
Emirates สายการบินระดับโลก ที่ไม่เคยเปลี่ยน CEO เลย ตลอด 36 ปี
27 เม.ย. 2021
Emirates สายการบินระดับโลก ที่ไม่เคยเปลี่ยน CEO เลย ตลอด 36 ปี | THE BRIEFCASE
ธุรกิจสายการบินเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง
จนหลายสายการบินขาดทุน และต้องออกจากตลาดไป
และยิ่งมาเจอการระบาดของโควิด 19 ในตอนนี้แล้ว
ธุรกิจนี้ ก็เรียกว่าเหมือนกำลังเจอฝันร้ายเลยทีเดียว
จนหลายสายการบินขาดทุน และต้องออกจากตลาดไป
และยิ่งมาเจอการระบาดของโควิด 19 ในตอนนี้แล้ว
ธุรกิจนี้ ก็เรียกว่าเหมือนกำลังเจอฝันร้ายเลยทีเดียว
แต่วันนี้เราลองมาดูความน่าทึ่งของสายการบินหนึ่ง
ที่ทำกำไรติดต่อกันได้ถึง 32 ปี และไม่เคยเปลี่ยน CEO เลยตลอด 36 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งมา
สายการบินนั้นคือ “สายการบิน Emirates”
ที่ทำกำไรติดต่อกันได้ถึง 32 ปี และไม่เคยเปลี่ยน CEO เลยตลอด 36 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งมา
สายการบินนั้นคือ “สายการบิน Emirates”
แล้ว CEO ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จนี้ คือใคร ?
THE BRIEFCASE จะสรุปให้ฟัง
THE BRIEFCASE จะสรุปให้ฟัง
ย้อนกลับไปเมื่อ 36 ปีที่แล้ว ท่านเชค อาห์เมด บิน ซาอีด อัล มัคตูม
สมาชิกของราชวงศ์ดูไบและดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีกลาโหมของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ได้ชักชวน เซอร์มัวริซ ฟลาเนแกน กรรมการผู้จัดการของ บริษัท dnata (Dubai National Air Travel Agency) ที่ให้บริการและดูแลบริหาร การเดินทางทางอากาศ รวมทั้งงานบริการภาคพื้นดินให้แก่สนามบินต่าง ๆ มาเริ่มทำธุรกิจสายการบิน
สมาชิกของราชวงศ์ดูไบและดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีกลาโหมของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ได้ชักชวน เซอร์มัวริซ ฟลาเนแกน กรรมการผู้จัดการของ บริษัท dnata (Dubai National Air Travel Agency) ที่ให้บริการและดูแลบริหาร การเดินทางทางอากาศ รวมทั้งงานบริการภาคพื้นดินให้แก่สนามบินต่าง ๆ มาเริ่มทำธุรกิจสายการบิน
เนื่องจากในช่วงนั้น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กำลังวางรากฐานให้ตนเองเป็นศูนย์กลางทางด้านการบิน เพราะมีจุดได้เปรียบคือมีที่ตั้งประเทศอยู่ตรงกลางระหว่างเอเชียและยุโรป
มีการพัฒนาสนามบินนานาชาติดูไบ ให้พร้อมเป็นศูนย์กลางทางการบินของภูมิภาคและของโลก และก็ได้ถือโอกาสนี้ปลุกปั้นสายการบินประจำชาติขึ้นมา
โดยได้เลือกคำว่า “Emirates” เป็นชื่อของสายการบิน
โดยได้เลือกคำว่า “Emirates” เป็นชื่อของสายการบิน
ภายหลังจากการพูดคุยกันได้ 3 เดือน เซอร์มัวริซ ฟลาเนแกน ก็ได้รับภารกิจจากท่านเชคว่า ให้ก่อตั้งสายการบินที่ดูดี และทำกำไรได้ โดยมีเงินทุนตั้งต้นให้ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 300 ล้านบาท
และจะไม่มีการป้องกันเรื่องการเมืองทางอากาศ (Aeropolitical Protection)
หรือเงินอุดหนุนใด ๆ อีก ตามนโยบาย Open Skies ของดูไบ
และจะไม่มีการป้องกันเรื่องการเมืองทางอากาศ (Aeropolitical Protection)
หรือเงินอุดหนุนใด ๆ อีก ตามนโยบาย Open Skies ของดูไบ
หลังจากก่อตั้งสายการบินขึ้นในปี 1985 ท่านเชค อาห์เมด บิน ซาอีด อัล มัคตูม
