ธุรกิจ Ridesharing กำลังได้รับผลกระทบ /โดย ลงทุนแมน

อยากชอปปิง เปิดแอป Lazada, Shopee
อยากดูหนัง เปิดแอป Netflix
อยากฟังเพลง เปิดแอป Spotify, JOOX
อยากทานอาหาร เปิดแอป 7-Delivery, Grab, Foodpanda, LINE MAN

และถ้าอยากไปข้างนอก เปิดแอป..
รอก่อน..
ข้างนอกกำลังเกิดโรคระบาด COVID-19
ไม่ไปดีกว่า..

ในสถานการณ์เช่นนี้
หลายคนทราบดี ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ
คือ การท่องเที่ยว สายการบิน โรงแรม ร้านอาหาร
สถานที่ที่มีคนจำนวนมากแออัดกันอยู่อย่าง งานอีเวนต์ งานแต่งงาน โรงภาพยนตร์ สวนสนุก สถานบันเทิง

ส่วนธุรกิจที่ได้ประโยชน์ คือธุรกิจที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์การอยู่แต่บ้านได้
อย่างเช่น แพลตฟอร์มออนไลน์ ออนดีมานด์ต่างๆ

แต่.. มีอยู่ธุรกิจหนึ่ง เป็นแพลตฟอร์มออนดีมานด์
แต่กลับไม่ได้ประโยชน์เหมือนเพื่อนๆ ซ้ำยังได้รับผลกระทบจาก COVID-19 เต็มๆ
นั่นคือธุรกิจ “Ridesharing”
╔═══════════╗
Blockdit แหล่งรวมบทความวิเคราะห์ เจาะลึกแบบ deep content ล่าสุดมีฟีเจอร์พอดแคสต์แล้ว
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
เมื่อเราเลือกอยู่บ้านนานขึ้น
และเลือกที่จะออกไปเที่ยวข้างนอกน้อยลง

เลือกที่จะไม่ไปท่องเที่ยว ไม่ไปสนามบิน ไม่ไปห้างสรรพสินค้า ไม่ไปสถานบันเทิง

เลยทำให้เราเลือกใช้บริการ Ridesharing น้อยลงเช่นกัน..

ปกติถ้าอยากไปไหน อยากกลับบ้านตอนไหน
เราเพียงเปิดแอป แล้วเรียกคนขับรถมารับได้ทันที ตลอด 24 ชั่วโมง

แต่ถ้าเราไม่ได้ออกไปไหน ก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องใช้บริการเรียกรถจากแอปดังกล่าว

เมื่อผู้คนไม่เปิดแอป ไม่เรียกรถ
พาร์ตเนอร์ผู้ขับรถ จะสูญเสียลูกค้าและรายได้
ส่วนเจ้าของแพลตฟอร์ม ก็จะสูญเสียส่วนแบ่งรายได้

ในขณะเดียวกัน การแพร่ระบาดของโรค COVID-19
ทำให้หลายคนเริ่มรู้สึกว่า
เวลาจะออกไปไหนมาไหน อยากใช้ยานพาหนะส่วนตัวมากกว่า
โดยเฉพาะกลุ่มคนที่พอจะมีกำลังซื้อ

เพราะมันรู้สึกสบายใจ และปลอดภัยกว่าการที่ต้องไปใช้รถร่วมกับคนอื่น

ซึ่งหนึ่งในความกังวล ที่ผู้คนตระหนกในเรื่องการแพร่ของเชื้อไวรัส
ก็คือการใช้สิ่งของ หรือทรัพย์สินร่วมกันกับคนอื่น

ใช้ช้อน ใช้แก้ว สัมผัสสิ่งของ จับราวบันได จับราวเหล็กบนรถไฟฟ้า
ซึ่งอาจรวมไปถึง การใช้รถร่วมกับคนอื่นด้วย..

เมื่อเราใช้บริการเรียกรถ Ridesharing
บางทีก็อาจกังวลทั้งตัวคนขับ
ที่ต้องขับไปรับผู้โดยสารหลายคนต่อวัน

ทั้งประตูรถที่จับ เบาะรถที่นั่ง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าผ่านการสัมผัสจากใครต่อใครมาบ้างแล้ว

ถึงแม้จะไม่มีเชื้อไวรัส บนสิ่งเหล่านี้จริง
แต่อย่างไรเราก็รู้สึก “ไม่สบายใจ” ไปก่อนแล้ว

กลับกัน ถ้าใช้รถส่วนตัว ก็อาจไม่รู้สึกกังวลในเรื่องนี้เท่า

นอกจากเรื่องความปลอดภัย ความสบายใจที่ได้นั่งรถของตัวเอง
หลายคนก็อยากได้ “ความเป็นส่วนตัว”

ซึ่งเมื่อเราใช้รถส่วนตัว
ก็จะสบายใจ ที่จะพูดอะไร จะทำอะไรก็ได้บนรถ โดยไม่ต้องเกรงใจใคร

ซึ่งเรื่องนี้ก็น่าเป็นห่วง เพราะเจ้าของแพลตฟอร์ม ที่เป็นธุรกิจสตาร์ตอัป
ต้องผลาญเงินในการทำธุรกิจค่อนข้างสูง

เมื่อแหล่งเงินทุนจากการดำเนินธุรกิจ ก็คือส่วนแบ่งรายได้ค่าบริการเรียกรถลดลง
ก็ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องของธุรกิจอย่างเลี่ยงไม่ได้

และถ้าพูดถึงเรื่องการระดมทุนเพิ่มเติม เพื่อแก้ปัญหาสภาพคล่องหรือขยายธุรกิจ
ในสถานการณ์เช่นนี้ นักลงทุนคงไม่มีอารมณ์มาให้ทุนสักเท่าไร

ส่วนตัวคนขับรถ
หลายคนก็เอารายได้เสริมจากส่วนนี้ มาใช้จ่ายเลี้ยงชีพตัวเองและครอบครัว
เพราะรายได้จากส่วนอื่น เช่น เงินเดือนประจำอาจไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ

และบางคน ก็อาจไม่มีรายได้จากแหล่งอื่นเลย..

ดังนั้นช่วงนี้ ช่วงที่ COVID-19 กำลังระบาด
คนขับรถ Ridesharing เพื่อบริการส่งคนให้ถึงที่
อาจต้องเปลี่ยนอาชีพ ไปขับ Food Delivery เพื่อส่งอาหาร ในช่วงนี้แทนไปก่อน..
----------------------
Blockdit แหล่งรวมบทความวิเคราะห์ เจาะลึกแบบ deep content ล่าสุดมีฟีเจอร์พอดแคสต์แล้ว
Blockdit.com/download
----------------------
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman