สรุปผลประกอบการ APPLE ไตรมาสล่าสุด

สรุปผลประกอบการ APPLE ไตรมาสล่าสุด

30 ม.ค. 2019
สรุปผลประกอบการ APPLE ไตรมาสล่าสุด / โดย ลงทุนแมน
Apple เพิ่งประกาศผลประกอบการออกมาในวันนี้
มีหลายเรื่องน่าสนใจ
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ปีที่ผ่านมา..
มูลค่าของบริษัท Apple ทำจุดสูงสุดตลอดกาลที่ระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
หรือประมาณ 32 ล้านล้านบาท
คิดเป็นมูลค่ากว่า 2 เท่าของ มูลค่าบริษัททั้งหมดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยรวมกัน..
อย่างไรก็ตาม ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา มีมรสุมมากมายเกี่ยวกับสินค้าของ Apple
ทั้งในมุมมองของผู้ใช้งานว่าราคาแพงเกินไป
รวมถึง Supplier หลักอย่าง Foxconn ที่ต้องปรับโครงสร้าง
ลดคนงาน และลดกำลังการผลิตเพราะยอดขาย iPhone รุ่นใหม่ตกลง..
เรื่องราวทั้งหมดนี้สะท้อนไปยังมูลค่าตลาดปัจจุบันของ Apple ที่ตกลงเกือบ 30%
คิดเป็นมูลค่าที่หายไปกว่า 8.45 ล้านล้านบาท..
แล้วผลประกอบการ Apple ในไตรมาสล่าสุดเป็นอย่างไร?
ก่อนอื่นเรามาเริ่มที่ปีงบการเงิน (Fiscal Year) ของ Apple กันก่อน
รู้หรือไม่ว่าบริษัท Apple ไม่ได้ปิดงบปีในเดือนธันวาคม แต่จริงๆ แล้วเป็นเดือนกันยายน
หมายความว่าตัวเลขที่เราจะได้เห็นทั้งหมดนี้จะเป็นตัวเลขของงบการเงินไตรมาสที่ 1 ปี 2019 นั่นเอง..
บริษัท Apple
ไตรมาสที่ 1 ปี 2018 รายได้ 2.78 ล้านล้านบาท
ไตรมาสที่ 1 ปี 2019 รายได้ 2.65 ล้านล้านบาท
ดูเผินๆ เหมือนกับว่าภาพรวมผลประกอบการของบริษัท Apple หดตัวลงถึง 4.6%
อย่างไรก็ตาม จากภาพรวมที่ดูแย่ลงกลับมีหลายเรื่องที่น่าสนใจซ่อนอยู่ในนี้
เรื่องแรกคือ..
รายได้ไตรมาสที่ 1 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่แล้ว
iPhone ลดลง 15%
Mac เพิ่มขึ้น 9%
iPad เพิ่มขึ้น 7%
Wearable เพิ่มขึ้น 33%
Service เพิ่มขึ้น 19%
จากตัวเลขดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า สินค้าส่วนใหญ่ดูเหมือนจะเติบโต
แต่รายได้ iPhone ที่เป็นสัดส่วนกว่า 60% จากรายได้รวมฉุดทุกอย่างลงมา..
เรื่องนี้ Tim Cook ให้เหตุผลหลักๆ ว่า iPhone รุ่นล่าสุดออกมาช้ากว่าปีก่อนๆ
รวมถึงค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น ทำให้ราคา iPhone มีราคาสูงขึ้นในมุมมองของหลายประเทศ
มากไปกว่านั้น รายได้ตามกลุ่มประเทศก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจ
สหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้น 5%
ยุโรป ลดลง 3%
จีน ลดลง 26%
ญี่ปุ่น ลดลง 5%
เอเชีย-แปซิฟิก เพิ่มขึ้น 1%
จะเห็นได้ชัดเจนว่า ประเทศจีนเป็นประเทศที่ซื้อสินค้า Apple ลดลงแบบชัดเจน
โดย Cook ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า พฤติกรรมคนจีนกำลังเปลี่ยนไปและใช้ iPhone รุ่นเก่านานขึ้น..