ก็ได้เข้ามาบริหารและดำรงตำแหน่ง CEO ของ Emirates Group
ที่ดูแลทั้งบริษัท dnata และสายการบิน Emirates
ก็ได้เข้ามาบริหารและดำรงตำแหน่ง CEO ของ Emirates Group
ที่ดูแลทั้งบริษัท dnata และสายการบิน Emirates
โดยในช่วงเริ่มต้น สายการบิน Emirates ได้เช่าเครื่องบินจากสายการบินนานาชาติปากีสถาน
จำนวน 2 ลำ เพื่อดำเนินกิจการ
จำนวน 2 ลำ เพื่อดำเนินกิจการ
โดยเที่ยวบินแรก บินจากดูไบ ไปยังเมืองการาจีในปากีสถาน และมุมไบในอินเดีย
หลังจากดำเนินกิจการมาได้ 2 ปี สายการบิน Emirates ก็มีเครื่องบินลำแรกเป็นของตัวเอง
คือ เครื่องแอร์บัส A310-304 และขยายเส้นทางการบินโดยมีจุดหมายปลายทาง 14 แห่งได้ภายใน 5 ปี
คือ เครื่องแอร์บัส A310-304 และขยายเส้นทางการบินโดยมีจุดหมายปลายทาง 14 แห่งได้ภายใน 5 ปี
โดยในช่วงแรก เป็นช่วงที่สายการบิน Emirates มีการเปลี่ยนแปลงมาก
และด้วยวิสัยทัศน์และต้องการเป็นศูนย์กลางการบินของโลก
Emirates จึงลงทุนพัฒนาและเป็นสายการบินแรกที่นำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาใช้บนเครื่องบิน เช่น
และด้วยวิสัยทัศน์และต้องการเป็นศูนย์กลางการบินของโลก
Emirates จึงลงทุนพัฒนาและเป็นสายการบินแรกที่นำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาใช้บนเครื่องบิน เช่น
- ติดตั้งระบบวิดีโอในทุกที่นั่ง และในทุกชั้นห้องโดยสารตลอดทั้งฝูงบิน
- นำระบบโทรคมนาคมมาใช้บนเครื่องแอร์บัสสำหรับชั้นโดยสารทั้งสามชั้น
- ติดตั้งอุปกรณ์เครื่องโทรสารบนเครื่องให้กับฝูงบินแอร์บัสของตนเอง เพื่อการสื่อสารของลูกค้าขณะบินอยู่กลางอากาศ
- นำระบบโทรคมนาคมมาใช้บนเครื่องแอร์บัสสำหรับชั้นโดยสารทั้งสามชั้น
- ติดตั้งอุปกรณ์เครื่องโทรสารบนเครื่องให้กับฝูงบินแอร์บัสของตนเอง เพื่อการสื่อสารของลูกค้าขณะบินอยู่กลางอากาศ
จากนั้นก็ขยายกิจการจนสามารถซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 777 ซึ่งเป็นเครื่องบินระยะไกล และเป็นหนึ่งในรุ่นที่ดีที่สุด ได้อีกจำนวน 7 ลำ การสั่งซื้อในครั้งนั้นทำให้ Emirates กลายเป็นข่าวพาดหัวไปทั่วโลก
หลังจากนั้นบริษัทก็เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ และ Emirates ก็เริ่มขยายธุรกิจไปลงทุนในสายการบินอื่นด้วย
ในปี 1998 Emirates ซื้อหุ้น 43% ใน Air Lanka ซึ่งเป็นสายการบินจากประเทศศรีลังกา คิดเป็นมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท และเซ็นสัญญาสำหรับการเข้าบริหารจัดการเป็นระยะเวลา 10 ปี
ในปี 1998 Emirates ซื้อหุ้น 43% ใน Air Lanka ซึ่งเป็นสายการบินจากประเทศศรีลังกา คิดเป็นมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท และเซ็นสัญญาสำหรับการเข้าบริหารจัดการเป็นระยะเวลา 10 ปี
อย่างไรก็ตาม การทำธุรกิจสายการบินก็ไม่ได้มีเพียงแต่เรื่องการบินเท่านั้น
แต่การสร้างแบรนด์ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ Emirates ให้ความสำคัญ
เพราะทางบริษัทมองว่า การที่ลูกค้ารับรู้และจดจำแบรนด์ตนเองจะช่วยสร้างมูลค่าให้แก่ธุรกิจมากในอนาคต
แต่การสร้างแบรนด์ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ Emirates ให้ความสำคัญ
เพราะทางบริษัทมองว่า การที่ลูกค้ารับรู้และจดจำแบรนด์ตนเองจะช่วยสร้างมูลค่าให้แก่ธุรกิจมากในอนาคต
