หุ้นเทคโนโลยี กำลังครอบครองดัชนี S&P500

หุ้นเทคโนโลยี กำลังครอบครองดัชนี S&P500

28 ก.พ. 2020
หุ้นเทคโนโลยี กำลังครอบครองดัชนี S&P500 /โดย ลงทุนแมน
ดัชนี S&P500 ไม่เพียงแต่เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา
เนื่องจากเป็นตัวแทนของบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่จำนวน 500 บริษัท
แต่ดัชนีนี้ยังเป็นหนึ่งในดัชนีที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนจำนวนมาก
ที่ต้องการกระจายความเสี่ยงจากการลงทุน
โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการมาลงทุนในกองทุนดัชนี
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าวันนี้ดัชนี S&P500 กำลังถูกถ่วงน้ำหนัก
โดยหุ้นของบริษัทเพียงไม่กี่แห่ง
เรื่องนี้เป็นอย่างไร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit ที่สุดของแอปมีสาระ
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ดัชนี S&P500 ก่อตั้งขึ้นในปี 1957 หรือเมื่อ 63 ปีก่อน
ปัจจุบัน มูลค่าของบริษัทใน S&P500 นั้นอยู่ที่ 918 ล้านล้านบาท
ซึ่งใหญ่กว่าตลาดหุ้นไทยประมาณ 57 เท่า
ดัชนี S&P500 คำนวณมาจากหุ้นขนาดใหญ่จำนวน 500 ตัว
จากทั้งตลาดหุ้น NYSE และตลาดหุ้น Nasdaq ซึ่งเป็น 2 ตลาดหลักในสหรัฐอเมริกา
โดยหุ้นที่ถูกนำมาคำนวณในดัชนีต้องเป็นหุ้นที่มีมูลค่าตลาดสูง และมีสภาพคล่องที่ดี
และด้วยความที่รวบรวมบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่ง ครอบคลุมหลายอุตสาหกรรม ทำให้นักลงทุนมองดัชนี S&P500 ว่าสามารถช่วยกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนได้
หลายบริษัทที่พอเอ่ยชื่อ
จะเป็นบริษัทที่ทุกคนคุ้นเคย เช่น
Alphabet บริษัทแม่ของ Google
Amazon บริษัทเทคโนโลยีด้าน E-commerce รายใหญ่ของโลก
Apple บริษัทเทคโนโลยีจำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รายใหญ่ของโลก
Exxon Mobil บริษัทพลังงานรายใหญ่ของโลก
Microsoft ผู้ผลิตและพัฒนาซอฟต์แวร์รายใหญ่ของโลก
หรือแม้แต่ Starbucks เชนร้านกาแฟรายใหญ่ของโลก
ครั้งหนึ่ง แม้แต่วอร์เรน บัฟเฟตต์ นักลงทุนชื่อดังของโลก เคยกล่าวเอาไว้ว่า “ถ้าคุณไม่รู้ว่าจะลงทุนอะไร ให้ลงทุนในกองทุนดัชนีที่คิดค่าธรรมเนียมต่ำ เพราะในระยะยาวมันจะช่วยสร้างผลตอบแทนที่ดีให้คุณได้”
คำพูดนี้ก็คงจะไม่ผิดอะไร เพราะการซื้อดัชนี S&P500 ก็เหมือนเราได้ร่วมเป็นเจ้าของบริษัทชั้นนำระดับโลกที่กล่าวมาทั้งหมด ซึ่งนับวันก็มีแต่ขยายกิจการ ขยายรายได้ ขยายกำไร ให้เติบโตขึ้นทุกปี
นับตั้งแต่ปี 1970-2019
ผลตอบแทนรวมของดัชนี S&P500 เฉลี่ยต่อปีเท่ากับ 10.6%
หมายความว่า ถ้าเราลงทุนด้วยเงิน 1 ล้านบาท
มาวันนี้เราจะมีเงินทั้งหมด 139 ล้านบาท จากระยะเวลาการลงทุนประมาณ 50 ปี
อย่างไรก็ตาม ดัชนี S&P500 นั้นถ่วงน้ำหนักด้วยมูลค่าตลาด (Capitalization-Weighted Index)
