแม่เขามาขายของแล้วก็รู้สึกสงสาร เพราะทั้งคู่เหนื่อยและลำบากมากเพื่อหารายได้จากการขายมะขาม

คุณสารัชจึงตั้งใจว่า เขาต้องหาทางแปรรูปและเพิ่มมูลค่าสินค้าของครอบครัวให้ได้ เพื่อสร้างรายได้มากขึ้น พ่อแม่จะได้ไม่ต้องเหนื่อยอย่างที่ผ่านมา

หลังคุณสารัชเรียนจบเมื่ออายุ 24 ปี จึงออกมาช่วยงานที่บ้าน

เขาวางแผนในการแปรรูปผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงออกแบบแพ็กเกจจิ้งด้วยตัวเอง

โดยเริ่มจากการใช้ดินสอเขียนลงในกระดาษ และไปดูตัวอย่างแพ็กเกจจิ้งต่างๆ ในห้องสมุดของมหาวิทยาลัย จนค่อยๆ พัฒนาให้มีความสวยงาม และน่าสนใจมากขึ้น

ในปี 2546 จุดเปลี่ยนแรกของมะขามแปรรูปสารัชก็มาถึง

เมื่อมีโอกาสเข้าไปนำเสนอสินค้าในร้าน 7-11 ซึ่งคำตอบที่ได้รับจากร้าน 7-11 กลับมาคือ

..ทางคุณสามารถผลิตสินค้าเพิ่มจากปัจจุบันเกือบ 100 เท่าได้ไหม..

คุณสารัชและครอบครัวก็มานั่งคิดว่าควรทำอย่างไร

เพราะถ้าปฏิเสธโอกาสนี้ก็อาจจะไม่สามารถพัฒนาสินค้าและเพิ่มยอดขายได้

แต่ถ้ารับข้อเสนอก็ต้องหาทางผลิตให้ได้ตามที่ตกลงกันไว้

สุดท้าย คุณสารัชและครอบครัวตัดสินใจไปกู้ธนาคาร เพื่อนำเงินมาลงทุนขยายกำลังการผลิตเพิ่ม

แต่ในใจคุณสารัชตอนนั้นก็กังวล และกลัวว่าถ้าสินค้าไม่ประสบความสำเร็จ ครอบครัวต้องเป็นหนี้ จนสร้างภาระให้พ่อแม่ ทำให้ช่วงนั้นเขาคิดมากจนนอนไม่หลับหลายวัน

แต่จุดที่ทำให้เขาเดินหน้าต่อกลับเป็นพนักงานของเขา..

วันหนึ่งขณะที่เขาเดินในโรงงาน เห็นพนักงานคนหนึ่งกำลังจะขี่รถมอเตอร์ไซค์กลับบ้าน โดยมีลูกตัวเล็กๆ มารออยู่เพื่อกลับบ้านด้วย

ทำให้คุณสารัชตัดสินใจเดินหน้าสู้ต่อ เพราะเขามองว่า เขาไม่ได้ทำเพื่อครอบครัวของเขาเท่านั้น แต่กำลังทำเพื่อครอบครัวของคนอื่นด้วย

ปัจจุบัน คุณสารัชมีมะขามแปรรูปกว่า 30 ชนิด และได้ส่งออกไปขายต่างประเทศด้วยเช่น จีน สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และแถบยุโรปรวมแล้วกว่า 20 ประเทศทั่วโลก

แต่ที่พีกที่สุดน่าจะเป็นมะขามจี๊ดจ๊าดที่วางขายใน 7-11

รู้ไหมว่ามะขามจี๊ดจ๊าดมียอดขายเฉียด 2 ล้านกระปุกต่อปี

รายได้บริษัท สารัชมาร์เก็ตติ้ง จำกัด

ปี 2550 รายได้ 18.6 ล้านบาท
ปี 2555 รายได้ 104.9 ล้านบาท
ปี 2559 รายได้ 156.4 ล้านบาท

วันแรกที่ครอบครัวกมลธรไท เริ่มทำมะขามแปรรูปขาย พวกเขาก็คงนึกไม่ถึงว่าจะมีรายได้ขนาดนี้

เรื่องนี้ทำให้เราคิดได้ว่า การทำธุรกิจโดยขายสินค้าธรรมดาๆ แต่แฝงไปด้วยคุณภาพก็ทำให้ประสบความสำเร็จได้

สิ่งสำคัญคือ เราต้องรู้จักพัฒนาผลิตภัณฑ์ แพกเกจจิ้ง แบรนด์ ให้ทันตามยุคสมัยเพื่อตอบสนองลูกค้า

ถ้าวันนี้เราอยากทำสินค้าอะไรขาย ลองดูตัวอย่างนี้

ไม่แน่เราอาจประสบความสำเร็จเหมือน มะขามจี๊ดจ๊าดก็ได้ ใครจะไปรู้..
----------------------
<ad> หากร้านกาแฟของเราขายดี เหมือนมะขามจี๊ดจ๊าด ขอแนะนำเครื่องเรียกคิวไร้สาย QTY ที่จะเปลี่ยนร้านกาแฟของคุณให้ดูโปร ลดรายจ่ายได้หลักล้านต่อปี ซื้อแล้วไม่ลดรายจ่าย รายได้ไม่เพิ่ม ยินดีคืนเงิน !

แจ้งว่ามาจากลงทุนแมน รับส่วนลด 3,000 บาท
Line : @qtyq FB : QtY : queue calling system Website : www.qtyqcalling.com
----------------------
Reference
-http://www.sarach.com/
-https://www.youtube.com/watch?v=d9yz91MUEKo
-http://www.komchadluek.net/news/lifestyle/146658