ดังนั้น Emirates จึงได้ลงนามสัญญามูลค่ากว่า 4,300 ล้านบาท กับทีมอาร์เซนอล
สโมสรในพรีเมียร์ลีกของอังกฤษ ซึ่งรวมถึงสิทธิ์ในชื่อสนามกีฬาใหม่เป็นเวลา 15 ปี
นั่นก็คือสนาม Emirates Stadium
และเป็นผู้สนับสนุนโฆษณาบนหน้าอกเสื้อทีมฟุตบอลเป็นเวลา 8 ปี
เริ่มตั้งแต่ฤดูกาล 2006/07 เป็นต้นไป
สโมสรในพรีเมียร์ลีกของอังกฤษ ซึ่งรวมถึงสิทธิ์ในชื่อสนามกีฬาใหม่เป็นเวลา 15 ปี
นั่นก็คือสนาม Emirates Stadium
และเป็นผู้สนับสนุนโฆษณาบนหน้าอกเสื้อทีมฟุตบอลเป็นเวลา 8 ปี
เริ่มตั้งแต่ฤดูกาล 2006/07 เป็นต้นไป
นอกจากนี้การต่อสัญญาใหม่ในปี 2012 และ 2018
ก็ทำให้สายการบิน Emirates กลายเป็นผู้สนับสนุนโฆษณาบนหน้าอกเสื้อทีมฟุตบอลที่ยาวนานที่สุดในพรีเมียร์ลีก และเป็นหนึ่งในความสัมพันธ์เชิงพันธมิตรที่ยาวนานที่สุดในวงการกีฬาโลก
ก็ทำให้สายการบิน Emirates กลายเป็นผู้สนับสนุนโฆษณาบนหน้าอกเสื้อทีมฟุตบอลที่ยาวนานที่สุดในพรีเมียร์ลีก และเป็นหนึ่งในความสัมพันธ์เชิงพันธมิตรที่ยาวนานที่สุดในวงการกีฬาโลก
หลังจากซื้อโบอิ้ง 777 ไปในปี 1992
13 ปีต่อมา ทาง Emirates ก็ได้สั่งซื้อโบอิ้ง 777 เพิ่มอีก 42 ลำ คิดเป็นมูลค่ากว่า 300,000 ล้านบาท
และทำให้สายการบิน Emirates เป็นผู้ดำเนินการบินด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 777 ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
13 ปีต่อมา ทาง Emirates ก็ได้สั่งซื้อโบอิ้ง 777 เพิ่มอีก 42 ลำ คิดเป็นมูลค่ากว่า 300,000 ล้านบาท
และทำให้สายการบิน Emirates เป็นผู้ดำเนินการบินด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 777 ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
และอีกสิ่งสำคัญสำหรับการดำเนินธุรกิจการบินก็คือ “พนักงาน”
ยิ่งมีความต้องการที่จะเป็นสายการบินนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดของโลกแล้ว
ดังนั้นพนักงานต้อนรับของสายการบิน Emirates จึงมีถึง 172 สัญชาติ
ทำให้มีความหลากหลายทางเชื้อชาติและสามารถให้บริการได้ถึง 80 ภาษา
ยิ่งมีความต้องการที่จะเป็นสายการบินนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดของโลกแล้ว
ดังนั้นพนักงานต้อนรับของสายการบิน Emirates จึงมีถึง 172 สัญชาติ
ทำให้มีความหลากหลายทางเชื้อชาติและสามารถให้บริการได้ถึง 80 ภาษา
จากความพยายามที่ต้องการให้สายการบิน Emirates เป็นสายการบินระดับโลก ด้วยการลงทุนและพัฒนาในด้านต่าง ๆ อย่างมากมาย
จนในปี 2014 สายการบิน Emirates ก็ได้ชื่อว่าเป็น “แบรนด์สายการบินที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก”
จากการจัดอันดับของ Brand Finance โดยมีมูลค่าประมาณ 116,000 ล้านบาท
จากการจัดอันดับของ Brand Finance โดยมีมูลค่าประมาณ 116,000 ล้านบาท
และภายใต้การบริหารของท่านเชค อาห์เมด บิน ซาอีด อัล มัคตูม
สายการบิน Emirates ยังสามารถดำเนินกิจการจนมีผลกำไรเป็นเวลา 32 ปีติดต่อกัน
ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากในกลุ่มธุรกิจการบิน
สายการบิน Emirates ยังสามารถดำเนินกิจการจนมีผลกำไรเป็นเวลา 32 ปีติดต่อกัน
ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากในกลุ่มธุรกิจการบิน
โดยในปี 2020 (รอบบัญชี 1 เมษายน 2019 ถึง 31 มีนาคม 2020)