อธิบายแบบง่ายๆ ก็คือ หุ้นที่มีขนาดใหญ่ หรือ Market Cap สูง จะมีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงของดัชนีสูงกว่าหุ้นที่มีขนาดเล็ก หรือมี Market Cap ต่ำกว่า
หมายความว่า ต่อให้มีหุ้นจำนวน 500 ตัวประกอบอยู่ในดัชนี แต่ถ้าหุ้นเพียงแค่ 5 ตัวมีน้ำหนักต่อดัชนีมาก
การเคลื่อนไหวของหุ้น 5 ตัวนั้นก็จะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของดัชนีมาก ไม่ว่าหุ้นจำนวนที่เหลือราคาจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร
และนั่นคือ สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับดัชนี S&P500 ในเวลานี้
นั่นก็เพราะว่า ณ วันนี้ บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ 5 บริษัทกำลังมีอิทธิพลสำคัญต่อการเคลื่อนไหวของดัชนี
Apple มีมูลค่าหลักทรัพย์เท่ากับ 44 ล้านล้านบาท
Microsoft มีมูลค่าหลักทรัพย์เท่ากับ 44 ล้านล้านบาท
Amazon มีมูลค่าหลักทรัพย์เท่ากับ 34 ล้านล้านบาท
Alphabet มีมูลค่าหลักทรัพย์เท่ากับ 33 ล้านล้านบาท
Facebook มีมูลค่าหลักทรัพย์เท่ากับ 19 ล้านล้านบาท
เพียงแค่มูลค่าหลักทรัพย์ของ 5 บริษัทเทคโนโลยีนี้ ก็มีสัดส่วนกว่า 19% ของมูลค่าทั้งหมดของบริษัทในดัชนี S&P500
ที่น่าสนใจก็คือ
ถ้านับเฉพาะมูลค่าหุ้น Apple และ Microsoft รวมกัน ซึ่งมีมูลค่าเท่ากับ 88 ล้านล้านบาทนั้น กลับมีมูลค่ามากกว่ามูลค่ารวมของหุ้นทุกตัวในแต่ละอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมพลังงาน สาธารณูปโภค อสังหาริมทรัพย์ หรือเหมืองแร่เสียอีก
ในปี 2019
ดัชนี S&P500 นั้นเพิ่มขึ้นกว่า 28.8% เพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2013
แน่นอนว่าทำให้คนที่ลงทุนในดัชนีดังกล่าวได้ผลตอบแทนที่ดี ส่วนหนึ่งก็มาจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นเทคโนโลยีดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ถ้าเรามองลึกลงไป
คนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงจากการลงทุน
ณ ตอนนี้ อาจกำลังพบกับความเสี่ยงที่เกิดจากการกระจุกตัวของอุตสาหกรรมที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี
เพราะหุ้นเทคโนโลยีกำลังครองสัดส่วนหลักในดัชนี S&P500
แต่ถ้ามองในอีกแง่หนึ่ง ดัชนีนี้ก็คงไม่ผิดอะไร
ถ้าเราคิดว่า ชีวิตมนุษย์กำลังดำเนินเข้าสู่โลกใหม่
โลกที่ถูกครอบงำโดยเทคโนโลยี..
----------------------
Blockdit ที่สุดของแอปมีสาระ
Blockdit.com/download
----------------------
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-https://markets.businessinsider.com/index/s&p_500
-https://markets.businessinsider.com/index/s&p_500
-https://edition.cnn.com/2020/02/10/investing/sp-500-tech-stocks/index.html
-https://ycharts.com/stocks
© 2024 Longtunman. All rights reserved. Privacy Policy.