มาถึงตรงนี้หลายคนคงอยากรู้ว่า..
การหดตัวรายได้รวมของ Apple จะส่งผลต่อกำไรขนาดไหน?
บริษัท Apple
ไตรมาสที่ 1 ปี 2018 กำไร 6.31 แสนล้านบาท
ไตรมาสที่ 1 ปี 2019 กำไร 6.28 แสนล้านบาท
เรื่องนี้อาจทำให้หลายคนแปลกใจ
แม้ว่า Apple จะไม่เติบโตด้านรายได้ แต่ยังสามารถจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายได้ดี
และสามารถทำกำไรได้ในระดับเดิม
ยังไม่หมดเพียงแค่นี้..
จุดที่น่าสนใจที่สุดของ Apple คงหนีไม่พ้นกำไรต่อหุ้น (EPS)
ไตรมาสที่ 1 ปี 2018 EPS 3.92 ดอลลาร์สหรัฐ
ไตรมาสที่ 1 ปี 2019 EPS 4.22 ดอลลาร์สหรัฐ (all-time high)
กำไรเท่าเดิม แต่ได้กำไรต่อหุ้นมากสุดเป็นประวัติการณ์
Apple ทำได้อย่างไร?
Apple เป็นบริษัทที่มีเงินสดในมือมากสุดในโลกมีมูลค่าประมาณ 7.7 ล้านล้านบาทในขณะที่บริษัทมีหนี้อยู่ประมาณ 3.6 ล้านล้านบาท
หมายความว่าปัจจุบัน Apple มีสถานะเงินสดสุทธิในปัจจุบัน 4.1 ล้านล้านบาท
ทั้งนี้ Apple วางแผนให้มีสถานะเงินสดสุทธิของบริษัทเป็น 0 บาท
หมายความว่า Apple ตั้งใจจะนำเงินทั้งหมด 4.1 ล้านล้านบาทคืนให้กับนักลงทุนผ่านการซื้อหุ้นคืน และการจ่ายปันผล
ในไตรมาสล่าสุด Apple ซื้อหุ้นคืนและจ่ายปันผลรวม 4.1 แสนล้านบาท
เมื่อหุ้นถูกซื้อคืน จำนวนหุ้นในตลาดน้อยลง
ทั้งหมดนี้จึงทำให้ กำไรต่อหุ้นของ Apple สูงขึ้นได้ ถึงแม้ว่าจะมีกำไรเท่าเดิม..
จากเรื่องราวทั้งหมดนี้สรุปได้ว่า
ธุรกิจ Apple กำลังอยู่ในวงจรที่อาจจะไม่ได้เติบโตแบบแต่ก่อน
แต่ก็ยังสามารถสร้างผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นได้
นับว่าเป็นกรณีศึกษาทางการเงินที่น่าสนใจ
หลังการประกาศงบไตรมาสที่ 1
ราคาหุ้น Apple หลังปิดตลาดดีดตัวขึ้นไปกว่า 5.37%
ปิดท้ายด้วยคำถามชวนคิดว่าหากเราเป็นนักลงทุน เราจะซื้อหุ้น Apple ในตอนนี้หรือไม่ ?
อาจมีบางคนบอกว่า ยังไม่ซื้อ เพราะดูแล้ว iPhone ของ Apple น่าจะถดถอยลงเรื่อยๆ ซึ่งจะทำให้กำไรของบริษัทลดลงอีกมาก
แต่ในขณะเดียวกัน ก็อาจมีบางคนบอกว่า Apple ไม่ได้แย่อย่างที่คิด ถึงแม้กำไรไม่โต แต่ในระหว่างนี้ถ้าซื้อหุ้นคืนเรื่อยๆ กำไรต่อหุ้นก็โตได้เหมือนกัน..
----------------------
CEO ของ APPLE ได้ค่าตอบแทนเท่าไร อ่านต่อที่ https://www.blockdit.com/articles/5c4af6dde3a0774a5d4f95ef
โหลดแอป blockdit ได้ที่ blockdit.com
----------------------
References
-Apple Newsroom - Press Release January, 2019
Tag: apple
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.