น้ำปลาทิพรส รายได้ดีแค่ไหน?

น้ำปลาทิพรส รายได้ดีแค่ไหน?

5 ส.ค. 2017
เคยสงสัยไหมว่า ใครเป็นคนค้นพบน้ำปลา?
น้ำปลามีมานานหรือยัง?
ใครเป็นเจ้าของน้ำปลาทิพรส น้ำปลาที่ดังสุดในไทย?
แล้วน้ำปลา กับ ซีอิ๊ว อะไรขายดีกว่ากัน?
ทุกวันนี้น้ำปลาเป็นหนึ่งในเครื่องปรุงรสอาหารที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับคนไทย แต่ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 100 ปีที่แล้ว คนไทยนิยมใช้เกลือ และยังไม่รู้จักน้ำปลาด้วยซ้ำไป
คนที่แนะนำให้เรารู้จักกับมัน คือ ชาวจีนที่ชื่อว่า ไล่เจี๊ยง แซ่ทั้ง ผู้ก่อตั้ง บริษัท ไพโรจน์ (ทั่งซังฮะ) จำกัด
ด้วยประสบการณ์ที่เคยทำงานในโรงงานน้ำปลาที่ประเทศจีนมาก่อน นายไล่เจี๊ยง ได้ทดลองทำน้ำปลาออกมาขายครั้งแรกในปี พ.ศ. 2456 ให้กับชาวบ้านในจังหวัดชลบุรี
และภายในเวลาไม่กี่ปี ความหอมกลมกล่อมของน้ำปลาที่ต่างจากการใช้เกลือ ก็เป็นที่ยอมรับและเริ่มได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย
จนในปี พ.ศ. 2462 โรงงานผลิตน้ำปลา ทั่งซังฮะ ก็ถือกำเนิดขึ้นที่ท่าเรือฮกเกี้ยน จังหวัดชลบุรี และน้ำปลาตรา ทิพรส ก็ออกขายในท้องตลาดเป็นครั้งแรก
กิจการน้ำปลาที่เริ่มโดยนายไล่เจี๊ยงมีการเจริญเติบโตขึ้นอย่างเป็นลำดับ จากโอ่งดิน สู่ถังไม้ จากถังไม้สู่บ่อคอนกรีต จนมาทายาทรุ่นต่อมา จากโรงงานเดียว เพิ่มเป็นหลายโรงงาน
แล้วปัจจุบัน น้ำปลาทิพรสมีรายได้ดีแค่ไหน?
ปี 2559 บริษัท ไพโรจน์ (ทั่งซังฮะ) จำกัด มีรายได้ 2,437 ล้านบาท ต้นทุนขาย 1,857 ล้านบาท และ มีกำไรสุทธิมากถึง 244 ล้านบาท
แล้วถ้าถามว่าบริษัท น้ำปลา กับ ซีอิ๊ว ใครรายได้ดีกว่ากัน?
ถ้าเทียบกับบริษัทอันดับหนึ่งในเรื่องของซีอิ๊ว บริษัท หยั่น หว่อ หยุ่น ตรา เด็กสมบูรณ์ ในบทความที่เคยเขียนไปแล้ว บริษัทนั้นมีรายได้มากถึง 5,000 ล้านบาท
ก็คงสรุปได้คร่าวๆว่า รายได้ที่หนึ่งของบริษัทน้ำปลา น้อยกว่า รายได้ที่หนึ่งของบริษัทซีอิ๊ว อยู่พอสมควร
แล้วทิพรสมีรายได้มากแค่ไหนเมื่อเทียบกับคู่แข่ง?
น้ำปลาที่มีชื่อเสียงรองลงมาก็น่าจะเป็นน้ำปลาตราปลาหมึก
ปี 2559 บริษัท โรงงานน้ำปลาไทย(ตราปลาหมึก) จำกัด มีรายได้ 851 ล้านบาท ต้นทุนขาย 657 ล้านบาท และ มีกำไรสุทธิ 48 ล้านบาท
จะเห็นได้ว่าน้ำปลาทิพรสมีรายได้และกำไรห่างจากคู่แข่งอยู่หลายช่วงตัว
เห็นอย่างนี้แล้วต่อไปเวลาเราได้พริกน้ำปลาแถมมากับข้าวจานหลัก เราอย่าเห็นว่ามันไม่มีค่า อย่างน้อยบริษัทน้ำปลาทิพรสก็มียอดขายมหาศาลหลักพันล้านบาท
แล้วผู้อ่านคิดว่ามีสินค้าอะไรที่ดูเหมือนไม่มีค่าแต่จริงๆแล้วทุกคนใช้กันเยอะแบบนี้อีก? มาร่วมแชร์ข้อมูลกันได้ครับ
ที่มา: กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.