Emirates มีรายได้ 885,000 ล้านบาท กำไร 14,500 ล้านบาท
นอกจากนี้ Emirates ยังได้รับรางวัลเป็นสายการบินที่ดีที่สุดในโลก
และได้รับรางวัลสำหรับระบบความบันเทิงบนเที่ยวบินที่ดีที่สุดในโลกต่อเนื่องเป็นเวลา 12 ปี
Emirates มีรายได้ 885,000 ล้านบาท กำไร 14,500 ล้านบาท
นอกจากนี้ Emirates ยังได้รับรางวัลเป็นสายการบินที่ดีที่สุดในโลก
และได้รับรางวัลสำหรับระบบความบันเทิงบนเที่ยวบินที่ดีที่สุดในโลกต่อเนื่องเป็นเวลา 12 ปี
อย่างไรก็ตามในปี 2020 ที่ผ่านมา เกิดวิกฤติโรคระบาดของไวรัสโควิด 19
สายการบินทั่วโลกได้รับผลกระทบอย่างหนัก
สายการบินทั่วโลกได้รับผลกระทบอย่างหนัก
ทำให้ทาง Emirates ต้องหาทางสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้โดยสาร
โดยการออกมาตรการ ช่วยค่ารักษาพยาบาล ค่าใช้จ่ายในการกักตัว และค่าพิธีศพ ในกรณีมีผู้โดยสารติดเชื้อจากการเดินทางกับสายการบิน
โดยการออกมาตรการ ช่วยค่ารักษาพยาบาล ค่าใช้จ่ายในการกักตัว และค่าพิธีศพ ในกรณีมีผู้โดยสารติดเชื้อจากการเดินทางกับสายการบิน
และยังเป็นสายการบินแรก ๆ ของโลก ที่เสนอประกันการเดินทางให้กับผู้โดยสาร
ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด 19 อีกด้วย
ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด 19 อีกด้วย
แล้วในปัจจุบันสายการบิน Emirates ใหญ่แค่ไหน ?
ลองมาดูขนาดของฝูงบิน เทียบกับสายการบินที่คนไทยคุ้นเคย
ลองมาดูขนาดของฝูงบิน เทียบกับสายการบินที่คนไทยคุ้นเคย
- Emirates มีจำนวนฝูงบินทั้งหมด 270 ลำ มีเส้นทางการบินทั้งหมด 157 เส้นทาง
- การบินไทย มีฝูงบินจำนวน 103 ลำ (รวมสายการบินไทยสมายล์) มีเส้นทางการบินทั้งหมด 73 เส้นทาง ไม่รวมกรุงเทพมหานคร
- AirAsia มีฝูงบินจำนวน 252 ลำ มีเส้นทางการบินทั้งหมด 232 เส้นทาง
ใครจะไปคิดว่า จากเครื่องบินเช่าเพียง 2 ลำ เมื่อ 36 ปีก่อน
จะกลายมาเป็นสายการบิน Emirates ที่มีผู้ใช้บริการมากเป็นอันดับ 7 ของโลก
และทำกำไรได้ติดต่อกันมา 32 ปี
ภายใต้ผู้บริหารคนเดียว..
จะกลายมาเป็นสายการบิน Emirates ที่มีผู้ใช้บริการมากเป็นอันดับ 7 ของโลก
และทำกำไรได้ติดต่อกันมา 32 ปี
ภายใต้ผู้บริหารคนเดียว..
References
-https://www.emirates.com/th/english/about-us/timeline/
-https://economictimes.indiatimes.com/news/international/sri-lankan-airlines-buys-back-43-6-pc-stake-from-emirates/articleshow/6019634.cms?from=mdr
-https://www.longtunman.com/26625
-https://thai.listedcompany.com/misc/financials/th/20210225-thai-fs-fy2020-th-01.pdf
-https://www.emirates.com/th/english/about-us/our-people/leadership-team/
-https://www.settrade.com/simsImg/news/histri/202102/21021519.pdf
-https://www.emirates.com/th/english/about-us/timeline/
-https://economictimes.indiatimes.com/news/international/sri-lankan-airlines-buys-back-43-6-pc-stake-from-emirates/articleshow/6019634.cms?from=mdr
-https://www.longtunman.com/26625
-https://thai.listedcompany.com/misc/financials/th/20210225-thai-fs-fy2020-th-01.pdf
-https://www.emirates.com/th/english/about-us/our-people/leadership-team/
-https://www.settrade.com/simsImg/news/histri/202102/21021519.pdf